- 16 ก.พ. 2565
ล้วงลึกเรื่องลับ มิ้นท์ I Roam Alone บล็อกเกอร์สาวนักเดินทางทั่วโลก เปิดปากสารภาพ ปี 2564 สูญเสียสิ่งสำคัญไปเยอะมาก
อีกหนึ่งบล็อกเกอร์สาวนักเดินทางที่โด่งดังไปทั่วโลก ที่มักจะมีคลิปการผจญภัยแบบสนุกๆ น่าตื่นเต้นมาฝากลูกเพจเสมอๆ สำหรับ มิ้นท์ มณฑล กสานติกุล เจ้าของเพจ I Roam Alone ที่มีผู้ติดตามหลายล้านคน ที่ล่าสุด มิ้นท์ I Roam Alone ได้ออกมาเปิดใจเล่าเรื่องความรักที่มักไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ เหตุเพราะไม่ตรงปก พร้อมบอกสถานะตอนนี้ไม่โสดมีคนคุย และเรื่องหนักที่สุดในชีวิต เหตุการณ์ดราม่าที่เธอต้องเจอทั้งโลกจริงและโลกออนไลน์ ทั้งหมดนี้ในรายการ Woody FM
โดย มิ้นท์ เริ่มต้นเล่าว่า ถ้าต้องนึกถึง 1 เรื่องในชีวิต 10 ปีที่ผ่านมา ที่ไม่เคยพูดเลยคือเรื่องความรัก เพราะเป็นคนที่ให้ความรู้สึกกับความรักมาก และเราคิดว่าเป็นสิ่งที่เราไม่เคยประสบผลสำเร็จ เราก็เลยไม่พูด ความรักเป็นเรื่องใหญ่มากของมิ้นท์ ความรักเป็นเรื่องใหญ่มากของมิ้นท์ คืออะไรจะพังไม่เป็นไรเท่าความรัก แล้วก็เป็นคนที่มีความรักมาตลอด แต่ไม่ค่อยเปิดเผยเท่าไหร่ รู้สึกว่าเราไม่ได้ประสบผลสำเร็จในเรื่องนี้
"คนที่เข้ามาส่วนใหญ่เขาก็จะรู้สึกว่า เขาสั่งของมาแล้วของไม่ตรงปก เขาคงคิดว่าแบบเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องดูแลมาก ชิล ๆ สบาย ๆ แต่ความจริงคือมิ้นท์เป็นคนที่ติดแฟนมาก เห็นแบบนี้คือ โอ้โห เราจะจัดทุกอย่างตารางได้หมด คือเราเดินทางอยู่ก็จริงแต่ว่าเราก็จะจัดทุกอย่างทุ่มเทมากเรื่องพวกนี้ คือเขามาก่อนเลย
จะเป็นคนงอแงมาก ขี้น้อยใจ ชอบให้คนดูแล ต้องการความรักตลอดเวลา เวลาไปต่างประเทศต้อง โทร. ตลอด คือสุด ถ้า โทร. ไม่ได้ก็คือ โทร. เลยแบบเท่าไหร่ก็จ่าย แล้วก็จะเป็นคนควบคุม เพราะเราอยากให้เขาดีขึ้น แต่ความดีของคนมันก็ไม่เหมือนกันอีกอะ บังคับออกกำลัง บังคับไปกินอาหารคลีน ทำแบบนั้น แบบนี้สิ ลองอันนี้ไหม เราไปสร้างระเบียบแบบแผนให้เขาอีกที เขาจะอยู่กับเราแล้วเหนื่อยมาก เขาก็จะพยายามปรับเพื่อเรา ทุกคนก็พยายามปรับเพราะรู้สึกว่าเราก็หวัง แต่อยู่กับมิ้นท์แล้วมันเหนื่อย" มิ้นท์ อธิบาย
มิ้นท์ พูดถึงตนเองว่า "จะเป็นคนขัดแย้งอยู่ในตัวเอง คือเราอยากให้เขาเป็นคนที่ดีขึ้นเอง พอไปบังคับคือรู้สึกว่าเราไม่น่าไปบังคับเลย แต่พอไม่ไปยุ่งกับเขาก็รู้สึกว่าทำไม มันก็จะผลักๆ ดึงๆ แล้วในจังหวะที่เรารู้สึกว่าเขาไม่ได้เป็นตัวเองในระหว่างที่อยู่กับเราเลย เราเฟล งั้นเลิกก็ได้ เพราะอยากให้เธอได้เป็นตัวของตัวเอง ได้ทำในแบบของเธอไม่ต้องมาเปลี่ยนเพื่อเรา"
เธอขยายความต่อไปว่า เธอเพิ่งมารู้ตัวหนักๆ เมื่อปีที่แล้วเป็นต้นมา เมื่อเราเริ่มกลับมาโฟกัสกับความรู้สึกของเราเอง พยายามค้นหาว่าอะไรที่ทำให้เรารู้สึกเป็นแบบนี้ เพราะเราเห็นแพทเทิร์นของเรา แล้วถ้า เธอ ยังไปแพทเทิร์นแบบนี้ต่อ เธอไม่มีความสุขแน่ๆ คนที่อยู่กับ เธอ ก็ไม่มีความสุข ก็ค่อยๆ พยายามในการจะแกะพวกนี้ อะไรทำให้เรารู้สึกแบบนี้ รู้สึกว่าต้องควบคุม อะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันควบคุมไม่ได้แล้วไม่ปลอดภัย พยายามบอกตัวเองว่ามันปลอดภัย ลองคิดว่าควบคุมไม่ได้แต่มันปลอดภัย ลองเปลี่ยนเงื่อนไขมันอาจจะดีขึ้น
เมื่อถามถึงเรื่องสถานะหัวใจตอนนี้ เธอก็ได้ตอบแบบไม่อ้อมค้อมเลยว่า "ตอนนี้มีคุยๆ ค่ะ มิ้นท์มีคนเข้าหาตลอด ซึ่งมันเป็นโชคดีหรือเปล่าก็ไม่รู้ ซึ่งคนชอบคิดว่ามิ้นท์โสดตลอดเวลา ซึ่งมันไม่จริง บางทีก็มาแบบเพื่อนของเพื่อน เพราะมิ้นท์เจอคนเยอะ บางทีก็รู้จักกันจากการทำงาน แพทเทิร์นการเลือกทรงเราก็จะประหลาด ไม่ค่อยใช้สมองเท่าไหร่ จะใช้หัวใจนำเสมอ มิ้นท์เป็นคนตกหลุมรักเร็ว"
มิ้นท์ มณฑล บอกต่อไปอีกว่า เธอไม่มีสเปก เธอจะหลงรักคนที่เธอชื่นชม หรือรู้สึกว่าเขามีแพสชั่นกับอะไรบางอย่าง คนที่แบบมีพลังเวลาออกไปทำอะไร หรือมีเป้าหมาย มีอะไรที่รู้สึกว่าอยากจะไป ซึ่งถ้าได้แต่งงาน เธออยากได้แค่งานแต่งเล็กๆ น่ารักๆ ที่ไหนก็ได้ เป็นคนไม่ติดเรื่องพวกนี้เลย เอาที่เขาสบายใจ ส่วนถ้ามีลูกอยากพาลูกไปเที่ยวรอบโลก แล้วถ้าอยากรู้เรื่องอะไรก็ให้เขาไปรู้เรื่องนั้น
ก่อนที่เธอจะเปิดใจเรื่องดราม่าที่ผ่านมาเมื่อปี 2564 ที่อยู่ดีๆ มันมาโดยที่ไม่ได้ตั้งตัว เธอเล่าว่า ช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ผิดหวังกับความรักด้วย ทำงานหนัก มันเหมือนโดนหลายๆ อย่าง แล้วรู้สึกว่างานบางงานทำไมเราเหมือนไม่ได้เป็นตัวเอง เหมือนมันสะสมก็เลยเป็นโกโก้ครั้นช์ ซึ่งปีที่แล้ว เธอสูญเสียความรักไป จัดการไม่ได้รู้สึกว่าเฟลไปหมดเลย เป็นจังหวะที่คอนโทรลอะไรไม่ได้เลย การงานก็ไม่ได้ ความรักก็ไม่ได้ อารมณ์ก็ไม่ได้
ส่วนเรื่องที่หนักที่สุด มิ้นท์ บอกว่าเป็นที่ อัฟกานิสถาน ซึ่งเธอไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงเร็วขนาดนั้น ไม่ใช่แค่เธอ แต่ทุกคนรอบตัวก็ไม่มีใครคิดว่ามันจะเปลี่ยนเร็วขนาดนั้น เธอเข้าปุ๊บ ออกปั๊บน่าจะไม่เป็นอะไร เพราะว่าหลังจากนี้ไม่รู้ว่าจะได้ไปอีกเมื่อไหร่ แล้วก็เป็นประเทศที่เราอยากไป ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคนที่อัฟกานิสถานคนน่ารักมาก
เธอเล่าต่ออย่างตื่นเต้นว่า เธอเป็นคนที่ไปแต่ละประเทศเพราะคน เพราะเธอชอบคน มันเติมพลังให้กับเธอในการที่เราไปเจอคนที่เราไม่รู้จัก แล้วยิ่งเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวน้อย มันยิ่งเป็นการเชื่อมกันระหว่างมนุษย์แท้ๆ โดยไม่มีอะไรมาคั่น แล้วคอนเทนท์ในเพจเธอก็เป็นแบบนี้เสมอ คืออยากให้ทุกคนได้เห็นอีกมุมหนึ่งของโลกที่มันมีมนุษย์อยู่จริงๆ
"คนแบบเรามีรัก โลภ โกรธ หลง เหมือนกัน ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม แล้วมันก็เป็นสิ่งที่มิ้นท์ทำมาตลอด เราก็เลยตัดสินใจไป แล้วก็พัง มันอาจจะเป็นเพราะช่วงนั้นสถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้น อย่างที่เราไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น ยิ่งทำให้เราควบคุมความโกรธหรือความกลัวไว้ไม่ได้แบบที่เราเคยคุมได้ค่ะ" มิ้นท์ เจ้าของเพจดังอธิบายต่อ
ก่อนที่เธอจะระบุว่า ตอนนั้นข้อความเป็นห่วงเธอก็เยอะมาก แต่เราไม่เห็น เหมือนเราไปจดจ้องแต่สิ่งที่ไม่ดี แช่งเธอให้ถูกทำร้าย ให้เธอถูกลักพาตัวไป แล้วก็โดนกล่าวหาเรื่อง Human Zoo ซึ่งเราระวังเรื่อง Human Zoo มาตลอด เพราะว่าทำงานกับคนมันเป็นไปไม่ได้ที่จะคิดแบบนั้นหรือเห็นเขาเป็น Object ของเรา แล้วการที่โดนแบบนั้น
"รู้สึก ทำไมเขาถึงทำกับเราแบบนี้ ทำไมเขาเอาความตั้งใจเราไปบิดเบือนขนาดนั้น ฟีดเฟซบุ๊กมันน่ากลัวมาก มันนำเสนอแต่อะไรที่โดนกดไลก์เยอะๆ แล้วที่โดนกดไลก์เยอะๆ มันคือสิ่งที่รุนแรง เรารู้สึกว่าทุกคนเกลียดเราหมดเลย ระหว่างนั้นที่เราเขียนโพสต์ที่ยาวๆ ไร้สาระอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด เราคิดถึงแต่คนที่เขาเกลียดเรา เราใช้พื้นที่ผิด เพราะพื้นที่ในเพจเรามันคือพื้นที่ที่คนรักเรา เป็นห่วง ติดตาม แต่เราดันไปให้พื้นที่สื่อนี้ไปสื่อสารกับความคิดเห็นใจร้าย คนที่เขามีแค่คีย์บอร์ดกับความเกลียดเป็นต้นทุน ตอนทำลงไปยังไม่รู้สึกอะไรนะ เพราะรู้สึกว่าทุกคนเกลียดเราก็ต้องปกป้องตัวเอง"
เจ้าของเพจ I Roam Alone เล่าต่อว่า หลังจากที่โพสต์ไปแล้ว ไม่ได้รู้สึกดี ความเกลียดแล้วตอบโต้ด้วยความเกลียดไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก แต่ว่าโชคดีมากเพราะว่ามีเพื่อนโทร. มา บอกเธอให้ตั้งสติ คนที่เขาอยู่ในเพจเธอเขารักเธอนะ เขาเป็นห่วงเธอนะ เธอสื่อสารออกไปแบบนี้มันผิดที่ผิดทาง มันไม่โอเค เธอทำไม่ถูก ก็เลยเป็นที่มาของการที่เราไปตั้งสติก่อนให้ภาพมันชัดขึ้นก่อน ให้อารมณ์เรานิ่งก่อน
ก่อนที่เราจะเลือกสื่อสารออกไปอีกครั้ง ว่าเราขอโทษเราสื่อสารผิดที่ แล้วครั้งนี้ที่เราพิมพ์ออกไปให้กับคนที่รักเราจริงๆ หลังจากนั้นมันดีมากเพราะเรารู้สึกว่าคนที่เขายังอยู่ เขาเห็นด้านดีและด้านไม่ดีของเรา ก็คือคนที่เขารักเราจริงๆ ซึ่งเราโล่งใจมากขึ้น ไม่รู้สึกว่าเราแบกความคาดหวังในวันนี้แล้ว การที่เขายังอยู่ก็เหมือนยอมรับในความเป็นเรา มีฝั่งไม่ดี มีฝั่งดี
"การที่เขายังอยู่ ยังเตือนเรา เขายังเชื่อมั่นว่าเราจะโตไปด้วยกันได้ ได้เรียนรู้ไปด้วยกันในความไม่สมบรูณ์แบบของเราแบบนี้ ตอนนี้เราเลยเห็นคุณค่าเขามาก ความรู้สึกกังวลหายไปหมดแล้ว รู้สึกขอบคุณ ในวันที่ล้มเขาอยู่กับเรา ความรักมันพิสูจน์ตรงนี้" มิ้นท์ I Roam Alone ทิ้งท้าย
คลิปจาก WOODY