- 03 ก.ย. 2564
อดีตพระเอก "สุริยา ชินพันธุ์" เปิดใจหมดเปลือก ป่วยโรคร้ายตอนกำลังโด่งดัง ทำชีวิตดิ่งลงต่ำสุด
นักแสดงในตำนาน สุริยา ชินพันธุ์ เผยเรื่องราวจุดเปลี่ยนในชีวิต จากพระเอกดาวรุ่งสู่ดาวร่วงในช่วงข้ามคืน เพราะป่วยหนักหลายโรครุมเร้า เคยถูกฟ้องจนล้มละลาย เครียดจนอยากฆ่าตัวตาย ในรายการคุยแซ่บ SHOW ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ เป๊กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
พิธีกร : ระหว่างที่กำลังโด่งดัง ป่วยเป็นตับแข็ง
สุริยา ชินพันธุ์: "ตับแข็ง เคยเป็นมา 2 ระยะ ระยะแรกเป็นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนนั้นอายุ 24-25 ปี ก็เป็นไวรัสซีซึ่งผมก็รักษาหายแล้ว ตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมเล่นละครทีวี ตั้งแต่สมัยช่อง 4 บางขุนพรหม ซึ่งตอนนั้นมีแค่ 2 ช่อง คือ ช่อง 4 บางขุนพรหม และช่อง 5 สนามเป้า ช่วงนั้นถ่ายหนังยังเป็นแบบไขลาน ถามว่าเป็นตับแข็งเพราะดื่มเหล้าหรือเปล่า ปกติผมไม่ดื่ม แต่เวลาออกงานสังคมก็มีดื่มบ้าง แต่ก็มีดื่มยาชูกำลัง ตอนนั้นผมดื่มวันละ 5 ขวด เพราะงานเยอะเราไม่ได้พักผ่อนก็เลยต้องดื่มยาชูกำลัง ยิ่งช่วงหน้าฝนเราก็เล่นดนตรีที่ปักษ์ใต้เพราะเงินดี ช่วงนั้นเล่นวันละ 2 รอบ เล่นบ่ายและค่ำ ตอนนี้กลายมาเป็นตับแข็งอีกครั้งแม้ว่าเราจะรักษาไวรัสซีหายแล้ว แต่คุณหมอบอกว่าอาการตับแข็ง ตับมันแข็งแล้วแข็งเลย รักษาไม่หาย ทุกวันนี้ก็ต้องทานยาตลอดชีวิต"
พิธีกร : ก่อนหน้านี้ป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบด้วย
สุริยา ชินพันธุ์: "ส่วนเส้นเลือดในสมองตีบนั้นก็เป็นจริง เพราะก่อนหน้านี้ผมถ่ายหนังไม่ได้พัก แล้วเผอิญว่าตอนถ่ายทำเป็นฉากไปช่วยนางเอก แล้วรถล้อไปสะดุดกับหินเข้า ผมรู้สึกแค่ว่าเหมือนมีดาวเต็มไปหมดแล้วหลังจากนั้นก็วูบไปเลย ตื่นขึ้นมาอีกที ทีมงานกองก็เอายาดมมาให้ดม มาบีบนวดเราเต็มไปหมด ซึ่งผมคิดว่าเส้นเลือดในสมองตีบอาจจะเป็นเพราะเหตุนี้หรือเปล่า คือสมัยนั้นยังไม่มีสแตนอิน ฉากบู๊แบบนี้ ศิลปิน ดาราต้องเล่นเอง"
พิธีกร : พอเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ มันส่งผลกระทบอะไรบ้าง
สุริยา ชินพันธุ์: "มันมาส่งผลตอนนี้ ส่งผลให้ความจำไม่ค่อยดี เรียกว่าเป็นอัลไซเมอร์อ่อนๆ ก็ใช่ แบบละครให้เราท่องบทก็ลำบากหน่อย ให้ร้องเพลงก็ต้องหลายเทคหน่อย ส่วนตอนที่ร้องเพลงแล้วคอเบี้ยวเป็นช่วงที่เราเดินสายลูกทุ่งอยู่ 5 ปี เราร้องเพลงหนัก ร้องจนไม่ไหว ร้องจนอยากจะหยุดวง ส่วนลูกน้องในวงพวกหางเครื่องมีเป็นร้อยชีวิต ก็บอกเราว่าอย่าหยุดเลยหัวหน้า ถ้าหัวหน่าหยุดพวกผมจะกินอะไร"
"ตอนช่วงทำวงดนตรี หน้าแล้งเป็นงานหา อย่างงานฝังลูกนิมิต งานตัดลูกหวาย งานบวช งานแต่ง พอเข้าหน้าฝนก็ต้องเปิดวิก เล่นในโรงหนังให้คนดูซื้อบัตรซื้อตั๋วเข้าไปดู ช่วงนั้นก็มีวงดังๆ อย่าง เพลินพรหมแดน ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ไพรวัลย์ ลูกเพชร ฯลฯ ส่วนรุ่นผมก็จะมีศรชัย เมฆวิเขียร สายยัณห์ สัญญา ส่วนพุ่มพวง นั้นยังไม่ดัง เขายังอยู่กับพี่ไวพจน์อยู่"
พิธีกร : ตอนนี้รักษาเส้นเลือดในสมองตีบหายหรือยัง
สุริยา ชินพันธุ์: "เส้นเลือดในสมองตีบรักษาหายแล้ว แต่ตอนที่ป่วยก็จะมีอาการคอเบี้ยวและกึ่งๆเป็นอัมพาตครึ่งซีกแต่ยังเดินได้ เพราะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ เราก็รักษาด้วยอาหารและการออกกำลังกายเบาๆ ส่วนไวรัสซีก็รักษาหายแล้ว แต่ตับคนเราแข็งแล้วแข็งเลย แต่เราก็สามารถดูแลตัวเองได้ ทุกวันนี้ก็กินน้ำเปล่า กินปลาน้ำจืด กินผัก กินข้าวต้ม ก็โอเคแล้ว อยู่ได้"
พิธีกร : ผ่านมรสุมชีวิตหนักๆ บ้านโดนยึด ยุบวงดนตรี ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น
สุริยา ชินพันธุ์: "เราไปทำวงดนตรีคือ 3 ปีแรกอยู่ได้ 2 ปีหลังอยู่ไม่ได้เพราะมีเคอร์ฟิล และตอนนั้นก็มีช่องทีวีหลายช่อง มีช่วงหนึ่งวงดนตรีโดนระเบิด คือผมไปเล่นดนตรี แล้วเด็กๆ วัยรุ่นจะขอเข้ามาดูฟรี ซึ่งทีมงานไม่ให้เพราะวงดนตรีเราก็ลงทุนมาเยอะ ก็คุยกันไม่รู้เรื่อง ก็เกิดการวิวาทกันแล้วเขาก็หนีไป แต่หลังจากกฌมีข่าวว่าเขาจะมาเอาคืน ซึ่งวันนั้นหลังจากวงดนตรีเลิกคนดูออกเกือบหมดแล้ว ผมกับลูกน้องก็ออกไปรับค่าตัวที่คนจ่ายตังค์ แล้วก็เก็บเครื่องเสียง เก็บสแตน เก็บไฟ เก็บเวทีกันอยู่ ซึ่งบริเวณนั้นทำเป็นเพิงหมาแหงน สักพักก็มีคนปาระเบิดเข้ามา ลูกระเบิดกลิ้งหล่นลงมาจากเพลิงหมาแหงนแล้วก็ระเบิดตู้ม วันนั้นเสียเสียชีวิต 5 ศพ แล้วก็มีคนบาดเจ็บ ตอนนั้นเราต้องมีสติ ผมก็บอกลูกน้องรีบเอาคนเจ็บออกมาแล้วพากันไปโรงพยาบาลสมุทรปราการ"
"แล้วหลังจากที่เกิดเหตุการณระเบิด วันรุ่งขึ้นเราต้องไปแสดงต่อที่ซอยพาณิชย์ธน แถมจรัญสนิทวงศ์ ก็ต้องไป วันนั้นลูกวงค่อนข้างเล่นไม่ค่อยดี ถามว่าเรากลัวไหมก็กลัวเหมือนกัน แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็ไม่กลัวเพราะเราเคยถ่ายหนัง ซึ่งบางเรื่องใช้ของจริงๆ ทั้งปืนระเบิด ถามว่าลูกทีมเอากำลังใจมาจากไหน เราก็ให้กำลังใจเขาว่าอย่างไรหัวหน้าก็ต้องดูแล หลังเสร็จงานก็ไปฟังสวดเพื่อนที่วัดมะกอก"
พิธีกร : ผ่านไป 5 ปีก็ต้องยุบวง มีหนี้ด้วย ล้มละลายด้วย เกิดอะไรขึ้น
สุริยา ชินพันธุ์: "ครับ เราก็เป็นบุคคลล้มละลายเพราะเราไม่มีอะไรไปใช้หนี้เขา บ้าน ทีวี ตู้เย็น เขาก็มายึดไป วงก็โดนยุบ ผมต้องเดินสายเล่นดนตรีก็ต้องฝากลูกๆ ให้คุณย่าเขาดูแล ช่วงนั้นลำบาก แต่ช่วงนั้นก็ยังโชคดีที่เพื่อนฝูงยังมีมาช่วยเหลือบ้าง แฟนคลับก็ช่วยเหลือ ตอนนั้นเราก็ป่วยด้วย ก็เลยถือโอกาสตอนช่วงหน้าฝน วงหยุดเล่นไม่ได้ก็เลยไปบวช 7 วัน"
พิธีกร : มีน้อยใจกับชะตาชีวิตบ้างไหม
สุริยา ชินพันธุ์: "มันก็มีลำบาก มีเซ็งในหน้าที่การงาน ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องงาน"
พิธีกร : จากสูงสุดสู่สามัญ ทำให้มีหลายครั้งที่คิดจะฆ่าตัวตาย
สุริยา ชินพันธุ์: "ก็มีเหมือนกัน อย่างช่วงที่เล่นวงดนตรีเก็บเงินไม่ได้ และก็ปัญหาหลายๆ อย่างรุมเร้าเข้ามา ทั้งปัญหาสุขภาพตั้งแต่เป็นเส้นเลือดตีบในสมอง เป็นไวรัสซี เป็นตับแข็ง เราทำไปเพื่ออะไร ล้มแล้วก็ลุก ลุกแล้วก็ล้มใหม่ ก็สงสัยว่าทำไมคนอื่นเขาทำครั้งเดียวก็ตั้งตัวได้ มันน้อยใจตัวเอง"