- 02 ธ.ค. 2564
แนท เกศริน เปิดปมรักร้าว เลิกสามีฝรั่ง ครองโสดแบบเหงาๆ รอคนมาดามหัวใจ ตอบชัดดราม่าถาโถม โดนเม้าเป็นคนขาดผู้ชายไม่ได้
ช่วงหลังๆ ชาวเน็ตมักจะเห็น แนท เกศริน ชัยเฉลิมพล ออกรายการหาคู่อยู่บ่อยๆ ทั้ง จีบหนูหน่อย หนูอ่อยไม่เป็น ของ โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน และ Take Me Out Thailand แต่ก็ยังไม่เห็น แนท เกศริน ตกลงปลงใจกับใครเสียที ทว่ากลับเห็นเธอโชว์ความแซ่บสะเด็ดในอินสตาแกรมส่วนตัวบ่อยๆ ซึ่งล่าสุด เจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือกในรายการ คุยแซ่บ SHOW
แนท เกศริน สตาร์ดังได้ออกมาตอบทุกประเด็น ตั้งแต่เรื่องความรักหลังหย่าสามีแนท เกศริน รวมไปถึงมีผู้ชายจนโดนเม้าเป็นคนขาดผู้ชายไม่ได้ ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ หนิง ปณิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ งานนี้บอกเลยว่า ล้วงลึกทุกเรื่องลับของเธอจริงๆ โดยเธอเริ่มเล่าหลังจากกลับมาโสดอีกครั้งในรอบ 10 ปีว่า ชีวิตไม่ต่างเลย เพราะตอนแต่งงานก็ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว เนื่องจากสามีอยู่อเมริกาบินไปมา ปีนึงเจอกัน 2 - 3 ครั้งเอง ยิ่งโควิด สามีไปไหนไม่ได้เลย
ก่อนที่เธอจะพูดถึงประเด็นการหย่ากับสามีว่า ยืดเยื้อเกือบ 4 ปี เพราะฝ่ายชายยื้อ "อันดับแรกเลยเค้ารักเราแหละ แต่ถ้ามันยังหาจุดตรงกลางไม่เจอ ชีวิตแนทไปต่อไม่ได้ เราก็ไม่อยากย้ายไปอเมริกาเพราะครอบครัวเราอยู่ที่ไทย ทางโน้นครอบครัวเค้าพร้อมที่จะรับเราทั้งหมดไม่ว่าจะลูกเค้า 3 - 4 คน เพียงแต่ว่าไปอยู่ที่โน่นเราว้าเหว่ เราเป็นผู้หญิงไทยติดครอบครัว
เลยรู้สึกว่ายังหาจุดตรงกลางไม่ได้ควรจะ move จะได้แยกย้ายกัน แนทจะได้มองไปข้างหน้าต่อว่าถ้าไม่มีสามีชีวิตแนทต้องทำอะไรต่อบ้าง ซึ่งยื้อตลอด ขนาดว่าศาลสั่งหย่าแล้ว ข่าวออกไปแล้ว เค้าบอกยังไม่เชื่อเลยว่าเค้าถูกศาลสั่งหย่า ซึ่งวินาทีที่เซ็นใบหย่า ตอนนั้นทรมานมาก ตั้งแต่ที่แนทต้องให้ทนายจัดการแล้ว เราขอเค้าดีๆ มา 2 - 3 ปีแล้ว จนปีที่ 4 เริ่มไม่ไหวแล้วรอนานแล้ว
และอายุแนทมากขึ้นอยากจะมีอะไรที่สร้างความมั่นคงให้ชีวิตแนท เช่น อยากจะมีบ้านซื้อบ้าน ก็ซื้อไม่ได้เพราะมันมีสินสมรสเพราะเราจดทะเบียนในไทย เรารู้สึกว่าเราทำงานเลี้ยงตัวเราเองจะเอาสินสมรสไปแบ่งให้เค้าทำไม มันต้องมีความคิดอยู่แล้วทำงานด้วยความเหนื่อยของเรา แถมพอหย่าก็มีข่าวอีกว่า ได้ทรัพย์สินของสามี
แนทบอกตรงนี้เลยว่า แต่งก็ไม่มีอะไร ไปก็ไม่มีอะไร แนทยังท้าเค้าว่ามาเมืองไทยเถอะ เดี๋ยวออกค่าตั๋วค่าเดินทางให้ ถ้ากลับไปจะได้เงินกลับไปด้วย ไม่ต้องเสียอะไรเลย เพราะตอนนั้นเค้าเกษียณแล้ว เรารู้สึกว่าอยากได้อิสรภาพเพราะเราต้องการความมั่นคงในชีวิตเราทำงานเอง แต่คนมองว่าได้เงินโกยมาจากสามี ซึ่ง แนทมองว่า มันไม่แปลกที่คนจะคิดไปเรื่อย เพราะตัวเค้าเองไม่ได้มาสัมผัสชีวิตของแนท แต่พอเรามาจดทะเบียนเปิดเผยทุกคนมองว่าฝรั่งมีตังค์มันไม่เสมอไป เค้าเป็นสถาปนิกที่ถูกซื้อตัวมาช่วงเกษียณแล้วด้วย เค้าจะได้งานจ็อบบายจ็อบ"
ทั้งนี้เธอยังได้เล่าตอบประเด็นที่บอกว่า ซื้อบ้านหลังใหญ่ นั้น จริงๆ ไม่ได้ใหญ่ เพราะเธอเป็นคนที่ปฏิบัติธรรม เธอยันยันว่าตนเองสมรรถะมาก จริงๆ เธออยู่คอนโดก็ได้ แต่ด้วยความที่ญาติพี่น้องเธอมา เธอสงสาร ถ้าเธออยู่คนเดียวอยู่ยังไงก็ได้ไม่ติดหรูไม่ติดแบรนด์ ซึ่งราคาบ้านหลังดังหกล่าวรวมตกแต่งด้วยไม่ถึง 10 ล้าน
โดยเธอยันยันว่า เป็นเงินที่เธอทำงานมาเกือบ 20 ปีในวงการ มันต้องมีเงินเก็บบ้าง แล้วเพิ่งมาได้พรีเซนเตอร์ 3 ปีที่ผ่านมามีแต่พรีเซนเตอร์หมดเลยยิงสัญญายาว แต่ก่อนหน้าแต่งงานยังไม่ซื้อบ้าน เพราะจังหวะยังไม่ได้ มันไม่เอื้ออำนวยเลย เนื่องจากมีญาติพี่น้องที่ค่อนข้างไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เธอหาเงินมาได้ก็เอาไปช่วยเหลือญาติพี่น้อง มันกลายเป็นว่าเธอหาเงินได้เอาไปให้คนอื่นหมดเลยรอบข้าง เลยไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลยอาชีพของเธอ
นอกจากนี้พิธีกรยังยิงคำถามเด็ดอีกว่า ภูมิใจในร่างกายของตัวเองและโชว์ให้คนอื่นดูได้ ? ซึ่งเธอก็ตอบว่า "ความภูมิใจในตัวของเราเอง รู้สึกว่าเรารักในด้านความสวยความงามตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้ว พอโตมามันมีเส้นทางไปในทางที่เราชอบได้ เราก็ทำบางคนมองผู้หญิงกล้าเซ็กซี่มากๆ ไม่ดี ซึ่งคนบางคนมองคนอื่นจากภายนอกโดยที่ไม่ได้ใช้สมอง ไม่ได้ใช้ใจก็ตัดสินไปแล้ว"
ข้อมูลจากรายการ คุยแซ่บ SHOW