- 18 ม.ค. 2564
ถือเป็นอีกหนึ่งนักแสดงตลกอาวุโสที่ผ่านเรื่องราวชีวิตมาอย่างโชกโชนสำหรับ โน้ต เชิญยิ้ม ที่ล่าสุดออกมาเปิดใจถึงชีวิตช่วงที่ตกต่ำที่สุดผ่านทางรายการ โป๊งชึ่ง Show ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะมาอยู่ในจุดนี้ได้ ถึงขั้นไร้เงินสักบาทต้องกู้หนี้ยืมสินเขามาหลังวงเจ๊งก็ไปนั่งตามรายการ อยากให้เขาถาม ไปกินข้าวฟรี เอาข้าวกลับไปให้เมียด้วย
ถือเป็นอีกหนึ่งนักแสดงตลกอาวุโสที่ผ่านเรื่องราวชีวิตมาอย่างโชกโชนสำหรับ โน้ต เชิญยิ้ม ที่ล่าสุดออกมาเปิดใจถึงชีวิตช่วงที่ตกต่ำที่สุดผ่านทางรายการ โป๊งชึ่ง Show ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะมาอยู่ในจุดนี้ได้ ถึงขั้นไร้เงินสักบาทต้องกู้หนี้ยืมสินเขามาหลังวงเจ๊งก็ไปนั่งตามรายการ อยากให้เขาถาม ไปกินข้าวฟรี เอาข้าวกลับไปให้เมียด้วย โดนตัดน้ำตัดไฟ ลูกชายคนโตต้องหยุดเรียนไปปีหนึ่งเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเรียนเราเจ็บแต่เก็บอาการ ใครเจอผมไม่มีใครเชื่อว่าผมไม่มี ไม่ขอใคร เพราะถ้าใครมาบอกช่วยไอ้โน้ตหน่อยสงสาร ผมเดินกลับเลย อย่าสงสาร คุณค่าความเป็นมนุษย์เราหมด แต่ถ้าบอกให้งานทำ มันดีเมื่อก่อนมันยังงั้นยังงี้ แฮปปี้กว่า
ถามว่าตอนเราจนมากๆอาจไม่รู้สึกความลำบากแต่พอเรามีเงินแล้ว แต่ต้องกลับมาจนใหม่ เป็นยังไง โน้ต ยอมรับมันยากมาก แทบจะทำใจไม่ได้ เคยขับรถไป รังสิตคลอง6 คลอง7 ผมยิงปืนหมดแม็กเลย ยิงขึ้นฟ้า แล้วเปิดเพลงดังๆในรถ แล้วด่าตัวเองด่าหยาบๆคายๆ ระบาย มันจะบ้า ไปหาใครก็ไม่ได้ ขนาดไปธนาคารปกติผจก.เห็นรีบมาเชิญเข้าห้องไปทำธุรกรรมเลย ตอนเราแย่ๆ จะรีบเอาเช็คที่ได้ไปแลกเงินสดเพื่อไปใช้หนี้ แซงไป2คิว รปภ.ดึงเสื้อเลย ยื่นหน้าให้เห็นว่าโน้ต เชิญยิ้ม มันก็ไม่สนใจ มันก็ดึงเราไปเข้าแถว เราก็คิดว่าโอ้โหเวลาตก เป็นยังงี้เอง
ถามว่าผ่านช่วงนั้นกลับมายืนอีกครั้งได้ยังไง โน้ต เผยว่า ผมไปทุกสตูฯ ไปนั่ง ไปหาติ๊ก กลิ่นสี ไปเจเอสแอล ไปเจอหนูแหม่ม ไปเวิร์คพอยท์ ไม่มีใครถาม เราก็ไม่บอกว่าเราเจ็บไหม ไปหาไตรภพ วิทวัส ตอนนั้นเวิร์คพอยท์ ยังอัดอยู่สตูที่กรุงเทพ ชิงร้อยฯ เราไปนั่ง เขากินข้าวเรากินด้วย ไม่มีใครถาม ไม่มีใครเชื่อ กูไม่มีนะ กูไม่มีงานทำเลย ไม่มีตังค์สักสลึงเลย ลูกเมีย จะกินอะไร ปี40 ยุคฟองสบู่แตก
ตอนเลิกวงเป็นหนี้หลายล้าน ไม่มีรถสักคัน ไอ้คนที่คิดว่าดี ตอนเราไม่มี ไปหามัน รถมันก็จอดที่บ้าน แต่คนใช้มาบอกว่ามันไม่อยู่ เราเชื่อว่ามันอยู่ แอร์มันก็เปิด ทั้งบนทั้งล่าง เราต้องเดินไปปากซอยไปนั่งรถเมล์ บอกใครไม่มีตังค์ ไม่มีใครเชื่อหาว่าอำต้องขอบคุณ น้ามด นพพร วาทิน เขาเรียกผมน้าโน้ต เรียกผมไปถามตอนนี้แย่เหรอ เขาสนิทกับเป็ด เชิญยิ้ม บอกว่าเป็ดพูดให้ฟัง บอกเขาว่าผมเป็นหนี้ ซึ่งทรมานสุดคือใช้แต่ดอก ต้นไม่ยุบ กู้ดอกร้อย 10 ร้อยละ 12 กู้ตลกก็กู้ ผมยืมหมด โย่ง , แฉ่ง ช่อมะดัน
เคยเอาเช็คไปแลกเป็ด 2 แสน เขาอัดก่อนบ่ายฯ อยู่ เป็ดก็เอาตังค์มาให้ 2 แสน พอเราเดินออกมา มันเรียก เรานึกว่ามันจะด่า มันเอาเช็คฉีกทิ้ง คือมันให้เงินเราแหละ แต่มันก็ด่าเราเยอะนะ กูบอกมึงแล้ว ยังงี้ยังงั้น น้ามด เรียกผมไปบอกรับปากกับผมไหม กลับคืนสู่วงการ มาเล่นหนัง ละคร มาเล่นตลก เลิกทำวงดนตรีลูกทุ่งได้ไหม ถ้ารับปาก เขาเอาถุงสีน้ำตาลมาให้ บอกเอาไปใช้หนี้ เปิดดูเงินเต็มประมาณ 2-3 ล้านผมโทรหาเมียร้องไห้ มีคนแบบนี้อยู่ดีๆเอาเงินมาให้ไปใช้หนี้ บอกว่าจะคืนเงินก็ได้หรือทำงานใช้หนี้ก็ได้ อยากบอกว่าไม่เคยลืมบุญคุณแกเลย แกก็ทำให้ผมเกิด ให้ผมกำกับหนัง เรื่องแรกคนปีมะ เรื่องที่สอง หลวงพี่เท่ง ได้ตังค์ จากนั้นทำมาตลอด เขาเป็นเทวดาในใจผม และครอบครัว ไม่รู้ว่าเงินที่เขาให้ผม คืนเขาหมดหรือยัง