- 25 มี.ค. 2565
แต๊งค์ พงศกร เปิดใจไม่กลัวถูกคนขู่เอาชีวิต ไม่อยากตายอย่ายุ่งกับคดีแตงโม นิดา พร้อมแฉ "กระติก" กลัวอะไรบางอย่าง ไม่ใช่คนเดิมที่รู้จัก
เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 65 รายการ เป็นเรื่องใหญ่ ทางช่อง JKN 18 ซึ่งดำเนินรายการโดย อั๋น ภูวนาท คุนผลิน ได้เชิญ แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ มาร่วมพูดคุยหลังจากที่ออกมาแฉว่ามีคนขู่ฆ่า ไม่อยากตายอย่ายุ่งกับคดีแตงโม นิดา
ตอนเห็นข่าวก็ตกใจนะ มีเงื่อนงำอะไรหนักหน่วงไปอีกหรือเปล่า แต๊งค์ตกใจมั้ยตอนมีการขู่ฆ่าเรา?
แต๊งค์ : มันมาในกล่องข้อความในโซเชียล คือในไอจี อินบ็อกเข้ามา มาในลักษณะหยาบคายมาก เริ่มจากการด่าผมก่อน ด่าสัตว์เลื้อยคลาน เป็นสัตว์สี่เท้าทั้งหลาย เขามาประมาณสองสามวันที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่ผมจะโพสต์เป็นประเด็น ก่อนหน้านี้มีส่งมีดมาขู่ แต่ไม่มีใครออกมาเคลมว่าเป็นฝีมือของใคร ส่งมีดมาที่บ้าน ใส่พัสดุ ก็เช็กไปทางต้นทางแล้ว ส่งให้ที่อยู่ที่บ้านตามบัตรประชาชนเลย เป็นมีด
มีดมาหลังจากมีประเด็นเรื่องแตงโมแล้ว?
แต๊งค์ : ใช่ครับ หลังจากออกมาให้ข้อมูล กดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ตร. แล้วก็พูดถึงไปกระทบกระทั่งคนบนเรือ เริ่มมีคนมาต่อว่าผมหยาบๆ คายๆ ในกล่องข้อความ ล่าสุดบอกว่าไม่อยากให้ยุ่งคดีคุณแตงโม ไม่อยากตายเหมือนหมาข้างถนน ประมาณนี้ เขาบอกว่าเขาจะมายิง ถ้าไม่อยากกินลูกปืน เขาบอกคำนี้เลย
ได้แจ้งหน่วยงานปอท.มั้ย?
แต๊งค์ : วันเดียวที่ผมลงโพสต์ไป ก็มีกระแสตอบรับคือคนมาให้กำลังใจเยอะมาก จนล่าสุดวันนี้ คนที่ถูกนำรูปมาใช้ ที่เป็นคนส่งเข้ามาขู่ผม เป็นรูปอื่นๆ หลากหลาย เป็นชื่ออื่น แต่เป็นชื่อโทนเดียวกันเป็นเสี่ยนั้นเสี่ยนี้ เป็นซุ้มมือปืน บรรดาคนเหล่านี้ติดต่อมาหาผมแล้ว และยืนยันด้วยความเคารพว่าเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เขาไม่ได้ส่งข้อความมาขู่ผม ฉะนั้นคนทำเรื่องนี้อยู่ เป็นตัวปลอม เป็นการแอบอ้าง ผมก็ต้องออกมาพูดตรงนี้ด้วย ให้ความเป็นธรรมกับเจ้าของรูป และเขาก็เป็นผู้เสียหาย เขาเข้ามาแล้วสงสาร เพราะคนเข้าไปด่าเขาเยอะมาก
เราตอบโต้เขามั้ย?
แต๊งค์ : ผมกวนเท้าเขามากกว่า เพราะเราไม่คิดว่าคนพวกนี้มาขู่เราแบบหวังผลอยู่แล้ว มองว่าเป็นเรื่องการปั่น สร้างกระแสมากกว่า
ไม่ได้คิดว่าเป็นคนที่มีความเกี่ยวพันกับคดีส่งมา?
แต๊งค์ : เอาเป็นว่าเราเปิดความคิดให้กว้างไว้ก่อนดีกว่า เราไม่ฟันธงอะไรทั้งนั้น ถึงจะเป็นการขู่จริงๆ หรือเกี่ยวข้องกับคนบนเรือจริง ๆ ผมก็บอกตรงนี้เลยว่าไม่กลัว และไม่คิดว่าเขาจะมาทำอะไรผมได้ด้วย แต่ว่าในความคิดที่เป็นไปได้มากกว่า น่าจะเป็นพวกนักเลงคีย์บอร์ดที่พยายามปั่นกระแส เพราะเห็นเป็นข่าวขึ้นมาแล้วสนุกเท่านั้นเอง ลองคิดดูนะถ้าเกิดคนเกี่ยวข้องคดีจริง เขาห่วงผมเข้าไปยุ่งกับคดีนี้ มีส่วนเข้าไปกดดัน ถ้าเขาจะเตือนผม เขาน่าจะโทรมาเตือนผมเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่านี้
ณ วันนี้เขาหายไปมั้ย?
แต๊งค์ : ผมมองว่าคนที่เป็นตัวปลอม ที่สร้างความเสียหายกับคนที่เขาไปขโมยรูปมา และสร้างความรำคาญให้ตัวผมด้วย ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะรวบรวมหลักฐานหาผู้เชี่ยวชาญเก็บไอพีแอดเดรสเพื่อสืบสาวต้นตอ และอยากดำเนินคดีกับคนนี้ เพราะป่วนมาก
ด่าลูกด่าภรรยาด้วย?
แต๊งค์ : ใช่ อันนี้โกรธมาก ผมโพสต์สตอรี่ลูกชาย เขาก็ไปแคปรูปสตอรี่มา แล้วส่งมาพูดหยาบคาย ด่าลูกชายผม โกรธมาก
คุณเคยเป็นคนสนิทกับคุณแตงโม ช่วงเวลานึงยาวนานพอสมควร รู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดี กับทั้งแตงโม และกระติก ถือว่าสนิทมั้ยกับกระติก?
แต๊งค์ : ย้อนไปประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ปี 52-53 ผมคบคุณแตงโม ช่วงนั้นได้ไปเจอ รู้จักคุณกระติกตั้งแต่ ตอนนั้นเขาอยู่ด้วยกัน ในคอนโดเดียวกัน เป็นรูมเมทกัน ผมก็สนิทมักคุ้น รู้ตื้นลึกหนาบางเรื่องนิสัยใจคอเป็นอย่างดี ฉะนั้นเรื่องคดีหลังเกิดเหตุ ผมก็แยกเป็นประเด็นว่าอะไรบ้างที่ผมโกรธคุณกระติก อะไรบ้างที่ผมเชื่อ และอะไรบ้างที่ผมไม่เชื่อ
กระติกในมุมมองแต๊งค์เป็นยังไง?
แต๊งค์ : เราต้องแบ่งเป็นประเด็นก่อน เรื่องที่ผมโกรธ น่าจะเป็นเรื่องตั้งแต่คืนแรก ที่คุณแตงโมตกไปแล้ว เขาไม่ควรทิ้ง ทำไมไม่อยู่ช่วย ไม่อยู่ให้ข้อมูล หรือดึงจิกคนบนเรือให้อยู่ตรงนั้น คอยให้ข้อมูล คอยช่วยกัน ทำไมหลบกันไปเตี๊ยมเรื่องราว หลบไปอยู่ที่อื่น หนีหน้านักข่าว กันคนอื่นๆ ไม่ให้นักข่าวเข้ามาทำข่าว ทีนี้มาในส่วนบางเรื่องที่สังคมมองเขาผิดไป เช่น คนมองว่าพยายามฆาตกรรมหรือเปล่า เพราะมีการหลอกไปรับงานเอ็นมั้ย อันนี้ผมเชื่อมั่นกระติก จากที่รู้จักกันมานาน กระติกไม่ทำร้ายแตงโมแบบนี้แน่นอน
เขาเป็นเพื่อนที่รักกันมั้ย?
แต๊งค์ : ตัวกระติกเองเป็นเพื่อนที่รักแตงโม เขารักแตงโม ก่อนเกิดเหตุเขารักกันแน่นอน เขาไม่ทำร้ายแตงโมแน่ ก่อนเกิดเหตุนะ แต่หลังเกิดเหตุ เขาเปลี่ยนไปเพราะอะไร ผมก็ไม่รู้
หลังเกิดเหตุ รู้สึกว่าเขาเป็นคนละคนกับที่เรารู้จักเหรอ?
แต๊งค์ : ใช่ มันเกิดเหตุขึ้นแล้ว ด้วยความที่เขากลัวอะไรบางอย่าง ทำให้เขาไม่พูดความจริงทั้งหมด อันนี้ผมมั่นใจ
ได้คุยกับเขามั้ยหลังเกิดเหตุ?
แต๊งค์ : ได้คุย แต่เป็นวันแรกที่คุณแตงโมตกเรือ ยังไม่พบร่าง หลังจากนั้นไม่คุยอีกเลย เพราะเรารู้แล้วว่าเขาไม่พูดความจริงแน่ กับเรารอบแรกผมได้ฟังก่อนสื่อทุกสื่อ ได้ฟังก่อนคนทุกคน เขาก็พูดกับผมว่าคุณแตงโมไปทำธุระ ไปฉี่ท้ายเรือ ตกไป ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าตกตอนไหน อะไรยังไง แบบนี้ ต่อมาเขาก็พูดกับสื่อแบบนี้ เขาพูดกับนักข่าวทุกคนแบบนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นต้องพูดกับคนๆ นี้แล้ว
เรามีคาใจหรือโกรธใครบนเรืออีกมั้ย?
แต๊งค์ : ผมโกรธทุกคน เพราะเพื่อนผมเสียชีวิต การที่ไปนั่งเรือกับพวกคุณ ทำไมช่วยไม่ได้ ทำไมช่วยไม่เป็น ทำไมไม่มีความสามารถ ทำไมเมา ทำไมไม่มีความรับผิดชอบ ตกไปแล้วช่วยไม่ได้ไม่พอ ยังหลบหนี หลบหลีก ไม่ให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ ทำไมถึงกลับบ้านกัน ทำไมถอยไปตั้งหลักพูดคุยกันที่ปั้มน้ำมัน มันควรอยู่ที่ท่าเรือยันเช้า ยันวันที่ 2 จนพบร่างก็ควรอยู่ตรงนั้น
คุณเชื่อมั้ยแตงโมเดินไปฉี่จริงๆ ?
แต๊งค์ : ไม่เชื่อ
คิดว่าเป็นฆาตกรรมมั้ย?
แต๊งค์ : ส่วนตัวผมไม่คิด แต่ถ้ามีใครไปสืบสาวมาแล้วเป็นฆาตกรรมได้ ผมก็ไม่คัดค้านเลย แล้วแต่ข้อเท็จจริงเลย แต่โดยส่วนตัว ผมไม่คิดว่ากระติกจะมีการล่อลวงไปให้เกิดการฆาตกรรมเกิดขึ้น หรือไปรับงานเอ็น สองคุณแตงโมเป็นคนเอาตัวรอดเป็น นางเป็นคนฉลาด ไม่พาตัวเองไปอยู่จุดอับ ที่คนอื่นฆ่าได้แน่นอน นางฉลาด
ในใจเราคิดว่าเป็นอุบัติเหตุเหมือนกัน?
แต๊งค์ : เป็นอุบัติเหตุแบบมีเงื่อนงำ แบบที่พี่หนุ่ม กรรชัย หรือคุณทนายพูดถึงกัน เขาเสียชีวิตเพราะจมน้ำจริง แต่พฤติการณ์ที่เกิดก่อนตกน้ำคืออะไร อันนี้ตร.ต้องไปทำหน้าที่และตอบประชาชนให้ได้ เพราะหนึ่งการเดินไปฉี่เป็นแค่คำพูดของพยานอย่างเดียว คุณต้องไปเก็บหลักฐานที่เป็นวัตถุมาให้ได้ คราบปัสสาวะอะไรก็แล้วแต่ ต้องยืนยันให้ได้ว่าไปฉี่จริงๆ ไม่งั้นก็เป็นคำพูดลอย ๆ แล้วกฎหมายไทยก็ยกประโยชน์ให้ผู้ต้องหา เขาก็หลุดคดีไปอีก เขาก็ปลอดภัยไปอีก
การที่เราออกมาวิพากษ์วิจารณ์คุณแม่ ก็แรงพอสมควร มีโอกาสได้คุยกับคุณแม่หลังเกิดเหตุการณ์มั้ย?
แต๊งค์ : ผมได้คุยกับคุณแม่ก่อนออกตัวแรงใส่คุณแม่ ผมได้คุยกับคุณแม่แล้ว พยายามให้คำแนะนำ ซึ่งคุณแม่ก็ไม่ค่อยเปิดรับคำแนะนำเท่าไหร่ เราเคยเจอกับคุณแม่ ไม่ได้สนิทนะ แต่คุณแม่เองเหมือนมีธงอยู่ในใจแล้วว่าคุณแม่จะไปทางไหน มีธงอยู่แล้วว่าจะเชื่อใคร จะฟังใคร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ใครจัดการ เขาไม่รับความคิดเห็นคนอื่นเลยในช่วงแรกๆ ผมแนะนำคุณแม่ตั้งแต่แรกแล้ว ขอโทษนะครับ ไม่ได้กล่าวหาการทำงานของตร.ชุดนี้ แต่เพื่อความเป็นอิสระในการสืบสวนคดี ควรจะโอนคดีไปให้หน่วยอื่นทำ เช่น กองปราบ ปัจจุบันก็มีคนพยายามโอนไปให้ดีเอสไอ แต่คุณแม่ตั้งธงไว้แล้วหรือเปล่าว่าจะให้ตร.ชุดนี้ทำ เพราะอะไร ต้องตอบให้ได้
ในที่สุด ณ ตอนนี้ถือว่าเรากับคุณแม่โกรธกันมั้ย?
แต๊งค์ : ผมก็ไม่ได้คุยกับคุณแม่ ไม่ได้ไปขอโทษอะไรที่เป็นข่าวขึ้นมา แล้วทำให้สังคมไปโจมตีคุณแม่ ผมคิดว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งที่คุณแม่ต้องเจออยู่แล้ว ผมออกตัวก่อนผมไม่ได้อยากเป็นศัตรู โจมตีคุณแม่ ไม่ได้หมั่นไส้ในเรื่องการที่จะมีคนไปพูดเรื่องคุณแม่จะรับเงิน 30 ล้านหรืออะไร คุณแม่จะฟ้องผม ผมพูดวิพากษ์วิจารณ์ตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
คุณแม่พูดเหรอว่าจะฟ้อง?
แต๊งค์ : ไม่ใช่ คุณแม่บอกว่าจะฟ้องคนว่าคุณแม่หิวเงิน แต่ผมไม่ได้พูดว่าคุณแม่หิวเงิน ผมจะบอกว่าผมออกมาปกป้องความเป็นธรรมให้กับคุณพ่อโสและน้องแตงโมเท่านั้น คุณแม่จะพูดหรือทำอะไรก็ได้ แต่อย่าพาดพิง พูดให้คุณพ่อโสเสียหาย เพราะท่านก็เสียชีวิตไปแล้ว จากไปแล้ว ไม่มีสิทธิ์ออกมาพูด ผมเลยคิดว่าถ้าคุณแม่พูดถึงคนอื่นในแง่ไม่ดีได้ ผมเองก็เป็นคนที่มีข้อมูลผมรู้ว่าคุณแตงโมเคยพูดกับผมยังไงเกี่ยวกับคุณแม่
พูดว่าอะไร เอาเท่าที่พูดได้?
แต๊งค์ : ก็เรื่องความสนิทแล้วกัน คุณแตงโมไม่ได้สนิทกับคุณแม่ตลอด เหมือนที่คุณแม่เคยให้สัมภาษณ์สื่อ เอาแค่นี้พอ
อยากฝากอะไรที่เราค้างคาใจกับสังคม?
แต๊งค์ : ตั้งข้อสงสัย หนึ่งตร. การทำงานของเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน อยากให้กลับมาแก้ไข ตอนนี้ต้องยอมรับแล้วว่ามันมีช่องโหว่ คุณทำให้การเก็บหลักฐานต่างๆ มีช่องโหว่ ปล่อยเรือกลับไป ปล่อยคนกลับบ้าน ไม่เก็บหลักฐานเรื่องสารเสพติด ตร.ต้องแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองบกพร่องไป และปิดคดีให้รัดกุมที่สุด เพื่อมีการส่งฟ้อง ผมอยากเห็นคดีนี้ให้ผู้ต้องหาอย่างน้อยต้องรับโทษก่อน ต้องมีคนติดคุกก่อน ไม่งั้นคดีนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของคดีอื่น ๆ ในอนาคต ซึ่งตร.ต้องรับกรรมแน่นอน เพราะถ้าคดีอื่น ขับรถเข้าด่าน ขับรถชนคน ผมไม่สะดวกตรวจแอลกอฮอล์ ขอกลับบ้าน
เรื่องคนบนเรือทำธุรกิจสีเทาอะไรสักอย่าง?
แต๊งค์ : เรื่องคอนเน็คชั่นเป็นสิ่งสำคัญ บางทีเป็นข้อสงสัยของสังคม เพราะกลุ่มคนพวกนี้เป็นกลุ่มคนมีเงิน และการกระทำของเขา คนที่ได้เงินมาโดยมิชอบ ก็มักมีการกระทำที่ดูแล้วไม่โปร่งใส เราอยากให้มีหน่วยงานที่ตรวจสอบได้ ลองไปตรวจสอบดูได้มั้ยว่าเส้นทางการเงินของเขา มีเงินมาจากไหน มีคอนเน็คชั่นมาจากไหน ธุรกิจเรื่องรถยนต์ของเขา วงการรถยนต์มันแคบนะ ลองไปตรวจดู แล้วเราจะได้ความโปร่งใสและเราก็จะเข้าใจมากขึ้น
ขอบคุณรายการ : เป็นเรื่องใหญ่