- 13 ส.ค. 2564
กว่าจะเป็นที่รู้จักไม่ง่ายเลย ... ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ยอมรับสยบลือซุกลูก ชีวิตนี้อุทิศตนให้สายข่าว ทำงานเกือบ 24 ชั่วโมง
นาทีนี้ไม่มีใครรู้จักชื่อของ แยม ฐปณีย์ เอียดศรีไชย นักข่าวภาคสนามชื่อดังที่กล้าบุก กล้าลุยไปทุกๆ ที่ ซึ่งถือว่าเธอเป็นนักข่าวสาวรุ่นแรกๆ ที่ถือว่ากล้าบุกลุยไปทั่วทุกที่ที่มีข่าวดัง ก่อนจะแจ้งเกิดด้วยวลีเด็ดตอนที่กำลังรายงานข่าวเข้าห้องส่งว่า "คุณกิตติคะ" ซึ่งนอกจาก แยม ฐปณีย์ จะเป็นนักข่าวสายลุยแล้ว เธอยังได้สร้างเพจที่ชื่อ The Reporters ขึ้นมาโดยมีความเชื่อมั่นในการรายงานข่าวเพื่อสันติภาพ ซึ่งมีผู้ติดตามนับล้าน
แต่อีกมุมหนึ่งที่ไม่มีใครรู้ของเธอก็คือ นอกจากจะเป็นนักข่าวสายลุยแล้ว เธอยังเป็นแม่ค้าขายขนมจีนและข้าวราดแกงประจำร้านอาหาร "บ้านพี่แยม" อีกด้วย อีกทั้งยังรับบทเป็นหัวหน้าครอบครัวของหลานๆ ซึ่งตารางชีวิตของเธอในแต่ละวันถูกกำหนดไว้เป๊ะๆ ไม่ต่างจากตารางข่าวที่ทำ ที่ต้องเร็ว ทันเวลา ถูกนำมาใช้กับชีวิตส่วนตัวที่มีภาระและความรับผิดชอบมากมาย
โดย แยม ฐปณีย์ ได้มาเปิดเผยเรื่องราวชีวิตของเธอในรายการ Club Friday Show เป็นที่แรกก็ว่าได้ ซึ่งเรื่องราวในชีวิตเธอนั้นน่าสนใจมาก เพราะการเป็นนักข่าวในคติ ฐปณีย์ เอียดศรีไชย นั้นต้องทำงานตลอดเวลา นอนแค่ 2 ชั่วโมง ขนาดนอนก็ทำงานได้แถมทำงานตอนละเมอ เพราะทุกวินาทีในชีวิตเรามันกลายเป็นข่าวไปหมด ต่อให้ตัวตายแต่ข่าวต้องออก
เปรียบให้เห็นภาพง่ายๆ คือ อย่างเวลาที่เราไปทำข่าวเราขึ้นเครื่องบินแล้วถ้าเกิดเครื่องบินตกเราก็คิดว่ากล้องอยู่กับเราหรือเปล่าแล้วเราต้องทำยังไงให้คนรู้ว่ามันเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทุกคนกำลังอยู่ในภาวะอันตรายเราก็อัดเสียงไว้เพื่อที่จะให้รู้สึกว่าเหตุการณ์เป็นแบบนี้ แม้ว่าเราเสียชีวิตไปก็มีภาพในมือถือเราก็ได้รายงานข่าวไว้ทุกวินาทีในชีวิตของเรามันกลายเป็นข่าวไปหมด
ส่วนในข่าวที่มีผลกระทบต่อจิตใจก็คือ กรณีของการช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮีนจาข่าวมันถูกบิดเบือนไปว่าเราต้องการช่วยเอาเขาเข้ามาในประเทศ กล่าวหาว่าไม่รักชาติบ้านเมืองถ้าเราอยากช่วยพวกนี้ก็เอาเขาไปเลี้ยงสิอะไรอย่างนี้ ซึ่งตอนนั้นเราก็ร้องไห้หนักมากเริ่มรู้สึกว่า เอ๊ะ !! การเป็นนักข่าวของเรามันแย่มากเหรอที่เราจะทำข่าวเพื่อช่วยคน
นอกจากเรื่องข่าวที่เปรียบเสมือนลมหายใจของ ฐปณีย์ เอียดศรีไชย แล้วอีกเรื่องลับๆ ที่ไม่ค่อยมีใครรู้นั่นก็คือ เรื่องหัวใจที่เคยอกหักเสียใจร้องไห้ตลอดเวลา แถมไปดื่มให้ลืมเธอจนกระเพาะทะลุ อีกทั้งยังขอเคลียร์ข่าวว่า "ฐปณีย์ ซุกลูก" ซึ่งเธอก็ยอมรับว่ามีคนเรียกเธอว่าแม่จริงๆ ซึ่งตัวเธอเองก็รักเหมือนลูกแท้ๆ
"มีลูกที่รักมากด้วย เหมือนกับเป็นลูกของเรา คือ ต้องมานอนกับเราอยู่กับเราเขาก็เรียกเราว่า แม่แยม เพราะเขาเรียก แม่แยม มาตั้งแต่เกิดเลยแล้ว แยม ก็ทำทุกอย่างในแบบที่แม่คนหนึ่งทำให้เขาเลยอย่างตื่นเช้ามาต้องไปส่งที่โรงเรียน แยม ก็ไปส่งเขาเรียนตั้งแต่อนุบาลจนตอนนี้เขาเรียนมหาวิทยาลัยแล้วค่ะ" แยม ฐปณีย์ เล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดี
นอกจากนี้ แยม ฐปณีย์ ยังได้เล่าเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นในครั้งอดีตว่า เธอเคยมีแฟน แต่เธอต้องมาทำงานที่กรุงเทพฯ ซึ่งด้วยความที่ทำงานด้านข่าว ทำให้ไม่มีเวลาเพราะว่าเธอทำงานไม่เป็นเวลา ซึ่งเธอยังยอมรับว่า ตอนอกหักก็เสียใจ เพราะเขาเป็นคนบอกเลิก แต่หลังจากนั้นเธอก็ไปเจอเขาหลังจากเลิกกันแล้ว
แยม ฐปณีย์ เล่าต่อไปว่า นาทีนั้นเหมือนในละครเลย เพราะเขาเดินจับมือกับคนอื่นเราก็ร้องไห้ตลอดเวลาเหมือนเราเป็นนางเอก MV แถมมีซีนนั่งรถเมล์ไปร้องไห้ไปแล้วนั่งเลยป้ายอีก หลังจากนั้นมา เธอก็พยายามทำงานเยอะๆ เพื่อให้ลืมเขา เธอพยายามไปทำงานอย่างหนัก แถมยังดื่มหนักจนกระเพาะเราทะลุต้องเข้าโรงพยาบาลเลย
"ถ้าถามว่า ผู้หญิงแบบ แยม ฐปณีย์ เวลามีแฟนแล้วจะเป็นยังไง บอกได้เลยว่าก็เป็นคนที่มุ้งมิ้งนะ ก็มีเสียงสองนะคะ แต่จริงๆ สเปกเราคือ ชอบคนหล่ออย่าง เวียร์ ศุกลวัฒน์ เพราะเรามองตัวเองเป็น เบลล่า แต่พอเอาเข้าจริงๆ มีหมอดูทำนายไว้ว่าเราจะได้แต่งงานตอนอายุ 60 ปี" เธอเล่าทิ้งท้าย
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องมารอลุ้นว่า เมื่อถึงเวลานั้น เธอจะได้เข้าประตูวิวาห์ไหม หรืออาจจะมีข่าวดีกว่ากว่านั้นก็ได้