- 30 มี.ค. 2565
ทนายเกิดผล แก้วเกิด งง แม๊แตงโม พูดถึงคลิปเดียวมีเสียง เดียวไม่มีเสียงมีแต่ภาพเคลื่อนไหวยังไงกันแน่ ซึ่งเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ก็งง
วันที่ 29 มี.ค. 65 ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ออกมากล่าวถึงประเด็นเรื่องหลักฐานคลิปกล้องหน้ารถโดยมีเนื้อหารายละเอียดว่า... ตนฟังแล้วก็สับสนตอนแรกแม่บอกได้ฟังเสียงจนรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว แต่ภายหลังบอกไม่มีเสียง มีแต่ภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ก็งง ซึ่งถ้าหลักฐานนั้นมีการพูดคุยถึงเหตุการณ์ตอนแตงโมตกเรือ ก็พอมีน้ำหนักในการนำมาประกอบคดี แต่ถ้าคลิปไม่มีเสียง หรือมีการพูดคุยเรื่องอื่น และไม่ได้เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับคดีความพนักงานสอบสวนก็คงไม่หยิบมาเป็นประเด็น
ส่วนเรื่องที่ดีเอสไอได้รับเรื่องไปดูแลเป็นคดีพิเศษ ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากเป็นการช่วยกันตรวจสอบ ซึ่งทางดีเอสไออาจจะมีหลักฐานชิ้นสำคัญมากกว่าหรืออาจจะยังไม่มีหลักฐานอะไรเลยก็เป็นไปได้หมด ขึ้นอยู่กับว่าจะยังหลงเหลือพยานหลักฐานอะไรเพิ่มได้บ้าง จะทำให้สังคมมองเห็นถึงความยุติธรรม และสร้างความมั่นในในความโปร่งใสในการทำงานของเจ้าหน้าที่มากขึ้น
ประเด็นเรื่องจดหมายที่คุณแม่ภนิดาอ้างว่าไม่ทราบว่าทนายกฤษณะเขียนอะไรมา หรือจะเป็นการสอดไส้หรือไม่นั้น ตนไม่เชื่อว่าคุณแม่จะไม่รู้เรื่อง แม้จะไม่ได้อ่านข้อความก็ตาม แต่คุณแม่อย่าลืมว่า เป็นคนไปร้องให้ตรวจสอบด้วยตัวเอง และการที่จะมีเอกสารอะไรมาให้เซ็นนั้น มองว่าคุณแม่ไม่ใช่คนโง่ คุณแม่เป็นคนฉลาด เชื่อว่าทนายกฤษณะคงไม่ได้เอากระดาษมาปิดตัวหนังสือแล้วให้คุณแม่เซ็นอย่างเดียว "ต่อให้แม่อมพระทั้งโบสถ์มาก็ไม่เชื่อ"
ส่วนเรื่องผู้การแต้มออกมาเตือนทนายคนอื่นว่าห้ามไปยุ่งกับคดีความนั้น ตนมองว่าไม่เหมาะสม เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ทนาย แต่หมายถึงประชาชนทุกคนสามารถวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นได้ ถ้าไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน หรือหลุดออกไปจากข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบไม่ได้ ซึ่งก็ยังไม่เห็นมีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสำนวนทางคดี
ประเด็นเรื่องคุณหมอพรทิพย์ มีการโพสต์ข้อความถึงสาเหตุการถูกถอดถอนนั้น ตนเห็นด้วยกับหมอพรทิพย์ แน่นอนอยู่แล้วในเมื่อคุณแม่มั่นใจในกระบวนการของตำรวจ ซึ่งคงคิดว่าเรื่องนี้น่าจะจบแล้ว พอจะมีหน่วยงานอื่น ๆ ที่จะเข้ามาตรวจสอบแล้วทำให้การทำงานของตำรวจยากขึ้น วุ่นวายขึ้น ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องอยู่แล้วที่แม่จะถอดถอนออก เพราะสุดท้ายแม่ก็มาหลุดพูดเองว่าถูกตำรวจเอ็ดมา ก็ชัดเจนว่าคุณแม่เชื่อฟังตำรวจ
ส่วนเรื่องกระเป๋าของคุณแตงโม ที่กระติกมีการถือกลับไปเก็บที่บ้านแตงโม พร้อมกับคุณโบ TK มองว่าสมเหตุที่จะตั้งข้อสงสัยว่ากระเป๋าใบนั้นอยู่ไหน มีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง เหตุใดถึงไม่ยอมเอาไปคืนญาติ หรือมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่หลังเกิดเหตุ