- 02 ก.พ. 2565
นิกกี้ ณฉัตร พาเปิดบ้านเกิด "ทิดไพรวัลย์" จ.จันทบุรี ที่พักใจในวันที่รู้สึกแย่ หลังเกิดดราม่า พร้อมเปิดใจถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น
เป็นคนดังที่ถูกจับตามองอย่างต่อเนื่อง สำหรับอดีตพระชื่อดังอย่าง ทิดเอก ไพรวัลย์ วรรณบุตร กลังจากที่สึกออกมาจากร่มกาสาวพัสตร์ ก็เจอดราม่าซัดเข้ามาไม่หยุด จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 65 นิกกี้ ณฉัตร ได้เผยคลิปจากช่องยูทูบ Nickynachat พาไปเปิดบ้านเกิดของทิดไพรวัลย์ ที่ จ.จันทบุรี เป็นครั้งแรกหลังเกิดดราม่า พร้อมกับพูดคุยถึงเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น
โดย นิกกี้ ได้ถามถึงสาเหตุที่มาอยู่จันทบุรี ว่ามาทำไม มาพักใจเหรอ? ทางทิดไพรวัลย์ ได้ตอบว่า ก็บ้าน ก็หลบดราม่าหน่อย ได้โอกาสทบทวนด้วย อะไรด้วยหลาย ๆ อย่าง ในวันที่เรารู้สึกแย่ ก็มีคนในครอบครัวที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราสามารถมูฟจากตรงนั้นก่อนได้ ครั้งนี้โชคดีที่มีพระอาจารย์นภันต์ พระอาจารย์ที่เรานับถือมาด้วย อยากให้ท่านมาเพื่อจะได้เทศน์สอนเรา
จากนั้นได้มีการนั่งพูดคุยบริเวณหน้าบ้าน ก่อนจะเข้าไปด้านใน และพูดคุยกันเรื่องบ้านหลังนี้ ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านใหม่ที่สร้างให้พ่อแม่ ก่อนพาไปดูห้องไลฟ์ ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ของทิดไพรวัลย์เอาไว้ บ้านมี 2 ห้องนอน ก็คือห้องตนเอง และห้องของพ่อกับแม่อยู่ข้างล่าง แต่กำลังทำ บ้านนี้ดูเหมือนจะใหญ่และแพง แต่จริงๆถูกสร้างในราคาที่ถูกลงกว่าครึ่ง เพราะพ่อ แม่ ลุง เป็นช่าง คนในครอบครัวเป็นคนทำ ก็เลยประหยัดไปได้เยอะ จริง ๆ ก็อยากกลับมาใช้ชีวิตที่นี่ ที่กรุงเทพฯ ก็อยู่ได้ถ้าทำงาน แต่คิดว่าสภาพแวดล้อม บริบทที่มันจะฟูใจ มันไม่เท่าอยู่บ้าน ส่วนคอนโดอยู่รัชดา เช่าอยู่ เพราะไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ถาวร
นอกจากนี้ นิกกี้ ยังพูดคุยกันถึงดราม่าต่างๆ จากที่มีคนรัก วันนึงเจอคนว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่ง ทิดไพรวัลย์ ก็ตอบว่า มองว่าเป็นจุดนึงบางทีเราต้องเลือกอะไรบางอย่าง ในความที่คนชื่นชอบเยอะ เราไม่สามารถทำอะไรเพื่อตอบสนองความพึงพอใจของคนจำนวนเยอะ ๆ ที่ชอบเราได้ ถึงจุดหนึ่งเราต้องเลือกว่าเราจะตอบสนองความพอใจของคนเพื่อรักษากลุ่มคนที่ติดตามเราไว้ หรือเราจะทำอะไรบางอย่าง แม้รู้ว่าจะขัดใจกลุ่มคนพวกนั้น แต่เราเลือกที่จะเป็นตัวของตัวเอง แต่ตนดันอินดี้มากไป อยากจะเป็นตัวของตัวเองให้มันชัด จนทำให้คนที่ตามเขาไม่ได้ถูกตอบสนองในสิ่งที่เขาต้องการ เช่นเขาอยากให้เรา Call out หรือทำโน่นนี่ แต่เราไม่ทำ เขาก็คิดว่าเรามันหยิ่ง เราไม่เหมือนเดิม ก็จะเริ่มมีกระแสโจมตีเยอะขึ้น เพราะเราฟังเสียงของคนเหล่านั้นน้อยลง
สิ่งที่รู้สึกน้อยใจ ไม่ได้พูดเพื่อเข้าข้างตัวเอง คือคนลืมสิ่งที่เราเคยทำไปหมดแล้ว การ Call out การพูดเพื่อสังคม หรือการทำอะไรบางอย่างที่มันเห็นได้เชิงประจักษ์ที่เราทำ ทั้งตอนที่เป็นพระและหลังสึก คำนึงที่โดนเยอะคือ "มั่นหน้ามั่นโหนก" ก็ได้บทเรียนว่า ถ้าคนเขาเกลียดแล้ว ก็ไม่ต้องอธิบายหรอก เขาก็หามุมที่จะมองว่าสิ่งที่พยายามพูด พยายามทำเป็นสิ่งที่ยิ่งแย่ลงไป
ส่วนเรื่องเรตราคา ไม่รู้ว่าตอนบวชหรือหลังบวช ทุกครั้งที่คุยงานตนเองจะไม่คุยเอง จะให้ทีมงานเป็นคนคุย เพราะเด็กที่ทำงานให้สามารถคุยได้ พูดได้ เด็กไม่ได้ทำงานฟรี ค่าเรียน ค่าที่พัก ตนเป็นพระก็ต้องจ่าย ถ้าจะใช้งานตน ตนเป็นพระ ไม่ให้ก็ได้ แต่จะไม่ให้ทีมงานเลยเหรอ ทุกครั้งจึงให้ลูกศิษย์เป็นคนรับงาน
ตอนนี้ก็พยายามมีความสุข มูฟได้แล้ว คิดว่าดราม่าทั้งหมดทั้งมวลได้ชี้แจงไปแล้วตามความเหมาะสม ส่วนเรื่องเรียกเรต ก็อยากชี้แจงตามนั้น หากลูกศิษย์มีการเรียกเรตอะไร ก็อยากให้เห็นใจเราเถอะ คุณจะใช้งานเรา เรามีลูกศิษย์ 3-4 คนอยู่ด้วย ส่วนเรื่องกระแสตีกลับมองว่ากระแสต้องมีลงแน่นอน ทุกคนต้องมีขาลง
ขอบคุณ Nickynachat