- 22 มี.ค. 2565
เต้ มงคลกิตติ์ จับโป๊ะคำ "กระติก" เคยหลุด ตอกย้ำคลิปแตงโมลอยคอเป็นจริง เพราะกระติกเคยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2565 ว่า คิดว่าแตงโม ว่ายน้ำเข้าฝั่งเองแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 22 มีนาคม 2565 นายมงคลกิตติ์ พรรคไทยศรีวิไลย์ หรือ ส.ส.เต้ พระราม 7 นัดแถลงข่าว โดยอ้างว่า "จุดพบ แตงโม ก่อนเสียชีวิต ขณะลอยคอข้ามเจ้าพระยาเข้าฝั่ง ไร้คนช่วย ก่อนสิ้นใจ" พบโดย น.ส.ภคอร จันทรคณา (ชีวานันท์) รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์
โดยในการแถลงข่าวมีการเปิดคลิปวิดีโอความยาวประมาณ 25 นาที ที่ได้ขอจากทางเทศบาลบางกรวยมา โดยเป็นภาพบริเวณเขื่อนกั้นน้ำติดกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือกฟภ. โดยอ้างว่าเป็นช่วงเวลาที่แตงโมตกเรือ ช่วงเวลา 21.36 น. และอ้างว่าเห็นวัตถุสีดำที่คาดว่าจะเป็นแตงโมลอยคอผลุบๆ โผล่ มาตั้งแต่ช่วงกลางแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อจะเข้าฝั่งที่แถวเขื่อนกั้นน้ำ โดยในระหว่างนั้นได้มีเรือหาปลาอยู่บริเวณใกล้เคียง 1 ลำ และได้พายเข้าไปหาวัตถุสีดำดังกล่าว แต่ไม่มีการให้การช่วยเหลือหรือทำอะไร จากนั้นเรือหาปลาลำดังกล่าวได้พายเรือจากไป และวัตถุสีดำก็พยายามว่ายตามสวนกระแสน้ำเพื่อเข้าฝั่ง จนหายไปในที่สุด
เต้ มงคลกิตติ์ จับโป๊ะคำสัมภาษณ์กระติก ตอกย้ำคลิปแตงโมลอยคอเป็นจริง โดยบอกว่า เมื่อย้อนไปฟังคำสัมภาษณ์ของ กระติก ผู้จัดการแตงโม เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมาพบว่ากระติกเคยพูดไว้ว่า "คิดว่าแตงโมว่ายน้ำกลับขึ้นฝั่งเองแล้ว" ซึ่งนี่ยิ่งทำให้มั่นใจกับคลิปที่ตนนำมาเปิด
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่าในทางคนเรือตนยังไม่ทราบว่าได้เข้าให้ข้อมูลตำรวจหรือยัง พรุ่งนี้เวลา 08.00 น. ตนขออาสามัครกู้ภัย ที่สามารถดำน้ำได้ มาเจอกันที่ท่าเรือพิบูลสงคราม1 เพื่อดำน้ำเพื่อหาผ้าบางส่วนที่หายไป คือ กระโปรงสีขาว และอาวุธของมีคม ของแตงโมที่อาจถอดออกเนื่องจากว่ายน้ำไม่สะดวก พร้อมทั้งขอให้นายเอกพัน บรรลือฤทธิ์ หรือไทด์ มาช่วยในภาระกิจครั้งนี้ เพราะช่วยมาตั้งแต่ต้นแล้ว และจอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาเรือลำที่ 2 ให้เร็วที่สุด
ส่วนเวลาตกจากเรือนั้นคาดว่าน่าจะเวลา 21.35 นาที ซึ่งไม่รู้ว่าจะตกในลักษณะใด ทั้งนี้จะผิดกับคำให้การของคนบนเรือเวลา 22.34 น. ซึ่งห่างกันประมาณ 1 ชั่วโมง และคาดว่าจะเสียชีวิตน้ำตื้นที่ริมตลิ่งบริเวณเขื่อนกั้นน้ำติดกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.บางกรวย ตรงกับข้อสันนิฐานของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการนครบาล ที่ระบุว่า "แตงโมสิ้นใจ ในน้ำตื้น"
นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะมีการนำหลักใน ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย เป็นทนายที่ปรึกษาด้านกฏหมาย พรรคไทยศรีวิไลย์ เพื่อมอบให้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 ต่อไป และคาดว่าหลักฐานนี้จะสามารถเปลี่ยนทิศทางของคดี และสำนวนจองการสอบสวนทั้งหมดอาจจะทบทวนกันใหม่ และอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุปกติอาจจะมีอะไรซับซ้อนกว่านั้น พร้อมตั้งคำถามว่ามีการทะเลาะกันหรือไม่