- 31 มี.ค. 2565
"หมอพรทิพย์" เปิดใจสู้มะเร็ง 3 ที่ ลุยคดีต่อ แตงโมคือผู้เสียหายตัวจริงไม่ใช่ญาติ ต้องทำให้ได้รับความยุติธรรม
วันที่ 31 มีนาคม 2565 ในรายการ "โต๊ะหนูแหม่ม" ทางช่องเวิร์คพอยท์ ได้เชิญหมอพรทิพย์ เปิดใจ สู้มะเร็ง 3 ที่ คดีแตงโมลุยต่อ เขาพูดไม่ได้เราต้องทำแทน พร้อมถามวิธีรับมือและวิธีคิดบวก
โดยแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ เปิดใจเล่าวิธีคิดและยังเปิดใจเล่าถึงการเป็นโรคมะเร็งที่ตรวจเจอตั้งแต่อายุ 40 ซึ่งตอนนั้นเป็นถึง 2 ที่ และล่าสุดเมื่อ 3 เดือนก่อน หมอพรทิพย์ เป็นมะเร็งผิวหนัง เพิ่มอีก
หนูแหม่ม : "เป้าหมายในชีวิตของหมอที่ช่วยคดีคืออะไร?"
หมอพรทิพย์ : "คือต้องบอกว่าตอนคดีดัง คดีเจนจิราที่เป็นที่พลิกชีวิตเราจนดังมาก เราก็รู้สึกว่าสงสัยเจนจิราเป็นตัวแทนของคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องการให้เราสร้าง 2 เรื่อง เรื่องแรกก็คือระบบนิติวิทยาศาสตร์ กับสองศูนย์พิสูจน์ศพนิรนามและมันก็มาเรื่อยๆที่ละนิด ที่ละนิด แต่ว่าบ้างครั้งมันก็มีอุปสรรค แต่เราก็เชื่อว่าเดี๋ยวเขาก็พาเราไปเองประมาณนี้ แต่จู่ๆก็มีรัฐธรรมมนูญ ที่ออกมาแล้วเขียนเลยว่า รัฐบาลต้องสนับสนุนให้มีนิติวิทยาศาสตร์มากกว่าหนึ่งหน่วย รวมทั้งคดีแตงโมเนี้ย ตอนแรกเราก็มองเชิงระบบ เพราะเราบอกแล้วเรื่องรวบรวบหลักฐานซึ่งเป็นนิติวิทยาศาสตร์ มันจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้ได้ ปรากฏมาวันนี้ เชื่อว่าสุดท้าย คดีนี้จะดึงความเปลี่ยนแปลง นั้นคือความฝัน"
หนูแหม่ม : "คิดว่ามันจะจบแบบไหนในมือคุณหญิงหมอพรทิพย์ ตอนนี้?"
หมอพรทิพย์ : "ตัวเนื้อเดียวๆจบไปแล้วค่ะ เพราะว่าคุณแม่เขาร้อง จริงๆเราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วแหละ แต่ว่าในภาพใหญ่ กรรมมาธิการคงจะตามไม่ว่าจะจบยังไง แต่ว่าใหญ่กว่านั้นเลยก็คงจะเป็นระบบ"
หนูแหม่ม : "ในเมื่อฝ่ายเสียหายเขาไม่ต้องการความยุติธรรม เราเป็นคนนอกมันสุดเอื้อมมือเราแล้ว?"
หมอพรทิพย์ : "ไม่ค่ะ น้องแตงโมต่างหากคือผู้เสียหายค่ะ ไม่ใช่ญาติค่ะ เราทำให้กับคนที่ขอไม่ได้ เขาพูดไม่ได้ แต่หน้าที่ของเราคือทำแทนเขา ตราบใดที่เขายังไม่ได้ความเป็นธรรม เราก็จะทำให้เขา จนกว่าจะได้รับความยุติธรรม"
หมอพรทิพย์เปิดใจเล่าเรื่องการเอาชนะความคิดความกลัว เอาชนะมาร เคล็ดลับวิธีคิดบวกในการใช้ชีวิต เล่าว่ามีมะเร็งคอยช่วยเตือนสติ
หนูแหม่ม : "แฟนๆที่ติดตามบอกว่าไม่อยากให้คุณหมอเครียดเป็นกำลังใจให้?"
หมอพรทิพย์ : "อันนี้ต้องบอกว่าขอบคุณ เป็นอะไรที่ขอบคุณ เผอิญเป็นมะเร็งตั้งแต่อายุ 40 เป็น2มะเร็ง และเราก็อยู่ที่วิธีคิดค่ะ ทำไมเราต้องเป็นมะเร็งเราจะตายแล้วหรอ คือทุกอย่างมันจะมีเหตุผลใช่มั้ย ปรากฏว่าเป็นมะเร็งในชนิดที่ว่าเริ่มต้น เราก็เลยมองว่าแสดงว่า ข้างหน้าชีวิตต้องหนัก มันก็ต้องใช้ตัวนี้เป็นตัวจัดการความเครียด แล้วพอต่อมาตอนปี 46 ได้รับความพระมหากรุณาธิคุณเป็นคุณหญิง มันดีใจแปบเดียวค่ะ คิดอีกแล้วค่ะว่าทำไมต้องได้รับ แสดงว่าข้างหน้าจะหนักกว่านี้แน่นอนเลย เพราะฉะนั้นเราต้องเจออะไรกับศึกหนักๆ จะทำอะไรให้เราแน่วแน่ก็คือพระมหากรุณาธิคุณอันนี้กับมะเร็งมันจะช่วยเรา เราต้องก้าวไป และมะเร็งจะเตือนเราว่าอะไรที่เราหนักๆเอาไปทิ้งอย่าเอามาโกยไว้ประมาณนั้น ก็เลยปล่อยว่างได้มากขึ้น"
หนูแหม่ม : "ตอนนี้อาการมะเร็งทั้ง 2 อันเป็นยังไงบ้าง?"
หมอพรทิพย์ : "ไม่มาแล้วค่ะ จบไปแล้ว แต่มีมาใหม่อีกเมื่อสามเดือนที่แล้ว เป็นมะเร็งผิวหนัง เห็นไหมเป็นตั้งสามอัน แล้วก็ดูซิ ไอ้มะเร็งตัวนี้เป็นตรงแก้มจมูก เพราะว่าเราโดนแดด แต่ก็ดีอีกค่ะ ที่เอาออกแล้วก็หาย เป็นสามอย่างเลยเห็นมั้ย ส่วนตัวจิตปรารถนาเราคือไม่อยากกลับมาเกิดหลายภพ มารก็ต้องใหญ่ๆ มารมะเร็ง มารสุขภาพ มารตัวเบ้อเร่อ"
ชมคลิปรายการ โต๊ะหนูแหม่ม
ขอบคุณ รายการ โต๊ะหนูแหม่ม