ชื่นมื่น จั๊กจั่น อคัมย์สิริ - เค วัฒนา เข้าพิธีวิวาห์อบอุ่น

ถือฤกษ์ดีวันที่ 10 ธันวาคม 2564 จูงมือแฟนหนุ่มเข้าพิธีวิวาห์เป็นที่เรียบเรียบในงานช่วงเช้า ซึ่งต้องบอกเลยว่าวันที่สำคัญที่สุดของ จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข  เจ้าสาวหมาดๆ นั้นงดงามสะพรั่งทั้งงานมากๆ ยิ่งได้ยืนเคียงคู่กับ เค วัฒนา เจริญศักดิ์วัฒนา เจ้าบ่าวป้ายแดงแล้วล่ะก็ยิ่งเหมาะสมกันที่สุด 

งานแต่งจั๊กจั่นครั้งนี้จัดขึ้นที่ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ซึ่งงานมงคลของทั้งคู่นั้น มีเหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่ทั้งในและนอกวงการบันเทิง เข้ามาร่วมแสดงความยินดีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังพร้อมใจกันรัวคอมเม้นต์ร่วมอวยพรคู่บ่าวสาวกันอย่างคับคั่ง 

บรรยากาศภายในงานอบอวลไปด้วยความสุข โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา มีพิธีตักบาตรเช้า ซึ่งเจ้าสาวคนสวยมาในลุคแรกสุดงดงาม ที่เจ้าตัวได้ให้ทาง ห้องเสื้อ วนัช กูตูร์ ออกแบบชุดมาในลักษณะของชุดไทยเรือนต้นประยุกต์ โดยทางห้องเสื้อได้สั่งทอผ้าไหมยกใหญ่ลำพูนสีขาวขึ้นมาใหม่เป็นพิเศษโดยเฉพาะ 

รวมไปถึงลวดลายที่ได้สร้างขึ้นใหม่ภายใต้ชื่อ "อคัมย์สิริ" โดยมีการจดทะเบียนออกหมายเลขรับรองจากกรมหม่อนไหม สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงผ้าไหมชิ้นนี้ได้รับตราสัญลักษณ์นกยูงพระราชทานจากกรมหม่อนไหมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้นอกจากความพิเศษของผ้าไหมที่นำมาใช้แล้ว สรรค์ สุดเกตุ ยังได้ออกแบบชุดนี้ให้มีความพิเศษสำหรับเจ้าสาวป้ายแดงคนนี้โดยเฉพาะ คือการประดับปกแต่งด้วยตัวจักจั่นทองคำแท้ ดวงตาประดับมรกต รวมถึงมีการสลักสัญลักษณ์ชื่อของเจ้าสาวลงบนตัวจักจั่นทองคำ ประทับอยู่ที่กลุ่มกอของดอกแก้วทองคำ

รายละเอียดดังกล่าวทำให้ชุดตักบาตรชุดนี้ของเธอดูหรูหราและงดงามมาก อีกทั้งยังเป็นชุดที่ยังไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งแฝงไปด้วยความหมายดีๆ อันเป็นมงคลส่งผลแด่คู่บ่าวสาวให้มีความสุขสมหวัง รวมถึงความรักที่จะอยู่คู่กันเป็นนิจนิรันดร์

 

ขณะเดียวกัน เจ้าบ่าวก็มาในลุคที่ดูหรูหราหล่อเหลา ด้วยชุดสูทสากลสีครีมที่ตัดเย็บจากผ้าวูลเกรดพรีเมียม เพิ่มดีเทลด้วยเนคไทที่ตัดเย็บจากผ้าไหมลำพูนสีขาวผืนเดียวกันกับชุดของเจ้าสาว เพื่อเสริมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชีวิตของทั้งคู่ ทำให้ชุดตักบาตรของทั้งคู่ดูสวยสง่างามน่าชื่นชมมากที่สุด

เมื่อถึงพิธีรดน้ำสังข์ เจ้าสาวมาในลุคชุดไทยจักรพรรดิแบบโบราณสีนาค ตัวสไบมีความพิเศษคือการนำโอบิผ้าไหมที่ทอออกมาเป็นลวดลายของดอกเบญจมาศ (Kiku) เป็นสัญลักษณ์แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น มีความหมายเพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว รวมถึงขจัดสิ่งไม่ดีออกไป นำมาปักด้วยดิ้นทองคำลักษณะคล้ายกับงานโขนของไทยแบบโบราณ

ตัวผ้าไหมอัดกลีบทำมาจากผ้าไหมพื้นจากอำเภอปักธงชัย ผ้านุ่งใช้เป็นลักษณะนุ่งสดเน้นทรวดทรงของเจ้าสาว ปักด้วยคริสตัลทองคำทั้งผืนและประดับตกแต่งด้วยเครื่องประดับทองคำแบบโบราณที่ทำขึ้นโดยครูช่างทองระดับบรมครู ทำให้ชุดนี้ช่วยเสริมลุคให้เจ้าสาวคนสวยดูงดงามและน่าจับตามองมากขึ้นไปอีก

ด้านเจ้าบ่าวมาในลุคชุดสูทสากลสีน้ำตาลเข้มสุดเรียบโก้ เสริมลุคด้วยเนคไทที่ตัดเย็บจากผ้าไหมสีเดียวกันกับ ชุดของเจ้าสาว นับเป็นอีกหนึ่งลุคของเจ้าบ่าวที่ดูสมาร์ทและหล่อสมบูรณ์แบบสมกับเจ้าสาวคนสวยมาก ซึ่งต้องบอกว่ามูลค่าของชุดเจ้าบ่าวและเจ้าสาวในวันนี้นั้นเฉียดหลักล้านเลยทีเดียว

 

 

 

 

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โพสต์ที่แชร์โดย Panadda Wongphudee️️ (@boompanadda)