- 05 ต.ค. 2564
กรีน อัษฎาพร เปิดใจครั้งแรก เพิ่งรู้พ่อมีอีกครอบครัวหลังท่านเสีย ซ้ำมีน้องเพิ่ม 2-3 คน
ถือเป็นอีกหนึ่งนักแสดงสาวที่มีความกตัญญูมากๆสำหรับ กรีน อัษฎาพร ที่เมื่อไม่นานนี้เธอมาเป็นแขกรับเชิญให้รายการ Club Friday Show เพื่อเปิดใจถึงชีวิตช่วงที่สูญเสียคุณพ่อและรับรู้ว่าคุณพ่อของเธอนั้นมีครอบครัวอีกที่ซ่อนเอาไว้ โดยมีรายละเอียดเนื้อหาว่า...
นอกจากมีหนี้ที่เกิดขึ้นแล้วยังมีครอบครัวอื่น ๆ เกิดขึ้นอีก เราเพิ่งรู้ในงานวันนั้น ?
กรีน อัษฎาพร : ใช่ค่ะ แต่จริง ๆ คุณแม่รู้มาก่อนส่วนหนึ่งแล้วด้วยค่ะ แต่จริง ๆ กรีน ก็รู้มาก่อนที่คุณพ่อจะเสียแค่ปีเดียวเอง แต่เราก็ไม่ได้บอกคุณแม่ค่ะ เรื่องครอบครัวที่เพิ่มเข้ามา กรีน แฮปปี้มาก ๆ ที่กรีนมีน้องเพิ่มขึ้นมา แต่เราก็ยังไม่ได้ไปดูแลเขาอะไรมากขนาดนั้นนะคะ แต่ว่าเราก็มีความฝันเนอะ ว่าก็อยากให้น้อง ๆ มีชีวิตที่ดีเพราะตอนนี้แต่ละคนเขาก็มีงานของตัวเองซึ่งพวกเขาโตแล้ว ห่างจากเราไม่กี่ปีเองค่ะ
ในฐานะของคนเป็นลูก น้องกรีน บอกว่าแฮปปี้ดีใจที่มีน้องเพิ่ม แล้วในฐานะคุณแม่ล่ะ ตอนนั้นคุณแม่รู้สึกยังไงบ้าง ?
กรีน อัษฎาพร : ตอนนั้น คุณแม่ก็เสียใจค่ะ เพราะว่าในฐานะลูกกับในฐานะที่เป็นคุณแม่ เราไม่ทราบจริง ๆ ความรู้สึกคุณแม่ขนาดไหนเสียใจท่านคงเสียใจ แต่ถึงขั้นไหน โกรธหรืออะไรอย่างนี้ ไม่รู้จริงๆ แต่ขอพูดในฐานะกรีนนะคะ คือเราแฮปปี้ที่มีน้องเพิ่มอีก 2-3 คน ถามว่าก่อนที่จะมาแฮปปี้ กรีนมีโกรธอะไรไหม ไม่โกรธเลยค่ะ พอรู้ความจริงก็แค่ตั้งคำถามว่า ทำไมคุณพ่อถึงไม่บอก ทำไมถึงเก็บไว้ได้ขนาดนี้ แค่นั้นเอง สิ่งที่เรารู้สึกเสียใจก็คือ เรารู้สึกสงสารน้อง ๆ ที่เป็นครอบครัวต่างแม่ค่ะ ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร เขาก็คงเหมือนเราที่อยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์เหมือนกัน
เคยคุยกับคุณแม่มุมนี้ไหมเพราะว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่เราไม่ได้พยายามหาบทสรุปที่เป็นตัวอย่างของโลกนะ แต่มันเป็นเรื่องจริงในมุมหนึ่ง ซึ่งมันเป็นมุมที่น่าสนใจ คือ ความเข้าใจมันอาจจะตามมาในสักวันอย่างแม่เราเสียใจ แต่ลูกไม่ มันจะมีมุมที่จะรู้สึกว่าทำไมลูกไม่เข้าข้างฉันไหม
กรีน อัษฎาพร : จริง ๆ แล้วถามว่าเราก็มีโมเมนต์ที่เสียใจเหมือนกันค่ะ แต่เหมือนเราแบบเทิร์นตัวเองได้เร็ว แต่คุณแม่ที่ผ่านเรื่องราวมาซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าผ่านอะไรมาบ้างซึ่งก็คุณพ่อเนอะ ซึ่งเขาก็คงจะมีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกันอยู่แล้วมันเป็นสิ่งที่เขามีวิทธิ์ที่จะเสียใจ รู้สึกได้ซึ่งเราก็ยอมรับให้เขาได้อยู่กับความรู้สึกนั้นแต่พอมันผ่านช่วงเวลาไปเอาจริง ๆ แล้ว เวลาที่คุณแม่เสียใจเขาเป็นคนใจกว้างนะคะ เขาก็ยินดีและยังยอมรับอีกครอบครัวด้วย ช่วยเหลือเรื่องเงินที่ขาดเขาก็ให้ ซึ่งเราก็มีโอกาสได้เจอน้อง ๆ ด้วย
คือกรีนอยากเรียนรู้ อยากเจอเขาว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง เพราะชีวิตที่ผ่านมา 30 ปี กรีนไม่เคยเจอเขาเลยค่ะ กรีนเลยอยากเจออยากนั่งคุยกับเขาว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง พอได้เจอแล้วแบบเขาเก่งค่ะ กรีนรู้สึกว่าเขาเก่าแล้วเขาฝ่าฟันชีวิตของเขามาเป็นคนดีแบบนี้ได้ยังไงและกรีน รู้สึกว่าชีวิตที่เหลืออยู่เนี่ย แล้วเรารู้ว่าเขาคือน้องแท้ๆของเรา เราก็อยากให้เขามีชีวิตที่ดีค่ะ เราพร้อมที่จะซัพพอร์ตในทุก ๆ อย่างที่เขาอยากจะทำ
ถ้าพูดถึงในฐานะลูกคนหนึ่งเป็นพี่พี่ก็ตกใจนะ ตกใจที่เรามีน้องซึ่งอายุห่างจากเราไม่เท่าไหร่ถ้าพูดกันตามตรง นั่นหมายถึงคุณพ่อมีครอบครัวที่ซ้อนกันกับคุณแม่มาโดยตลอด สิ่งหนึ่งที่เราหันไปแล้วเราเจอคุณแม่ ตอนนั้นเราให้กำลังใจคุณแม่อย่างไรบ้าง ?
กรีน อัษฎาพร : กรีน อาจจะไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกของแม่ที่แท้จริงได้ค่ะ แต่สิ่งที่เราคิดว่าเราทำได้ ณ ตอนนี้คือ อยากตั้งใจทำงานเยอะ ๆ ดี ๆ แล้วอยากให้แม่มีชีวิตที่ดีที่สบาย ไม่ต้องให้เขาต้องกังวลอะไรค่ะ คือบ้านเราไม่ได้เป็นบ้านที่มานั่งพูดหวาน ๆ กันแต่เราจะให้ด้วยการกระทำมากกว่าค่ะ เราก็เลยตั้งปณิธานกับตัวเองว่า นี่คือจุดเปลี่ยนที่ว่าเราไม่ได้โฟกัสเรื่องความรักของคู่รักแล้ว แต่ว่ามาโฟกัสความรักของแม่มากกว่าเพราะว่าแม่คือเป้าหมายใหญ่ที่สุดในชีวิตของเราเพราะว่าหลังจากที่คุณพ่อเสียไป (ร้องไห้) ทำให้เราเห็นว่าเราเหลือแม่คนเดียว
แล้วเราก็อยากทำให้เขามีความสุขที่สุดถึงแม้ว่าเขาไม่ต้องการ แต่เราก็อยากทำให้เขามากที่สุดและถึงที่สุด ถึงขั้นที่ว่าเราไม่คิดว่าเราอยากจะแต่งงานด้วยซ้ำเพราะว่าเราอยากจะอยู่กับเขาไปจนกว่าเขาจะไปจากเรา คือ ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้เขาทำอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องเหนื่อยแล้วเพราะเขาเหนื่อยมาเยอะมากแล้ว และแม่เขาก็แบกความรู้สึกของพ่อเรามาเยอะมาก ๆ ค่ะ