- 03 มี.ค. 2565
"อ.เจษฎ์" ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาแชร์ข้อความของคนที่เคยจมน้ำเกือบตาย น่ากลัวมากๆ นาทีวิกฤตจริงๆ
จากเหตุการณ์พลัดตกเรือของดาราสาว "แตงโม นิดา" ส่งผลให้เธอจมน้ำจนเวียชีวิตนั้น ล่าสุด"อ.เจษฎ์" ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่เคยจมน้ำจนเกือบจะเสียชีวิต และอธิบายวินาทีระหว่างอยู่ใต้น้ำ บอกได้เลยว่า น่ากลัวมากๆ โดยโพสต์ดังกล่าวเป็นของผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nop Amorndejtawin ระบุข้อความว่า
รีโพสต์เรื่องการจมน้ำรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้
จากประสบการณ์ตรง และจะเล่าเรื่องนี้ต่อไปบ่อยๆเพื่อเป็นอุทาหรณ์
1.ในช่วงนาทีแรกๆ เมื่อรู้ตัวว่าจมน้ำ คุณจะตะเกียกตะกายสุดชีวิต มือของคุณจะคว้าทุกอย่างรอบๆตัวที่คว้าได้ แม้แต่เศษไม้ เศษหญ้า ก้อนโฟม หรือเศษขยะพลาสติกชิ้นเล็กๆที่ลอยน้ำมา …..
ขาของคุณก็จะพยายามถีบให้ตัวเองลอย แต่ถีบเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล และเมื่อจมูกของคุณอยู่ต่ำกว่าผิวน้ำ คุณจะกลั้นหายใจโดยอัตโนมัติ
(ถ้าตั้งสติได้และลอยตัวด้วยการนอนหงายให้ใบหน้าพ้นจากผิวน้ำ คุณจะรอด แต่กรณีผมคือหมดแรง และเป็นในทะเลวันคลื่นแรง คลื่นซัดตลอดเวลา นอนหงายยังไงน้ำก็เข้าจมูก)
2. เมื่อคุณใช้แรงทั้งหมดที่มีในการพยายามขึ้นจากน้ำโดยไร้ที่ยึดเกาะ คุณจะเริ่มเหนื่อย หัวใจคุณจะเต้นเร็วมาก ชั่วพริบตาเดียวคุณจะรู้สึกเหนื่อยมาก จนกลั้นหายใจไม่ไหว จากนั้นคุณจะเริ่มสำลักน้ำ
3. เมื่อคุณสำลักน้ำ คุณจะแสบจมูก แสบคอ แสบหน้าอก แสบในศรีษะ คุณจะพยายามกลั้นหายใจอีกครั้ง
และพยายามตะเกียกตะกายให้หัวพ้นน้ำเพื่อฮุบอากาศหายใจให้ได้
4. ถ้ายังหาที่ยึดเกาะให้ตัวลอยพ้นน้ำไม่ได้ เพียงไม่กี่อึดใจ คุณจะหมดแรงขัดขืนและเริ่มจม
5. ไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น คุณจะเริ่มหายใจในน้ำได้เป็นการสูดหายใจเอาน้ำเข้าปอดแบบเต็มที่ คุณจะรู้สึกเหมือนกับการหายใจปกติบนบก แต่สติของคุณจะบอกตัวคุณว่า คุณกำลังจะแย่แล้ว
6. ดวงตาของคุณจะเบิกโพลง และยังหายใจในน้ำต่อไป โดยที่คุณจะไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆทั้งสิ้น กรณีผมรู้สึกสบายตัว ไม่แสบ ไม่สำลัก ไม่ทรมาน ในระหว่างการหายใจในน้ำ รู้สึกได้ว่าหายใจเอาของเหลววิ่งผ่านหลอดลมเข้าไป แต่รู้สึกแค่เพียงครั้งแรกๆของการหายใจ หลังจากนั้นไม่รู้สึกอะไร
7. ร่างกายคุณจะจมลงไปเรื่อยๆและไหลไปตามกระแสน้ำ สมองจะตัดการรับรู้ในเรื่องความเจ็บปวดออกไป สติก็จะเลือนลาง พร้อมที่ภาพจะตัดได้ทุกเมื่อ
8. เมื่อถึงจุดนี้ ประสบการณ์ของหลายๆคนจะไม่เหมือนกัน
ส่วนตัวของผมเองเห็นภาพ Flash back ในอดีตตั้งแต่วัยเด็ก ผมพยายามมีสติตลอดเวลา รับรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดแต่ไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ ขยับแขนขาไม่ได้ รู้แต่ว่าจมลงไปเรื่อยๆตามกระแสน้ำ
9.คุณกำลังจะหมดสติ ภาพทุกอย่างตัดไป แต่คุณยังจะหายใจต่อไปอีกสักระยะ
10. คุณจะเสียชีวิต
ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่รู้สึกเหมือนนานชั่วกัปชั่วกัลป์
คนจมน้ำตาย ถ้าไม่สลบก่อนจมน้ำ น่าจะเป็นการตายที่ทรมานที่สุดในด้านความรู้สึก เพราะใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน และเค้าจะรู้ตัวเองตลอดเวลาทุกขั้นตอน
แต่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย
ของผมเดินทางมาถึงข้อที่ 9.
โชคดีที่รอดมาเล่าประสบการณ์ได้
….อยู่ในน้ำ เสื้อชูชีพคือสิ่งเดียวที่การันตีการรอดชีวิตของคุณได้ ไม่ใช่เรือ ไม่ใช่ขอนไม้ ไม่ใช่ลังโฟม แต่คือการสวมเสื้อชูชีพครับ ดังนั้นอย่าประมาทครับ….
เผื่อท่านที่แชร์เรื่องนี้จากผมไป แล้วอยากทราบว่าทำไมผมถึงจมน้ำ
ในขณะนั้นผมว่ายน้ำเป็นครับ และว่ายน้ำแข็งมากๆ ผ่านการดำน้ำมาหลายไดร์ฟ เรียนดำน้ำถึงหลักสูตร Advanced
เหตุการณ์วันนั้นคือ ผมพยายามช่วยคนที่ว่ายน้ำไม่เป็น กำลังจะจมในทะเลครับ
ผมทำพลาดที่ผมเข้าไปทางด้านหลังของเค้าไม่ทัน เลยถูกเค้ากอดรัด , ล็อคคอ , และเค้าพยายามกดหัวผมลงไปในน้ำในขณะที่ตอนนั้นคลื่นแรงมาก
ผมจึงสำลักน้ำ และพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีในการว่ายน้ำหนี และดันตัวเค้าออกไป แต่ทำไม่สำเร็จ ผมหมดแรง จึงจมน้ำครับ
จังหวะสุดท้ายก่อนที่ผมจะจม ผมสะบัดตัวจนหลุด และผลักเค้าสุดแรงส่งเค้าให้ลอยขึ้นผิวน้ำ โดยหวังว่าเค้าจะรอด เค้าถูกคลื่นผิวน้ำซัดขึ้นฝั่งไป รอดชีวิตหวุดหวิด ไม่งั้นคงตายคู่
ส่วนผมถูกคลื่นใต้น้ำม้วนกลับมาลากผมให้จมลง และยิ่งลอยห่างออกจากฝั่งไปอีก ผมพยายามนอนหงายลอยคอ แต่ไม่สำเร็จ เพราะคลื่นซัดต่อเนื่อง
จากนั้นก็ตามที่เล่าครับ ที่จำเหตุการณ์ได้แม่นเพราะผมพยายามตั้งสติโฟกัสตลอดเวลา
ส่วนที่รอดมาได้ เพราะในเสี้ยววินาทีสุดท้ายก่อนผมจะหมดสติ อยู่ดีๆก็มีคลื่นลูกใหญ่ก็ซัดเข้ามาอย่างรุนแรง เพียงรวดเดียว ทำให้ตัวผมลอยขึ้นมาเกือบถึงฝั่ง จากนั้นมีคนรีบมาลากผมขึ้นจากน้ำครับ