- 25 ม.ค. 2564
ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนต่างเฝ้าจับตามองกันอย่างใกล้ชิด สำหรับข่าวการติดเชื้อโควิด-19 ของ ดีเจมะตูม เตชินท์ ซึ่งตอนนี้กำลังรักษาตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล ได้รับกำลังใจจากคนบันเทิงและแฟนคลับอย่างล้นหลาม โดยล่าสุด ดีเจมะตูม ได้เปิดใจผ่านรายการคุยแซ่บSHOW ได้โฟนอินคุย พร้อมทั้งอัปเดตอาการ ระบุว่า
สรุปว่าเจอใบเฟิร์น พัสกร ล่าสุดเมื่อไหร่ ?
“ตูมเจอเฟิร์นล่าสุดคือวันที่ 25 ธันวาคม 2563 เจอพร้อมแอร์ หลังจากนั้นคือไม่ได้เจอเฟิร์นอีกเลยครับ ที่มีข่าวว่าเฟิร์นมางานตูม เพราะเฟิร์นเขาลงรูป เพราะว่าเขาส่งเค้กมาอวยพร ตัวไม่ได้มา ส่งแค่เค้กมา แต่เฟิร์นเอาภาพนั้นไปลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ตูม คนก็เลยเข้าใจว่าเฟิร์นมาด้วย แต่จริงๆ เฟิร์นไม่ได้มานะครับ”
อัปเดตอาการหน่อย ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
“ตั้งแต่ทราบว่าตัวเองมีเชื้อโควิดก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แล้วที่อยู่โรงพยาบาล อาการเบื้องต้นที่หมอแจ้งคือ ไม่มีไข้ ไม่มีไอ ไม่มีอะไรแทรกซ้อน แล้วก็จมูกกับลิ้นยังรับรส รับกลิ่นปกติดี แล้วมีการเอกซเรย์ปอดไปเมื่อวาน ผลออกมาก็เป็นที่น่าพอใจ ก็คือปอดไม่ได้มีเชื้อโควิด ข้างในไม่มีจุดอะไร ปกติครับ”
มีอาการเบื้องต้น ส่งสัญญาณให้รู้ว่าเราเป็นโควิด ?
“ของตูมอาการแทบไม่ออกเลย คือตูมเหมือนเป็นคนปกติคนหนึ่งที่มีผลโควิดเป็นบวก แต่ว่าไม่มีอาการไอ มีเสมหะนิดหนึ่งในลำคอ แต่ไม่ได้เป็นสีเขียว เป็นเสมหะปกติ ส่วนตัวตูมแพ้อากาศแพ้ฝุ่นอะไรอย่างนี้อยู่แล้ว เบื้องต้นจากที่ตูมรับเชื้อมาจากวันนั้น คือไม่มีอะไรเลย แต่ว่าสอบถามอาการของเพื่อนสนิทที่เขาติดมา เขาจะไม่ได้กลิ่น คือฉีดน้ำหอมไม่ได้กลิ่นน้ำหอม”
เคสที่ไม่แสดงอาการแบบนี้ คุณหมอว่ายังไงบ้าง ?
“คุณหมอให้รอดูอาการต่อไป เพราะว่าจริงๆ ตูมรับเชื้อมายังไม่ครบ 14 วันเลย คือการที่ตูมไม่ได้ป่วยในอาทิตย์นี้ มันไม่ได้หมายความว่าอาทิตย์หน้าตูมจะไม่ป่วย มันก็เป็นไปได้ เพราะตอนนี้ในร่างกายตูมยังคงมีเชื้อโควิดอยู่ ก็คือต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดต่อไป แนวทางการรักษาของตูมเนื่องด้วยตูมไม่มีไข้สูง หรือว่าไม่ได้มีอาการที่น่าเป็นห่วงอะไร ก็คือยังอยู่ในเคสเฝ้าระวัง แต่ก็คือทราบว่ามีเชื้อโควิด คือตัวตูมสามารถแพร่ระบาดได้ ตูมจะต้องไม่สัมผัสกับมนุษย์คนอื่นเลย ต้องกักตัวอยู่ในห้อง ต้องอยู่โรงพยาบาลให้ครบ 10 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการ และต่อให้ไม่มีไข้หรือไม่มีอะไรก็ต้องอยู่ให้ครบ 10 วัน พอครบ 10 วันปุ๊บเขาก็จะตรวจหาเชื้ออีกครั้ง เพราะว่าเมื่อวานเขามีการเจาะเลือดไปเรียบร้อยแล้ว คือตรวจอย่างละเอียดเลย ถ้าเกิดเจอเชื้อก็ต้องกักตัวอยู่ต่อที่นี่อีก จนกว่าจะเป็นลบ ถ้าเป็นลบตูมไม่มีอาการแทรกซ้อน ไม่ป่วย ไม่ไข้ ตูมก็สามารถออกไปใช้ชีวิตปกติได้เลยครับ”
ตั้งแต่เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณแม่บ้างไหม ?
“พูดครับ ตอนนี้คุณแม่ตูมก็อยู่ในช่วงการกักตัว เพราะว่าแม่ไปตรวจเชื้อแล้ว ตรวจพร้อมมะตูมเลย แล้วก็ผลเป็นลบ วันเสาร์นี้คือครบ 14 วัน หลังจากวันเกิดมะตูม คุณแม่ก็ต้องตรวจอีกครั้ง จริง ๆ คุณแม่ต้องตรวจถี่พอสมควรเลย”
ทุกคนไปตรวจไม่มีใครติด แต่ว่าอยู่ในช่วงกักตัว เพื่อรอดูอาการ
“ตูมพยายามไม่โทษตัวเอง ตูมไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น แล้วก็ไม่ได้อยากให้เกิดกับตัวใคร แต่ว่าถ้ามันเกิดขึ้นมาแล้ว ตูมก็ได้แต่เอาตัวเองเป็นวิทยาทานว่าเราต้องใช้ชีวิตยังไงกับโรคนี้ แล้วเราต้องต่อสู้อะไรกับมัน ปอดเราจะปกติไหมในอนาคต คือตูมต้องรายงาน ต้องแจ้งเพื่อให้ทุกคนได้รู้ ได้ตื่นแล้วก็ระวังตัว เพราะว่าจริง ๆ แล้วโรคนี้ไม่ได้น่ากลัวอีกไม่นานมันจะกลายเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา แต่ ณ เวลานี้เรายังไม่ได้มีวัคซีนร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นตูมยังยืนยันคำเดิมนะครับการที่คุณได้รับเชื้อโควิดแล้วเป็นโควิดไม่ได้น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ คุณเป็นแล้วคุณแพร่โดยที่คุณไม่รู้ตัวต่างหาก”
จากที่ไปงานวันเกิดมะตูม มีใครติดโควิดเพิ่มอีกไหม ?
“ตูมยังไม่ได้รับแจ้ง ตูมยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้างบนที่กินข้าวกันมันมี 13 คน ซึ่งตอนนี้ติดชัวร์ๆ แล้ว 2 คน มีคนรอผลตรวจอีก 2 คน แต่นอกเหนือจากนั้นได้รับผลตรวจแล้วว่าไม่ติด”
วันนั้นมีดาราไปไหม ?
“ไม่มีครับ วันเกิดตูมวันที่ 9 มกราคม ตูมมีการรับประทานอาหารค่ำบนรูฟท็อป ไม่มีคนในวงการไปเลยครับ”
ถ้าไม่มีคนในวงการบันเทิง มีเด็กเอ็น นายแบบ ?
“ตอบไปแล้วเมื่อวาน อยากให้มีมากเลย มีแต่เพื่อนที่ตูมสนิทหมดเลย ไม่มีเด็กเอ็น ไม่มีแม่เล้าครับ”
ทุกคนไปตรวจแล้ว ไม่มีใครเป็นเลย ทุกคนกักตัวอยู่ให้พ้น 14 วัน แล้วจะไปตรวจอีกครั้ง ?
“นี่คือสิ่งที่ตูมกังวลมากที่สุด เพราะตูมกลัวว่าตูมเป็นแบบซูเปอร์สเปรดเดอร์ในการที่เอาเชื้อมาแพร่ระบาด จริงๆ ถ้าคนธรรมดาติดก็คือรักษาตัวปกติ เพราะว่าตูมไม่ได้เป็นคนแรกในประเทศที่ติด แต่ว่าตูมเป็นคนในวงการคนแรกของปีนี้ แต่จริงๆ มันโชคดีเหมือนกันที่ตูมมาตรวจเจอก่อน”
รู้สึกยังไงที่คนพูดกันว่าเราเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ ?
“ก็ต้องรู้สึกแย่ มันไม่มีใครอยากเป็น ตูมพูดตรงๆ นะครับ ไม่มีใครกลัวการเป็นโควิด คือจริงๆ ตูมไม่ได้กลัวการเป็นโควิดหรอกครับ แต่ว่าตูมกลัวการเป็นจำเลยสังคมมากกว่า คนรู้สึกว่าการเปิดเผยไทม์ไลน์ตัวเอง มันเป็นอะไรที่น่าอาย หรือว่าน่าเป็นกังวลมากกว่าการที่ร่างกายของเราจะรับเชื้อมา จริงๆ แล้วตูมต้องยอมรับคำว่าซูเปอร์สเปรดเดอร์ของตูม ถ้าเกิดตูมเป็นจริงๆ ถ้าภายใน 2 อาทิตย์นี้มีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้น จำนวนมหาศาลจากงานของตูม หรือจากตูม ก็เป็นเพราะความชะล่าใจ ความหละหลวมของตูม โดยที่ตูมรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตูมก็ต้องกราบขอโทษล่วงหน้าอย่างไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ”
Cr.SPRINGNEWS