ผัดไท เปิดใจครั้งแรก ลูกสาวยกไตให้ หลังรู้ว่าแม่ป่วยหนัก

ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็น  ผัดไท ดีใจ ดีดีดี นักแสดงรุนใหญ่รวยอารมณ์ขัน ออกมาเล่าเรื่องราวชีวิตของตนเองในมุมดราม่า  ล่าสุด ผัดไท ได้ออกมาเปิดชีวิตอีกด้านผ่านทาง รายการ Z story  ที่มี  ดีเจอ๋อง เขมรัชต์ และ ฮารุ สุประกอบ  เป็นพิธีกร  กับการที่ผัดไท ต้อง เผชิญกับโรคไตระยะที่ 5 เท่านั้นยังไม่พอในอนาคตอาจจะต้องผ่าตัดปลูกถ่ายไต ซึ่งเป็นไตของลูกสาวตนเองแท้ๆ

 

 

 

อยากเปลี่ยนชื่ออีกไหม ?
"ชื่อดีใจ ดีดีดี น่าจะ 10 กว่าปีแล้ว จริงๆ อยากเปลี่ยนนะ แต่ว่าไม่เปลี่ยนแล้ว มันยุ่งยากเรื่องเอกสารเวลาไปไหนมาไหน ถ้าจะเปลี่ยนอยากเปลี่ยนเป็นชื่อกุหลาบสีชมพู นางสาวกุหลาบสีชมพู ดีดีดี อะไรแบบนี้ แต่ที่ผ่านมาวันเกิดเพื่อนๆ ก็ทำเค้กให้ เขียน HBD แม่กุหลาบ เพื่อนสปอยด์กันเก่งมาก เขาก็แล้วแต่เราว่าอยากใช้ชื่อไหน แล้วแต่เราบางช่วงอยากหวานหวานก็ชื่อหวานหวาน (หัวเราะ) บางทีเพื่อนเรียกก็ไม่หัน เพราะไม่รู้เรียกใคร"

ลูกสาวเป็นอย่างไรบ้าง ?
"ตอนนี้น้องเจอาร์อายุ 25 แล้ว คือเขาจะมีแพลนอะไรต้องให้เขาทำแล้ว เป็นโลกของเขาแล้ว ต้องทำอะไรด้วยตนเองแล้ว"

 

 

มีลูกสาวเป็นคุณหมอแบบนี้ เขาได้คำแนะนำอะไรบ้างไหมในช่วงโควิด-19 ?
"แรกเริ่มเลยเรารู้สึกว่าเป็นโรคไกลตัว เขาก็บอกว่าให้คิดว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ เขาก็บอกว่าห้ามป่วยเพราะเราอายุเยอะแล้วมันจะมีโรคแทรกซ้อนเข้ามา ตอนนี้เราก็เป็นโรคประจำตัวคือโรคไต ตอนนี้ก็ต้องคุมอาหาร เราเป็นไตระยะสี่ระยะห้าแล้ว แต่ว่าที่ดูปกติ คือเราคุมเรื่องอาหารอย่างรุนแรงมาก กินอกไก่ ปลาเนื้อขาว ไข่ขาว เนื้อสัตว์จะวนอยู่แค่นี้ กินข้าวก็จะเป็นข้าวขาว แต่ก็มีที่เราอยากกินทุเรียนพอกินแล้วก็ต้องคาย ให้หายอยากให้รู้รสชาติแล้วก็คายออก ช่วงที่เป็นแรกแรกเราไม่คิดว่าจะมีผลขนาดนั้น กินทุเรียนเยอะมากปรากฏว่าขาเดินไม่ได้ ถ้าโพแทสเซียมสูงมากๆ กล้ามเนื้อหัวใจ ก็จะหัวใจวาย แล้วพอมากินแตงโมบวกด้วยช่วงนั้นขายสมูตตี้ ตื่นเช้ามาขึ้นจะลุกไปเข้าห้องน้ำปรากฏว่าล้มเลย ขาอ่อนไปหมด ผลสุดท้ายก็ต้องแอดมิด เข้าไอซียูเลยเพราะว่าหัวใจเต้นอ่อน ก็โดนไปสองรอบที่เป็นเรื่องใหญ่ๆ เกี่ยวกับการกิน ส่วนฟอสเฟตจะอยู่ในพวกผงฟู เบเกอรี่ทั้งหมด นม เนย ไข่แดง ถ้ากินแล้วมันเกินจะรู้สึกว่าตัวหนืดๆ ถ้าสูงมากๆ กระดูกเราจะเจ็บ"

 

 

น้องเจอาร์ถ้าถึงขั้นต้องบริจาคไต จะขอเอาไตตัวเองให้แม่ ?
"คุณหมอที่ดูแลเขาแนะนำว่าเป็น Step ถัดไป ลูกก็บอกถ้าถึงเวลานั้น ไม่เป็นไรไม่ต้องไปเอาของคนอื่น เขาจะให้แม่ข้างหนึ่ง ฟังแบบนี้เราก็ดีใจ แต่อีกใจหนึ่งเราก็ไม่เอา แต่คุณหมอบอกว่าไม่เป็นไร  แต่เราก็ไม่เอานะรู้สึกสงสารเขา เขายังต้องมีชีวิตต่อ คือเขาเป็นคนไม่พูดนะ เราก็เถียงกันนะแม่ไม่เอา เราก็พูดว่าแม่ 50 กว่าแล้ว มาครึ่งทางแล้ว แค่ไหนแค่นั้นแม่ไม่ได้เป็นคนที่ว่าต้องยื้อชีวิตขนาดนั้น เขาก็ขอพูดในส่วนของเขา ถ้าเขาไม่มีแม่ เขาก็อยู่ไม่ได้ เราก็อึ้งเลย "