- 06 มี.ค. 2565
ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง ลั่น แม่แตงโม ฉลาดพูดเรื่องเงิน ตีเหล็กตอนร้อน จัดหนัก 3 ประเด็น ไขปมแตงโม นิดา พลัดตกเรือสปีดโบ๊ท
ชูวิทย์ ลั่น แม่แตงโม ฉลาดพูดเรื่องเงิน ตีเหล็กตอนร้อน จัดหนัก 3 ข้อ ไขปมแตงโม กลายเป็นประเด็นที่ทำหลายคนมูฟออนไม่ได้เลยจริงๆ เพราะคดีต่างๆ ยังไม่คลี่คลายว่า แตงโม นิดา พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทได้อย่างไร เนื่องจากหลายๆ สิ่งหลายอย่าง ทั้งคำให้การของเพื่อนๆ บนเรือต่างให้การมีพิรุธอย่างมาก และสิ่งที่ทำให้หลายคนบอกว่า หอนทั้งประเทศก็คือ แม่แตงโม ที่ออกมาบอกว่า ไฮโซปอ เสนอเงินเยียวยาจากการสูญเสียลูกสาวจริง
ภาพจากโหนกระแส
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง ซึ่งเป็นการนั่งพูดคุยอยู่กับ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ในเพจของผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ถึงประเด็นที่กำลังมีการโต้เถียงกันอยู่ในปัจจุบันอย่างการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา ดาราสาวที่พลัดตกเรือกระทั่งจมน้ำเสียชีวิต ซึ่งในครั้งนี้ได้มีการพูดคุยกันรวมถึงวิเคราะสาเหตุต่างๆ
โดย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่ากรณีแม่ถือเป็นสิทธิ์ของแม่ ที่จะเรียกร้องเงินส่วนนี้ เพราะถือว่าเป็นการ "ตีเหล็กเมื่อร้อน" เนื่องจากในขณะนี้แม่สูญเสียลูกสาวไปแล้ว สิ่งที่สำคัญรองจากชีวิตก็คือเงิน เพราะฉะนั้นจึงถือเป็นเรื่องปกติเหมือนกับหลายๆคดี ที่จะมีการเรียกร้องเช่นนี้ เพราะถึงอย่างไรแม่ของดาราสาว ก็จะต้องอยู่กับความสูญเสียเช่นนี้ตลอดไป
พร้อมกันนี้ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทยและอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครักประเทศ ยังได้เปิดถึง 3 สาเหตุที่ตนไม่เชื่อว่าจะมีทางเป็นไปได้ในคดีทั้ง 3 ข้อ คือ
ข้อแรก นายชูวิทย์ไม่เชื่อล้านเปอร์เซ็นต์ ว่า อุบัติเหตุเกิดจากการฉี่ท้ายเรือแน่นอน แถมยังเป็นเรือสปีดโบ๊ท ที่คุณสามารถขับไปให้ถึงได้เพียง 2-3 นาที ทั้งๆ ที่มีร้านอาหารเต็มไปหมด ตลอดเส้นทางสะพานพระราม 7 โป๊ะเรือขึ้นได้ตลอดทาง ซึ่งเขา (แตงโม นิดา) เป็นถึงดารามีชื่อเสียง ที่จะต้องระวังกับเรื่องนี้อย่างมาก อีกทั้งไปกับผู้ชายที่ไม่สนิท รวมถึงบริเวณจุดที่แจ้งว่าน้องทำธุระตรงท้ายเรือ ซึ่งมีเนื้อที่ค่อนข้างน้อย และแจ้งว่ามีการจับขา นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ในข้อนี้
ประการที่ 2 นายชูวิทย์ ได้กล่าวเพิ่มว่า ทำไมต้องฆ่า ทำไมถึงต้องไปลวนลามในเรือ ถึง 5 คน ถ้าเป็นการล่องเรือในทะเลก็ว่าไปอีกเรื่อง โดยตนคิดว่าตัดข้อนี้ไปได้เลย
และประเด็นสุดท้าคือ เกี่ยวเนื่องจากเรื่องฆาตรกรรมนั้น ไม่น่าจะมีเรื่องรับงานนี้เกิดขึ้น เมื่อมีการชวนกันไปกินข้าว และมีการพบเห็นกับประชน ผมคิดว่าถ้ามีอย่างอื่นน่าจะง่ายกว่าการไปกินข้าวหรือ ถ่ายรูปบนเรือ โดยตนขอตัดทั้ง 3 ข้อนี้ ในความคิดเห็นของตัวเอง
"ผมคิดว่าเรื่องนี้ ควรพูดไปตรงไปตรงมาตั้งแต่ทีแรกก็จะจบ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุถ้าคุณรอให้ปากคำช่วยเหลือตั้งแต่คืนนั้นไป แต่ที่หายไปไม่รู้ว่าหายไปไหน แล้วไปคิดมากว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งไม่รู้ว่ามันจะมีเรื่องอีกหลายอย่างผูกตามมามันทำให้อาจเกิดพิรุธขึ้นได้และอาจจะขัดจากความเป็นจริง ทั้งเรื่องเวลา ทั้ง เรื่องนี้มันควรจะพูดตรงไปตรงมา ถึงวันนี้กลับตัวไม่ทันแล้ว อะไรที่โกหกไปแล้วต้องโกหกต่อไป เมื่อไหร่ที่มีคนกล้าพูดความจริงออกมา เรื่องก็จะคลี่คลายในที่สุด" นายชูวิทย์ระบุ
ส่วนกรณีแม่แตงโม เรียก 30 ล้านนั้น นายชูวิทย์ ออกความเห็นว่า การเสียลูกไป สิ่งที่คุณต้องการคือกระบวนการเยียวยา ท้ายสุดคือเรื่องเงิน ไม่ใช่คุณมากอดทีนึงแล้วบอกว่าเป็นคนดี มันอยู่ที่เงิน อย่างแม่เสียลูกไป ลูกฉันตายทั้งคน ยังไงอย่าไปตัดสินตรงนี้ อย่าไปตำหนิแม่เพราะเขาเหลือแม่คนเดียว
แม่อยู่ในภาวะสับสน เพราะเสียลูกไป ควรให้อภัย เพราะเขาให้ 30 ล้านก็เป็นคนดีได้ เพราะเป็นคนรับผิดชอบ ก็เขารับผิดชอบ ก็โอเค ส่วนเรื่องคดีตำรวจก็ว่ากันไป ซึ่งการที่แม่จะคิดเรื่องเงินก็เป็นเรื่องปกติ เพราะลูกก็เสียไปแล้ว ซึ่งแม่เป็นคนฉลาดด้วยซ้ำ ที่พูดเรื่องนี้ในเวลานี้ ตีเหล็กก็ต้องตีตอนร้อน ไม่เห็นแก่เงินจะเห็นแก่อะไร ก็ฉันเสียลูกไปแล้ว ลองคิดว่าเป็นลูกคุณจะรอให้ศาลตัดสิน หรือเรื่องเงียบแล้วค่อยพูด
อย่างไรก็ตาม นายชูวิทย์ ยังได้ระบุอีกว่า เรื่องนี้จะกลับตัวก็ไม่ทันแล้ว เพราะถ้าโกหกแล้วก็ตจ้องโกหกต่อไป และก้ต้องไปหาข้อมูลการโกหกต่อไป ซึ่งถ้ามีคนกล้าจะพูดความจริงออกมาทุกอย่างจะคลี่คลาย
คลิปจากเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว