- 07 ธ.ค. 2564
"พลอย ชิดจันทร์" เปิดใจหมดเปลือกชีวิตส่วนตัว และยังพูดถึงพระเอกหนุ่มในดวงใจ ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน แถมหลุดปากกลางรายการ หลังสามี "เคน ฮุง" วางแผนอยากมีลูกถึง 8 คน
เรียกได้ว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักสำหรับ "พลอย ชิดจันทร์" เป็นนักแสดงสาวชาวจังหวัดเชียงใหม่ เข้ามาในวงการบันเทิงด้วยประกวดเวทีดัชชี่บอยแอนด์เกิร์ล 2004 และเป็นหนึ่งในกลุ่มพาวเวอร์ทรี และแสดงภาพยนตร์แรกคือเรื่อง "รับน้องสยองขวัญ" และผลงานการแสดงอีกหลายเรื่อง
ล่าสุด "พลอย ชิดจันทร์" ก็ได้ออกมาเล่าเรื่องความสวย ความปัง และยังพูดถึงหนุ่มในดวงใจที่เป็นถึงพระเอกดังที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนในรายการ ยังไงไหนเล่า ทางช่อง GoyNattyDream Channel ว่า "เข้าวงการมาได้เพราะประกวดดัชชี่เกิร์ล ตอนนั้นเพิ่งอายุ 16 พอชนะได้รางวัลก็เบนเข็มจากสายวิทย์ฯ ไปเรียนการแสดงแทน เพราะเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดี และส่วนตัวก็ชอบด้วยและความฮอตของสาวพลอยนั้นก็เริ่มตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม มีคนมาขายขนมจีบ โทร. มาหาที่บ้าน พอวางสายนี้เสร็จก็มีสายใหม่โทร. เข้ามาต่อเลย และเมื่อถูกถามว่า ใครเป็นพระเอกในดวงใจ ในยุคที่ประกววดัชชี่ สาวพลอยก็บอกว่า น้ำ รพีภัทร และ บิ๊ก ภุชิสสะ พอเจอตัวจริงแล้วกรี๊ดเลย
งานนี้ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาวพลอยถึงกรี๊ด 2 หนุ่มนี้ เพราะในยุคนั้นทั้งคู่ต่างก็เป็นพระเอกวัยรุ่นแถวหน้าแห่งยุคเลยทีเดียว และถามว่าไม่ชอบคนในวงการบ้างเหรอ ส่วนตัวมองว่ามันเป็นการมาทำงาน ต่างคนต่างมาทำงาน ไม่ได้มาจีบหรือเล่นกันเลย เราเลยไม่ได้สานสัมพันธ์ไปทางนั้น และยังเปิดเผยถึงความรักกับคุณสามี เคน ฮุง ด้วยว่า เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วก็แต่งงานเลย เพราะคบกับพี่เคน ตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งวันที่ไปเรียนวันแรกเขาก็เป็นคนขับรถไปส่งที่มหาวิทยาลัยด้วย
ส่วนตอนคบกันด้วยความที่เราเป็นนักแสดงหน้าใหม่ก็ต้องโฟกัสการทำงานเลยไม่ค่อยได้โทร. คุยกันเท่าไร กว่าจะมาเป็นคุณพ่อคุณแม่ลูกสี่ก็ผ่านอะไรด้วยกันมาหลายอย่าง ถึงขั้นเลิกกันไปแล้วก็มี แต่สุดท้ายก็เลือกคนนี้ งานนี้สาวพลอยยังบอกถึงการวางแผนมีบุตร 4 คนว่า เพราะว่าเขาอยากมีลูกเยอะ ๆ อยู่แล้ว ตอนคบกันก็มีคุยกันเล่น ๆ ว่า เราจะมีบุตรกัน 8 คน ส่วนที่ยังหุ่นดีเพราะตั้งใจไว้ตั้งแต่มีบุตรคนแรกว่าหุ่นจะไม่พัง พอคลอดบุตรเสร็จแล้วก็ออกกำลังกาย ดูแลตัวเองอย่างหนัก ให้กลับมาใส่เสื้อผ้าตัวเดิมได้
ทั้งนี้ สาวพลอยยังแนะนำว่าสำหรับคู่ที่คบกันมานานสาว ๆ ควรใช้เสียงสองคุยกับแฟนบ้าง เพราะเวลาผ่านไปเราก็อาจจะลืมเติมความสวีตให้กัน การใช้เสียงสองก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยได้