สรุปดราม่า "ลูกหนัง" โดนแฉอดีต-ยกเทียบลิซ่า โซเชียลเสียงแตก ตีกันยับ

เรียกว่าเป็นกระแสดราม่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างหนัก สำหรับกรณีของ แฮชแท็กดัง "#แบนลูกหนัง" ซึ่งแฮชแท็กดังกล่าวนั้น มีการตั้งข้อสังเกตุว่าอาจจะเป็นเพราะ มีพ่อเป็น ศรัณยู วงษ์กระจ่าง อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ "ลูกหนัง" เคยร่วมชุมนุม กปปส. 

โดยหลังจากที่มีรายงานข่าวออกมาว่า  "ลูกหนัง ศีตลา" ลูกสาวฝาแฝดของ "ตั้ว ศรัณยู" และ "เปิ้ล หัทยา" ได้เดบิวต์เป็นสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ชื่อ H1-KEY (ไฮ-คีย์) ของประเทศเกาหลี โดยชาวเน็ตมองว่าในอดีต "ตั้ว ศรัณยู" เป็นแกนนำ กปปส. และ "ลูกหนัง" เองก็เคยเข้าร่วมการชุมนุม กปปส. ด้วยเช่นกัน ทำให้ชาวเน็ตพร้อมใจกันยืนหยัดที่จะไม่สนับสนุนวงนี้ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เดบิวต์ 

สำหรับ ไอดอลวงเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ของเกาหลี วง H1-KEY (ฮายคีย์) จากค่าย GLG (Grandline Group) ที่มีกำหนดเดบิวต์อย่างเป็นทางการในวันที่ 5 มกราคม 2565 มีเมมเบอร์ 4 คน คือ ชินยอง, เยจิน, ซึงฮยอน และ ลูกหนัง ศีตลา วงษ์กระจ่าง โดย ลูกหนัง ได้ใช้ชื่อในวงการว่า ศีตลา (SITALA) 

ซึ่งต้องบอกว่าหลังจากที่กำเนิด  แฮชแท็กดัง "#แบนลูกหนัง" ก็มีทั้งฝั่ง สนับสนุน และวิพากษ์วิจารณ์สนั่น จนทำให้ #SITALA ทะยานพุ่งติดเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ไทย และชาวเน็ตมีการขุดประวัติ ขุดพฤติกรรมเก่าๆ ของเธอโยงกับเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ครั้งเมื่อ ตั้ว ศรัณยู พ่อของเธอเป็นแกนนำ กปปส. ทำให้บางคนไม่พอใจอย่างมากถึงขั้นไม่ขอสนับสนุนกันเลยทีเดียว 

สำหรับคุณพ่อลูกหนัง อย่าง ตั้ว ศรัณยู นั้น ในอดีตเป็นแกนนำพันธมิตร สนับสนุน กปปส. ซึ่งมีส่วนสำคัญในการปลุกระดมคนให้ออกมาชุมนุม และผลักดันให้เกิดรัฐประหารเมื่อปี 2549 และ 2557 จากนั้นกลุ่มทหารยังครองอำนาจยาวนานมาถึงปัจจุบันกว่า 7 ปีแล้ว 

ผลพวงจากรัฐประหารทำให้ประเทศเดินถอยหลัง คุณภาพชีวิตแย่ลง สิทธิเสรีภาพถูกจำกัด คนหนุ่มสาวสูญเสียความฝัน ในขณะที่ ลูกหนัง ได้ตามความฝันไปใช้ชีวิตและเดบิวต์ในต่างประเทศ และยังมองว่า ครอบครัวของลูกหนัง มีส่วนผลักดันทำให้เกิดรัฐประหาร ทำลายความฝันเด็กๆ ในประเทศไทยเป็นล้านๆ คน

แม้ว่าจะมีกระแสในคนไทยแยกแยะกันระหว่างพ่อกับลูก แต่ลูกหนังเองก็มีความคิดไปในทางเดียวกับพ่อ เห็นได้จากการบอกว่ามีพ่อเป็นแบบอย่าง หรือจากโพสต์เก่าๆ ในไอจีของเธอซึ่งตอนนี้ถูกลบทิ้งไปหมดแล้ว พร้อมกับปิดคอมเมนต์ไม่ให้แสดงความคิดเห็น

นอกจากนี้ ยังมีคนขุดภาพ ลูกหนัง สมัยไปเป่านกหวีด เข้าร่วมม็อบ กปปส. เมื่อปี 2557 อันนำไปสู่การรัฐประหารครั้งที่ 2 ของไทยในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี และในวันที่ ตั้ว ศรัณยู เสียชีวิต สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร ก็ไปร่วมงานศพ และมีภาพ ลูกหนัง และครอบครัวต้อนรับขับสู้อย่างดี

ซึ่งต้องบอกว่าจากเหตุดราม่า ผุดแฮชแท็กดัง "#แบนลูกหนัง" ทางไทยนิวส์ออนไลน์จะพาไปตรวจสอบความคิดเห็นจากกลุ่มที่หนุนหลังและก็ฝั่งที่ต่อต้านไม่ขอสนับสนุนเธอเป็นอันขาด โดยผู้ที่สนับสนุนกับมองว่าเรื่องในอดีตนั้นผ่านมาแล้ว ลูกหนังได้ฝ่าฟันอุปสรรคได้เดบิวต์เป็นศิลปินเกาหลีได้ คนไทยก็ควรสนับสนุน แต่ถ้าไม่สนับสนุน ก็ไม่ควรขัดขวาง และมองว่า สิ่งที่รุ่นพ่อทำไม่ควรเกี่ยวกับรุ่นลูก และไม่ควรจะเป็นลูก ที่ต้องมาชดใช้และจ่ายค่าความเสียหาย ด้วยอนาคตและความทุ่มเทพยายามที่ทำมาทั้งหมด จนกลายเป็นความสูญเปล่า

ซึ่งนอกจากนี้ยังมีการมองอีกมุมไปทางการเมืองด้วยว่า การกระทำของ  ตั้ว ศรัณยู  ในอดีตนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานั้นแล้ว อีกทั้งการที่ประเทศมาอยู่ในจุดนี้ก็มีตัวแปรหลายอย่าง ไม่ควรกล่าวโทษใครคนใดคนหนึ่ง 

ซึ่งจากการสนับสนุนดังกล่าวนั้น ไม่แม้แต่ทางด้านของ สนธิ ลิ้มทองกุล ก็ได้กล่าวถึงกระแส #แบนลูกหนังด้วยเช่นกัน พร้อมกับระบุว่าเป็นเรื่องต่ำตมของคนต่ำช้า ในช่วงเนื้อหาที่กล่าวถึงกระแสดังกล่าว เขาเอ่ยถึงประวัติความเป็นมาของลูกหนัง สามารถสอบเข้าคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ จนฝั่งพ่อศรัณยูมาบอกตนว่าลาออกจากคณะอักษรศาสตร์จุฬาฯ ไปเรียนที่เกาหลีใต้แทน

สนธิได้พูดถึงตอนที่ลูกหนังได้เป็นเด็กฝึก ยกว่าเหมือนกับลิซ่า BLACKPINK ไม่มีผิด เพียงแต่มีคุณวุฒิที่สูงกว่า เน้นว่าเธอมาจาก ‘อักษรศาสตร์จุฬาฯ ปี 1’ ความเคี่ยวกรำในการฝึกยังไม่ถึงระดับลิซ่า แต่ก็ยังฝึกหนักอย่างน้อยมาเป็นเวลา 6-7 ปีโดยที่ไม่หยุด ทั้งเรียนไปด้วยฝึกไปด้วย จนเรียนจบก็ไปคัดเลือกเพื่อเข้าสังกัดค่ายเพลง"

ซึ่งในเวลาต่อมานั้น เว็บไซต์ Catdumb ได้หยิบยกวิดีโอคลิปจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ “หอมแดง” ซึ่งมีพฤติกรรมปั่นแฮชแท็ก #แบนลูกหนัง อย่างต่อเนื่อง ตัดต่อคลิปของนายสนธิบางช่วงบางตอน พร้อมระบุข้อความว่า "เธอมีคุณวุฒิสูงกว่าลิซ่า เพราะเธอมาจากอักษรฯ จุฬา" ซึ่งเป็นข้อความที่บิดเบือน เพราะสิ่งที่นายสนธิกล่าวถึงไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น โดยเฉพาะการกล่าวพาดพิงถึง ลิซ่า ลลิสา มโนบาล หนึ่งในสมาชิกวงแบล็คพิงค์

โดยหลังจากที่เราไปดูฝั่งที่สนับสนุนไปแล้วนั้น แล้วฝั่งต่อต้านละ คิดอย่างไรกันบ้าง โดยฝั่งต่อต้านนั้นก็มีความคิดเห็นไปในเชิง ไม่เห็นด้วยกับการเดบิวต์ของนางสาวศีตลาย้อนถามกลับว่า เหตุใดถึงมีผู้ไปคุกคามด้วยการเป่านกหวีดใส่ ลูกชายของนางสาวยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2556 ที่ขณะนั้นยังเรียนอยู่เพียงระดับชั้นประถมศึกษา

ไม่แม้แต่สื่อต่างประเทศยังพาดหัวค่อนข้างดุเดือด โดยทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @topstarnews โดยระบุข้อความแปลเป็นไทยว่า "เปิดตัวลูกสาวจอมเผด็จการ"... ทำไมประเทศไทยถึงไม่พอใจเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ 'High-Key' Sitala" 

โดยความเห็นได้ระบุว่า  "SITALA เป็นลูกสาวของชายที่สนับสนุนทรราช เธอกำลังจะได้เดบิวต์ แต่คนที่อายุเท่าเธอตอนนี้ยังติดอยู่ในเผด็จการ" รายงานข่าวบอกอีกว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังอยู่ในการประท้วงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ และเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยข้อเรียกร้องของม็อบว่า ไม่ใช่การปฏิรูปสถาบัน แต่เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งประชาชนได้ประท้วงคำวินิจฉัยของศาลว่าเป็นความพยายามที่จะดึงประเทศกลับสู่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มากกว่าที่จะเป็นประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ

ซึ่งผู้ที่คัดค้านนั้น ยังให้ความเห็นค่อนข้างดุเดือดอีกว่า "พ่อของศรีตลา มีส่วนร่วมในการรัฐประหารเพื่อเผด็จการในปัจจุบัน", "ความฝันของศรีตลาอาจเป็นจริง แต่ความฝันของเด็กไทยถูกเผด็จการขโมยไป เราไม่ควรสนับสนุนคนเหล่านี้" และยิ่งเธอบอกว่า "พ่อ" คือแบบอย่างของเธอ ยิ่งทำให้ชาวเน็ตต่อต้านหนักขึ้น

โดยจากข้อมูลดังกล่าวนั้นที่ทางไทยนิวส์คงต้องให้ผู้ชมนั้นตัดสินกันเองว่ามีความคิดเห็นอย่างไร สำหรับดราม่าข้ามประเทศที่เกิดขึ้น ว่าควรยินดีหรือไม่ยินดี ก็คงต้องให้คุณผู้ชมนั้นเป็นคนตัดสิน โดยทางไทยนิวส์ออนไลน์จะพาไปทิ้งท้ายประวัติคร่าวๆ สำหรับ "ลูกหนัง ศีตลา" โดยเธอนั้น  เป็นลูกสาวฝาแฝดของนักแสดง-ผู้กำกับรุ่นใหญ่ "ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง" ที่เสียชีวิตไปแล้ว ด้วยโรคมะเร็งตับ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 กับ "เปิ้ล หัทยา" มีพี่สาวฝาแฝดชื่อ "ลูกหนุน ศุภรา" จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก Ewha Womans University ประเทศเกาหลีใต้

ส่วนเส้นทางบันเทิงของ "ลูกหนัง" เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงเกาหลี ด้วยการเป็นนางแบบภายใต้สังกัต YGKPlus ต่อมาได้เข้าไปเป็นเด็กฝึกหัดในค่าย LIONHEART จนล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ต้นสังกัตได้มีการออกมาประกาศ เตรียมที่จะเดบิวต์ ลูกหนัง เป็นหนึ่งในสมาชิกวง H1-KEY (ไฮ-คีย์) ภายใต้ชื่อ "SITALA" ตามชื่อจริงของเธอ โดยมีการกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2565 นี้