- 25 ม.ค. 2565
บอม ฑิชากร เปล่งพานิช ลูกสาวคนเดียวของ 2 นกฉัตรชัย - สินจัย เปล่งพานิช กับชีวิตที่ถูกเปรียบเทียบด้วยคำถามที่เป็นเหมือนคำสาปกรีดแทง
เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่ค่อยได้เห็นหน้าค่าตา บอม ฑิชากร เปล่งพานิช ลูกสาวคนเดียวของ 2 นกฉัตรชัย - สินจัย เปล่งพานิช นักแสดงชื่อดัง เท่าใดนัก ซึ่งเธอไม่ค่อยได้ออกสื่อ เนื่องจากรักการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ และ เธอคือนักเดินทางที่ไปมาแล้ว 80 ประเทศทั่วโลก ชีวิตของเธอเดินทางมาแล้วกว่าครึ่งโลก
ภายนอกหลายๆ คนอาจจะอิจฉาเพราะ บอม เปล่งพานิช เป็นถึงลูกสาวดาราที่มีชื่อเสียงเป็นตำนานแห่งยุค แต่อีกมุมหนึ่งที่ยังทำให้เธอไม่แฮปปี้ทุกคนที่ได้ยินนั่นก็คือ การถูกเปรียบเทียบจากสังคม มาตรฐานความสวยที่ถูกคาดหวัง และคุณค่าในตัวเองที่ถูกเปรียบเทียบมาตลอดทั้งชีวิต ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ บอม ฑิชากร ได้เปิดใจถึงทุกเรื่องราวแบบหมดเปลือกในรายการ WOODY HELP ME PLEASE
ลูกสาวนก ฉัตรชัย - นก สินจัย เปล่งพานิช เริ่มเล่าว่า เธอเจอ การเปรียบเทียบ มาตลอดทั้งชีวิต "ทำไมไม่สวยเหมือนแม่เลยล่ะ" , "ทำไมไม่ผอมแบบคนนี้" เขาพูดเพราะว่าเขาหวังดี แต่ว่ามันคือการเปรียบเทียบ แล้วความรู้สึกของเราล่ะ ทำไมเราต้องไปวัดค่าของตัวเอง คุณต้องผอมเท่านี้ คุณต้องสวยเท่านี้ แล้วทำไมทักเรื่องอื่นไม่ได้เหรอ
"คือที่บ้านไม่เคยมีพูดว่าต้องสวยแบบนี้นะ แต่ว่าคนรอบข้างจะเป็นคนที่กดดันว่าทำไมไม่ทำผมทรงนี้ล่ะ ไม่แต่งตัวแบบนี้ล่ะ ทำไมๆ มันมี Standard ของวงการที่มันอยู่บนไหล่เรา เหมือนเป็นน้ำหนักที่มันกดเราอยู่ เราต้องแบกความกดดันนี้ไว้ตลอด" ลูกฉัตรชัย - สินจัย ระบุ
เมื่อ วู้ดดี้ มิลินทจินดา ยิงคำถามแบตรงจุดว่า "ตอนโตขึ้นมามีความรู้สึกกดดันไหมว่าเป็นลูกของ 2 นก คนก็คาดหวังไว้สูง เคยรู้สึกไหมว่าฉันจะต้องหาทางออก?" บอม เปล่งพานิช จึงตอบแบบไม่ลังเลเลยว่า "ใช่ค่ะ เราจะต้องไปทำอย่างอื่นไหม บอมมีโอกาสได้ไปเรียนเมืองนอก เรียน Drama แล้วชอบมาก หรือว่าเราอยากแสดงน่ะ แต่คิดว่ามันทนไม่ไหว ทนกับความกดดันนี้ไม่ไหว"
ลูกสาวคนเดียวบ้านเปล่งพานิช บอกอีกว่า "พูดตรงๆ ว่า มันเป็นแรงกดดันที่เราให้กับตัวเอง มากกว่าที่คนอื่นให้เรา แต่คือใช้เวลา 30 ปีนะกว่าจะคิดได้ ซึ่งถ้าข้างในรู้สึกดี ข้างนอกก็จะรู้สึกดี มันเริ่มจากที่ บอม มากิน Plant-based (อาหารที่ทำจากพืช) ประมาณ 90% เลยรู้สึกว่าข้างในดีขึ้น พอข้างในดีขึ้นมันส่งผลกับสมอง ความคิด และสิ่งที่ทำได้ก็คือจริงจังและจริงใจกับความรู้สึกตัวเองให้มากที่สุด"
"เราโชคดีขนาดไหนที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วพอผ่านไปประมาณ 2-3 ปี รู้สึกว่ามันเหมือนเดิมไม่ได้มีความรู้สึกตื่นเต้นแล้ว ทำไปทำไม ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเราไม่สามารถทำสิ่งที่ตัวเองรักที่สุดได้แล้ว ยังไงต่อก็เลยลาออก พยายามที่จะแบบว่าไม่อยากเกลียดในสิ่งที่ตัวเองรัก" บอม เปล่งพานิช พูดด้วยสีหน้ามีความสุข
ก่อนที่เธอจะอธิบายว่า มานั่งคิดว่าสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดมันไปต่อไม่ได้แล้ว จะมีอะไรอีกไหม นั่งถามตัวเอง เคยตั้งกฎกับตัวเองไว้ตอนอายุ 18 ว่าฉันจะทำอย่างนี้ๆ แล้วเธอก็ทำหมดทุกอย่างครบหมดในอายุ 28 ตอนเธอได้รางวัล National Geographic ก็แบบแล้วไงต่อ แล้วมีอะไรอีกที่เรายังไม่ได้ทำ เลยเริ่มจากตรงนั้นก่อน ซึ่งเธอบอกว่า เธอชอบการเล่าเรื่อง ชอบ Storytelling แบบไหนบ้าง แล้วก็คิดต่อไปอีก
"ถ้าทำแล้วคุณรู้สึกสวยทำเลย มันไม่ได้มีอะไรผิดเลย อยากไปฉีดโบท็อกก็ไปฉีด อยากให้หน้าเล็กลงก็ไปทำ มันเป็นการดูแลตัวเองอีกแบบหนึ่ง" บอม เปล่งพานิช ให้ความคิดเห็นถึงเรื่อง ดูดี กับ ตัวตน คิดอย่างไรกับการเสริมความงาม ?
นอกจากนี้เธอยังได้บอก Mindset ถึงวิธีจัดการกับความคิด จิตใจ ความมั่นใจ ของตัวเองอีกว่า " Let it go พยายามทำอะไรแบบที่ให้ตัวเองมีความสุข บอมเป็นคนใช้เวลากับตัวเองเยอะมาก พยายามบริหารจิตใจตัวเองให้มากที่สุด ด้วยการจริงใจกับตัวเอง ถ้ามัน Make Sense มีโอกาสดูแลตัวเองเยอะ จุดที่ต่ำที่สุดคือมีทางเดียวมันขึ้นแน่นอน เพราะมันคือชีวิต The Only Person You Need To Impress Is Yourself คนเดียวที่เราจะต้องให้ความสำคัญและให้ค่าคือตัวเราเอง"
คลิปจาก WOODY