โยคีปอ พ้อ แก๊งสปีดโบ๊ทกลายเป็นจำเลยสังคม ลั่นไม่มีโอกาสได้พูดเรื่องจริง

โยคีปอ พ้อ แก๊งสปีดโบ๊ทกลายเป็นจำเลยสังคม ลั่นไม่มีโอกาสได้พูดเรื่องจริง หลังจาก หลวงพี่อุเทน เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ได้แถลงเรื่องสำคัญของทั้ง โยคีปอ และ โยคีโรเบิร์ต ถึงนาทีที่ สองโยคีคนดัง ถูก ตชด. สกัดรถขณะไปปฏิบัติธรรม ซึ่งทั้งสองคนจึงมีความรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งช่วงตอนหนึ่ง โยคีปอ ระบุว่า  เราจึงลงจากรถแล้วถามว่า "ตามเรามาทำไม" ซึ่งเขาบอกว่า "รถคุณต้องสงสัย" ซึ่งผมก็งงในใจว่า 'รถผมต้องสงสัยยังไง' 

 

จากนั้นเราเลยถามเขากลับว่า "เป็นตำรวจเหรอ" เขาก็บอกว่า "เป็นตำรวจ" ผมก็ถามกลับอีกว่า "ตำรวจหน่วยไหน งานอะไร ตรวจเรื่องอะไร" ทันใดนั้นตำรวจ 1 คน ซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นตำรวจไหม ก็วิ่งถอยกลับขึ้นรถแล้วก็ขับรถหนีไปเลย และเรื่องนี้ทางสตช.ได้ออกมาชี้แจงแล้ว พร้อมรับปากจะตามหากลุ่มคนเหล่านั้นให้เร็วที่สุด 

 

- หลวงพี่อุเทน ทำตกใจทั้งประเทศ หลังบอกจะแถลงเรื่อง โยคีปอ - โยคีโรเบิร์ต เขียนชื่อสองตำรวจชั้นผู้ใหญ่ขอความช่วยเหลือ
- โยคีปอ เล่าระทึก โดนรถ 3 คันประกบ ก่อนถูกชายชุดดำอ้างเป็นตชด. ตรวจค้น หลวงพี่อุเทนลั่น ใครจะแจ้งตำรวจมาเปลี่ยนประเด็น
- สตช. สั่งเร่งตรวจสอบชายฉกรรจ์ขับรถประกบ โยคีปอ - โรเบิร์ต ยันไม่มีการสั่งการแบบนั้น

 

ทั้งนี้ ในช่วงตอนหนึ่งของการแถลงข่าวนั้น โยคีปอ ได้อธิบายให้ฟังอย่างช้าๆ ชัดๆ เกี่ยวกับประเด็นที่ว่า เซ็ตฉากถ่ายภาพว่าปักกลดนอน ซึ่งโยคีปอ ระบุว่า ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นผู้ทรงศีล เราไม่มีเหตุผล ที่เราต้องถ่ายภาพให้นักข่าว ผู้สื่อข่าวหรือสื่อช่องใดก็ไม่มีใครขอเรา แต่วันนั้นเหตุผลที่เราทำมีแค่เหตุผลเดียว 

ผมเรียนด้วยความเคารพนะครับ ทางวัดรู้สึกไม่คล่องตัว ก็รู้ว่านักข่าวรู้สึกเหนื่อย ที่ต้องมานั่งรอจดจ้องคนอยู่เต็มวัด ซึ่งสุดท้ายก็ไม่ได้ภาพ และทางผู้ปฏิบัติอย่างผมและรวมถึงว่าพระในวัด ก็รู้สึกอึดอัดรวมถึงแม่ชีพราหมณ์ทุกคนก็อึดอัดเพราะไม่มีความเป็นส่วนตัว จึงมีการติดต่อกัน

โดยมีทีมงานเรา 1 คน ขอเป็นส่วนกลางให้โดยให้ข้อตกลงว่า พี่ๆ นักข่าวไม่ต้องมาติดตาม ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ 1 คน ถ่ายรูปส่งออกให้ และให้คำมั่นสัญญาว่า จะส่งภาพให้แน่นอน ให้รอส่งบรรยากาศที่ถ่ายกลดที่เรานอน เป็นยังไง ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังเชื่อว่ากลดที่เรานอนก็ยังอยู่ สามารถไปดูได้ ผมขอตอบคำตอบนี้อีกครั้งนะครับว่า เราไม่มีการสร้างภาพขึ้นมาเพื่อให้พี่นักข่าวดูเท่านั้น เรานอนที่นั่นกันจริงๆ

 

ก่อนที่ โยคีปอ จะตัดพ้อว่า ผมขออนุญาตวอนพี่นักข่าวว่า ผมเข้าใจพี่นักข่าวรวมถึงประชาชนทั้งบ้าน ซึ่งก็อยากรู้ว่าเราบวชจริงไหม เราปฏิบัติจริงหรือเปล่า แต่ผมว่าตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ผมมั่นใจว่า ผมและพี่โรเบิร์ต ได้ทำในสิ่งที่ที่ผ่านมาตัวผมก็ไม่เคยทำ เช่นการนอนกลด การเดินธุดงค์ ผมมั่นใจว่าการบวชครั้งนี้ เป็นการบวชที่เราตั้งใจอยู่บนความลำบากเพื่ออุทิศให้กับแตงโม นิดา 

ผมจะขออนุญาต ผมอยากให้พี่นักข่าวเห็นใจชีวิตส่วนตัวที่ต้องการปฏิบัติ แล้วผมขอให้คำมั่นสัญญาครับว่า ภาพต่างๆ ถ้าอยากได้จะให้ทีมงานส่งให้เป็นระยะๆ และให้ขอคำมั่นสัญญาว่า คำว่าจะหนีไปที่ไหน ข้ามไปพม่าหรือไปที่ไหนไม่มีทางเป็นไปได้เลย ผมอยากขอให้คำมั่นสัญญาแล้วอยากขอความเห็นใจ ว่าเราขอความเป็นส่วนตัวในการปฏิบัติตรงนี้จริงๆ

 

ก่อนที่ ทางเจ้าอาวาสวัดท่าไม้ จะระบุว่า หลังจากนี้อีก 9 วัน จะให้ทั้งสองมาแถลงอีกครั้งหนึ่งเกี่ยวกับพอดีความหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทางประชาชนอยากจะทราบ

จากนั้น โยคีปอ ก็ได้พูดขึ้นอีกว่า อยากจะขอศึกษาพระธรรมจากพระอาจารย์และในส่วนเรื่องของทางกฎหมายเมื่อใดที่ตำรวจแถลงปิดคดี ทั้งผมและทุกๆ คนที่อยู่บนเรือ จะได้ออกมาชี้แจงอีกมุม ขอให้พี่ๆ อยากให้ฟังทางผมด้วยผมขอเรียนแบบนี้นะครับว่าตั้งแต่เกิดเหตุมา เราได้ให้ข้อมูลจากรายการโหนกระแสว่าเกิดอะไรขึ้น

อีกหลายมุม อีกหลายมิติ อีกหลายคำถาม ที่เราไม่เคยตอบและอีก 20 คำถามที่เกิดขึ้น และไม่ได้เกิดขึ้นจากพวกเรา หลักฐานที่เกิดจากติ๊กต็อกก็ดี หลักฐานที่เกิดจากการประเมินก็ดี หลักฐานที่เกิดจากการคาดคะเนก็ดี ทำให้คนหนึ่งคนที่เราเดินทางมาทานอาหารกับเพื่อน แต่วันนี้ผมและโรเบิร์ตแล้วก็เพื่อนบนเรือเรากลับเป็นจำเลยของสังคม

 

"วันนี้ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 24 จนถึงปัจจุบันเรียนตรงๆ นะครับว่าเรามีความทุกข์มาก ผมมีครอบครัวผมมีธุรกิจ แต่วันนี้ชื่อเสียงของผมเสียหาย ชื่อเสียงครอบครัวผมเสียหาย แต่ไม่มีใครถามผมเลยว่าเรื่องจริงๆ ที่มันเกิดขึ้นคืออะไรบ้าง เพราะเราไม่มีสิทธิ์ได้พูด แล้วยังอยู่กับเจ้าหน้าที่ วันนี้ผมวอนครับ วันนี้เราตั้งใจมาปฏิบัติ ขอเวลาให้เราได้ปฏิบัติและเมื่อถึงเวลาที่ ข้อมูลตามหลักฐานทางนิติเวช ข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ ข้อมูลหลักฐานต่างๆที่ชาร์จ ผมจะออกมาอธิบายเองทั้งหมด ผมขอให้คำมั่นสัญญาตรงนี้ครับ" โยคีปอ อ้อนวอนขอ