- 17 ต.ค. 2564
โฉมหน้า เอ้ก ภรรยา อ๊อด คีรีบูน สาวที่หลงรักตั้งแต่อายุ 18 ปี จนกลายเป็นรักสุดท้ายของชีวิต
โดย อ๊อด คีรีบูน ในวัย 18 ปี ได้เดินสายประกวดดนตรีโฟล์คซองตามเวทีต่างๆ จนมีโอกาสได้รู้จักกับวง “เขิน” ซึ่งนักร้องนำของวงได้กลายเป็นสื่อที่ทำให้เขารู้จักกับ “เอ้ก” สาวน้อยวัยเดียวกันที่มีบุคลิกมาดมั่น และเป็นตัวของตัวเอง
=
หลังจากนั้นก็ได้ทำความรู้จักกับ เอ้ก สาวผมสั้น แต่งตัวทอมบอย แก่นๆ ซนๆ เสื้อต้องยกคอตั้งตลอด ถ้าให้นึกภาพก็ประมาณนางเอกละครเรื่อง ดาวเรือง นั่นแหละครับ ก็รู้สึกว่า เธอดูกวนๆ ไม่ใช่ทอม แต่อารมณ์ประมาณผู้หญิงซนๆ แล้วการวางมาดแบบนี้ก็คือการป้องกันตัวเอง เราก็รู้สึกว่า อยากเอาชนะ
พอเริ่มคุย และได้แลกเปลี่ยนความคิดกันมากขึ้น ทำให้ผมยิ่งพบว่าเสน่ห์ของคนคือการได้ค้นหาตัวตนซึ่งกันและกัน และทำให้ผมได้รู้ว่าเสน่ห์ของเธออยู่ที่คุณค่าภายในความรู้สึก หลังจากนั้นยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าเธอคือคนที่ใช่ ผมยอมรับว่าที่จริงแล้วที่มองๆเธอตั้งแต่ต้นไม่ได้ตั้งใจคบเป็นเพื่อนแต่ตั้งใจคบเป็นแฟนเลยนะครับ ก็โทรไปหาเธอบ่อยๆ
เชื่อว่าเป็นบุพเพสันนิวาสเพราะเราเจอคนตั้งมากมายไม่เห็นรู้สึกอะไร แต่เจอเธอครั้งแรก มันรู้สึกพิเศษ แต่ในความพิเศษนั้นอธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ‘ทำไมคนนี้เตะความรู้สึก’ เหมือนมีพลังงานบางอย่างดึงดูดกันอยู่ หรือต่อมาได้เจอคนอื่น ก็ไม่รู้สึกแบบนั้น เวลาอยู่กับเขาแล้วไม่เหมือนคนอื่น ปกติผมเป็นคนจริงจังกับการทำงาน พูดน้อย แต่พออยู่กับเขา เราคุยน้ำไหลไฟดับเลย คุยได้ทั้งวันจนไม่อยากเลิก ซึ่งเราก็มีนิสัยขี้เล่นปนอยู่ด้วย เวลาเล่นก็เล่นแบบเด็กๆ
สิ่งที่ทำให้หลงรักในตัว เอ้ก คือความจริงใจและความประทับใจที่มีให้กันครับ ครั้งแรกที่เขาโทรมาหาผมถามว่า ‘อ๊อดทำอะไรอยู่’ ผมก็ลังเลจะตอบและอ้ำอึ้ง ไม่กล้าบ่ายเบี่ยงที่จะตอบ จนกระทั่งเธอโทรมาเวลาเดิมอีก ‘อ๊อดทำอะไรอยู่’ ในที่สุดผมก็... อ๊อดเอ่อ... อ๊อดซักผ้า หลังๆมาบอกหมดเลย‘อ๊อดทำอะไรอยู่ ... ถูบ้าน... ล้างห้องน้ำ... กรอกน้ำ ผมมีหน้าที่ที่ต้องทำตลอด เธอบอกว่านี่คือสิ่งที่ประทับใจในตัวผมมาก เพราะไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่จะทำ
เมื่อปี พ.ศ. 2526 อ๊อด คีรีบูน เริ่มมีชื่อเสียงในนามวง “คีรีบูน” และเรียนที่คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนเธอเรียนที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ถนนสายดนตรีคือสิ่งที่เขาใฝ่ฝัน แต่ถนนสายความรักก็กำลังงอกงามขึ้นเช่นกัน พร้อมบททดสอบที่ประดังเข้ามายอมรับว่าเจอด่านลองของเยอะนะ ทั้งแฟนเพลง และที่มหาวิทยาลัย แต่เราก็มั่นคงครับ เพราะอย่างไรผมก็มีเพียงเธอเท่านั้น
หลังจากจบมหาวิทยาลัยได้ 2 ปีก็แต่งงานกัน เมื่อปี 2532 เท่ากับคบกันมา 7 ปี ซึ่งถือว่าแต่งงานเร็วนะครับ แต่คิดว่าถ้าใช่ก็ตัดสินใจเลยดีกว่า นั่นเพราะผมมองเห็นคุณค่าภายในของเธอ เพราะความรู้สึกมันบอกว่า ‘ผู้หญิงคนนี้เป็นแม่ของลูกและคือคนที่จะอยู่เคียงข้างเราตลอดไป’
ที่มา: นิตยสาร Hug ปีที่ 2 ฉบับที่ 3