- 11 มี.ค. 2565
"ขวัญ พิมพ์อัปสร" ลูกสาว สรพงศ์ ชาตรี เล่าวินาทีสุดท้ายก่อนคุณพ่อจากไป พ่อได้ก็จากไปเเบบยิ้ม ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกคุณพ่อคุณแม่
11มี.ค.65 บรรยากาศพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เเละสวดพระอภิธรรม "สรพงศ์ ชาตรี"โดยเมื่อเวลาประมาณ 17.00น. เจ้าพนักงานพิธีอัญเชิญน้ำหลวงพระราชทาน เข้าสู่ ศาลากลางน้ำ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร โดยจะมีการสวดพระอภิธรรม ถึงวันที่ 17 มี.ค. 65 เป็นเวลา 7 วัน ก่อนเก็บร่างเอาไว้ 100 วันเพื่อรอพิธีพระราชทานเพลิงศพต่อไป
ซึ่ง โย ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา อดีตภรรยา พร้อมด้วย ขวัญ พิมพ์อัปสร ลูกสาว ของ สรพงศ์ ชาตรี ได้เปิดใจแก่สื่อมวลชน โดย ขวัญ พิมพ์อัปสร เปิดเผยว่า คุณพ่อไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง และเป็นคนแข็งแรงมาก คิดว่ารักษาแล้วจะกลับมาทำงานได้เหมือนเดิม ซึ่งในช่วงแรกๆที่ป่วย ตนไม่ได้ไปเยี่ยม เพราะเป็นช่วงที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก ช่วงหลังๆยังเป็นคนแข็งแรงมากในคนอายุเท่านี้
อาการช่วงแรกคุณพ่อเหมือนคนป่วยนิดหน่อย จนมาเริ่มเคลื่อนไหวช้าลง และเดินไม่สะดวก ตั้งแต่เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา และเป็นช่วงโควิด จึงไม่ได้บอกใครให้มาเยี่ยม และเป็นความประสงค์ของคุณพ่อ คิดว่าคุณพ่อต้องหาย จนเร็วๆนี้ก็คิดว่าต้องหายกำลังใจดีตลอด แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ จนวินาทีก่อนเสียก็จากไปแบบยิ้ม
ซึ่งอาการก่อนจากไปของคุณพ่อ ความดันตกเหลือประมาน70 คุณหมอแจ้งว่าพยายามปั๊มหัวใจแล้ว แต่ไม่ขึ้น ทุกครั้งที่จับมือ มือจะอุ่น แต่เมื่อวานมือเย็น ทำให้ใจเสีย ทุกคนเอาใจช่วย แต่คุณพ่อสู้มาเยอะแล้ว ทุกคนจึงบอกคุณพ่อว่าถ้าไม่ไหว ไม่ต้องห่วงอะไร ถ้าคุณพ่อจะไป อยากให้ไปโดยไม่ต้องห่วงและไม่ต้องทรมาน ซึ่งทุกคนไม่อยากให้คุณพ่อทรมาน ตลอดเวลาที่คุณพ่อสู้และหน้าตาสดใสมาตลอด มีพลกำลังดี จนสัปดาห์สุดท้ายก่อนเสียที่ผอมซูบลงอย่างเห็นได้ชัด ที่ผ่านมาตลอดเวลาที่อยู่ในห้องไอซียู ไม่เคยร้องเจ็บเลย
ที่ผ่านการเกิดเป็นลูกสรพงศ์ ตอนเด็กเคยคิดว่าต้องไม่ทำให้พ่อแม่เสียชื่อ จึงทำให้ตนเองเป็นคนรู้หน้าที่ ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่การฝืนต้องเป็นเด็กดี เหมือนการทำตัวปกติ และภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกคุณพ่อคุณแม่ ที่ได้ทำหน้าที่ในฐานะของพ่อแม่ หรือคนของประชาชนได้อย่างดี ภูมิใจและดีใจที่คุณพ่อภูมิใจในตัวเรา