- 17 มี.ค. 2565
ลูกน้อง ซิม คิวเท หรือที่คุ้นหูในชื่อ คิวเท โอปป้า เปิดใจน้ำตาคลอ อยากเคลียร์ใจอดีตเจ้านาย แจงดราม่าขอเงินเดือนเพิ่ม ซัดชาวเน็ตใส่ร้ายพูดกันเกินเลย ปัดขายขโมยแบรนด์เนม - ขายข้อมูลบริษัท
ลูกน้อง คิวเท โอปป้า น้ำตาคลอ อยากเคลียร์ใจ ซัดชาวเน็ตใส่ร้ายพูดกันเกินเลย หลังจากที่เกิดกรณีดราม่าติดเทรนทวิตเตอร์อันดับ 1 ในไทย เมื่อกรณียูทูบเบอร์หนุ่มเกาหลี ซิม คิวเท หรือที่คุ้นหูในชื่อ คิวเท โอปป้า ถูกทีมงาน 4 คน รวมหัวหักหลัง ทั้งนินทาว่าร้ายด้วยถ้อยคำที่รับไม่ได้ เรียกมาด่าขอขึ้นเงินเดือน ทั้งที่บางคนจบ ม.6 ไม่มีประสบการณ์ แต่ก็ให้เงินเดือนถึง 3 หมื่น และขโมยของแบรนด์เนมมูลค่าหลายแสนไปขายเป็นเวลากว่า 3 ปี
กระทั่งต่อมามีการเปิดวาร์ป 4 ทีมงานแสบหักหลังรุมด่า ขโมยของ คิวเท ซึ่งคนแรก ทีมงานตัดต่อเงินเดือน 3 หมื่นอายุไม่ถึง 20 จบม.6 ไม่มีประสบการณ์ตัดต่อเลยแต่ คิวเทรับมาทำงานเพราะเอ็นดู เริ่มจาก 0 ทุกอย่างคิวเท ให้มาฝึกมาสอนจนมีฝีมือขึ้นมาได้ คนที่ 2 เลขา เป็นนักศึกษาจบใหม่ขอเวลาพักและเงินเดือนเพิ่ม ถ้าไม่ได้อย่างที่ต้องการจะลาออก ที่สำคัญคนนี้เป็นคนที่ "ขายข้อมูลบริษัท" มีหลักฐานมัดตัว
คนที่ 3 พี่ที่คิวเทรักมากๆอีกคน ออกไปทำช่องยูทูบของตัวเองสักพักแล้ว แต่ที่ผ่านมาก็ร่วมนินทาคิวเทกับทุกคน ไปทำช่องของตัวเองได้ฐานแฟนคลับจากช่องคิวเทไปด้วย และคนที่ 4 ตากล้องอยู่กันมา 3 ปี ไปด้วยกันแทบทุกที่ ทั้งนินทาว่าร้ายคิวเท ไม่พอยังเป็นขโมย แอบขโมยของแบรนด์เนมของคิวเทไปขายในกลุ่มแบรนด์เนมมือ 2 มีหลักฐานมัดตัว
- เปิดวาร์ป 4 ทีมงานแสบหักหลัง รุมด่า ขโมยของ "คิวเท โอปป้า"
ล่าสุด เกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ กองปราบปราม พหลโยธิน น.ส.ชาริณี หรือ น้ำหวาน เลขาฯ และ นายศาสตราวุฒิ หรือ ไจแอนท์ อดีตทีมงานตัดต่อของ คิวเท โอปป้า ยูทูบเบอร์ชาวเกาหลี ได้เดินทางเข้าพบนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับกรณีดราม่าที่เกิดขึ้น
โดย ทนายไพศาล ระบุว่า ตลอดช่วงเวลาที่ถามข้อมูลทั้งคู่มีอาการเสียใจ พูดไปร้องไห้ไป ส่วนตัวเชื่อว่า ทั้งหมดอยู่กันแบบครอบครัว รักกัน แต่มีเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน เปรียบเทียบให้เห็นภาพคือ เหมือนพ่อ มีลูก 4 คน ซึ่งมีเรื่องที่ทำให้ทั้ง 4 คน น้อยใจพ่อ ตัดสินใจออกจากบ้านกัน ยืนยันทั้งหมดไม่ได้มีการพูดคุยกันมาก่อนเรื่องการลาออก
"ส่วนประเด็นในโซเชียลมีการแสดงความคิดเห็นกันเกินจากความเป็นจริง ซึ่งอยากหาโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่าย ปรับความเข้าใจกัน ส่วนตัวเชื่อว่าหากพูดคุยกัน จะทำให้กลับมารักกันมากกว่าเดิม เนื่องจากกระบวนการทางกฎหมาย ไม่มีเรื่องอะไรน่ากังวล" ทนายไพศาล ระบุ
นอกจากนี้ ยังได้อธิบายในส่วนเรื่องคนที่ขโมยของ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องดำเนินการตามคดีของกฎหมาย เราไม่ยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว ทั้งนี้ ตนและครอบครัวเป็นแฟนคลับของคิวเท เข้าใจความรู้สึกดี จึงอยากจะให้ทั้งหมดได้เคลียร์ใจกันในเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกัน น้ำหวาน เลขาฯ ได้เปิดใจว่า หลังเกิดเรื่องตนยังไม่ได้ติดต่อไปพูดคุยกับคิวเท ยอมรับว่าไม่กล้าคุย และไม่รู้ว่าคิวเทจะคิดยังไง ส่วนตัวทำงานกับคิวเทมานาน รักคิวเทมาก รู้ว่าคิวเทชอบหรือไม่ชอบอะไร ตนไม่ได้โกรธ อยากปรับความเข้าใจกัน แต่ขอให้ทนายเป็นตัวกลาง ส่วนจะกลับไปทำงานร่วมกันอีกหรือไม่นั้น ทุกคนเคารพการตัดสินใจของคิวเท
แต่ตนยินดีและอยากกลับไปร่วมงานด้วย ส่วนประเด็นที่มีการกระแสข่าวออกมาว่ามีคนขโมยของออกไปด้วย ยืนยันว่าทั้งคู่ไม่รู้เห็นเรื่องนี้ จนมาทราบจากที่คิวเทโพสต์ลงในเฟซบุ๊กและยูทูบ ส่วนเรื่องที่บอกว่า นำเรื่องส่วนตัวไปว่าร้าย นินทานั้น เป็นเรื่องเข้าใจผิดแล้วยังไม่ได้เคลียร์ใจกัน
ด้าน นายศาสตราวุฒิ เปิดเผยในส่วนของตนว่า ตนขอบคุณคิวเทที่สอนงานมาตั้งแต่แรก คอยดูแล คอยให้ความช่วยเหลือทุกอย่าง ตนซาบซึ้งใจมาตลอด โดยก่อนหน้านี้มีเรื่องให้เข้าใจผิดกัน เป็นเรื่องของความรู้สึกที่เราไม่เข้าใจกัน ตนก็อยากจะมีโอกาสได้อธิบายให้คิวเทได้ทราบ ไม่ได้มีเจตนาร้ายเลย
นอกจากนี้ยังได้ระบุอีกว่า ส่วนกรณีเรื่องเงินเดือน ยืนยันว่าทั้ง 4 คนไม่ใช่คนโพสต์ แต่มีบุคคลอื่นเข้ามาแสดงความคิดเห็น ทำให้เกิดการเข้าใจผิดกัน จนเกินเลยไปไกล ส่วนตัวรู้สึกผิด กับสิ่งที่เกิดขึ้น ย้ำว่ารักครอบครัวนี้มากและเสียใจไม่ต่างกัน