"วิวัฒน์"ว่าที่ทนาย"กระติก"เปิดใจครั้งแรก ซัดยับสะเทือนถึงอีก 4  คนบนเรือ

"วิวัฒน์ สมบัติหลาย "ว่าที่ทนาย"กระติก"เปิดใจครั้งแรก ซัดยับสะเทือนถึงอีก 4 คนบนเรือสปีทโบ๊ท งานนี้มีหนาวตามๆกันลั่นชัดไม่ได้หิวแสง

เมื่อไม่นานนี้ "นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย"ว่าที่ทนายความของ "กระติก"ผู้จัดการแตงโม นิดา หรือ น.ส.อิจศรินทร์  จุฑาสุขสวัสดิ์" ได้ออกมาเปิดใจในหลายประเด็นกับคดีของ"คดีแตงโม" ในรายการเป็นเรื่องใหญ่  ทั้งนี้ยังกล่าวถึงเพื่อนที่ทำให้กระติกเสื่อมเสียชื่อเสียงคนเข้าใจผิดว่า สมควรรอรับหมายศาล

ทางฝั่งพี่วิวัฒน์กับที่น้องกระติกออกมารับสารภาพจะทำให้น้องกระติกมีปัญหามากขึ้นมั้ยครับ?

วิวัฒน์ : ไม่มีปัญหาครับ ตอนนี้น้องกระติกสบายใจที่สุดครับ แต่ว่ายังไม่พร้อมที่จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพราะคุณพ่อเขาขอไว้ว่าให้คดีให้การเท็จมันมีคำพิพากษาก่อน กรณีของน้องกระติกที่มาพบคุณสิระ
มันสืบเนื่องจากคดีของน้องแตงโมไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ตำรวจชื่อดังที่เข้ามาเกี่ยวข้อง

ทางพ่อของน้องกระติกเกรงว่าลูกสาวของตัวเองจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงติดต่อไปที่คุณสิระ เพราะเขาเห็นว่าคุณสิระได้ช่วยเหลือในกรณีของคนหาปลา เลยเป็นที่มาในการพาน้องกระติกมาพบคุณสิระ น้องกระติกก็เกรงว่าเขาจะไม่ได้รับความปลอดภัยเพราะเขาตกเป็นจำเลยของสังคมตั้งแต่เกิดเรื่อง ก็ไม่มีที่พึ่ง

ทางคุณสิระก็ยินดีที่จะช่วยเหลือแล้วเข้าไปสู่กระบวนการยุติธรรม ก่อนที่จะไปก็ต้องพูดความจริงก่อน แล้วพาไปรับทราบข้อกล่าวหาในกรณีที่พนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหาเรื่องให้การเท็จเรื่องการดื่มกินบนเรือจำนวนเครื่องดื่มมันไม่ตรงกัน

 

\"วิวัฒน์\"ว่าที่ทนาย\"กระติก\"เปิดใจครั้งแรก ซัดยับสะเทือนถึงอีก 4  คนบนเรือ
 

ตอนนี้น้องกระติกถูกแจ้งข้อกล่าวหาแล้วหรือยัง?
วิวัฒน์ : แจ้งแล้วครับ ก็ได้ถูกนำไปรับทราบข้อกล่าวหา และได้ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

แล้วทำไมตอนแรกต้องโกหก ?
วิวัฒน์ : ก็มีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นที่ปรึกษากฎหมายของคนทั้ง 5 คนนี่แหละก็ยังมีคนในกลุ่มนี้เกรงกลัวความผิด เขาเลยให้แต่งเรื่องให้เหมือนกัน แล้วได้มีการนัดผมกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ทองหล่อนัดพบกันช่วงสายๆ วันที่ 25 แล้วก็พาทั้ง 5 คนไปพบพนักงานสอบสวน เป็นจุดที่นำไปสู่การให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวน

เห็นว่าคนที่แนะนำชื่อคุณเอ็ม?
วิวัฒน์ : ก็ตอนนี้สาธารณชนได้ทราบกันหมดแล้วว่าชื่อเล่นชื่อเอ็ม ผมไม่สนใจข้อมูลของบุคคลคนนี้ครับ แต่ว่าผมสนใจว่าการที่คุณมาบิดข้อมูลให้ทั้ง 5 คน ผมว่าถ้ามองว่าเป็นนักกฎหมาย มันไม่มีกฎหมายข้อไหนที่ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนเรือหรอกครับ ผมแปลกใจว่าคุณมาบิดข้อเท็จจริงเพื่ออะไร จากที่ไม่ผิดก็ผิดกลายเป็นว่าคุณให้ปากคำเท็จต่อพนักงานสอบสวน แสดงว่าบนเรือต้องมีอะไรสักอย่างที่บุคคลบางคนใน 5 คนอยากปิดบังข้อเท็จจริงครับ

สังคมเทไปโทษกระติกเลยว่าเป็นผู้จัดการทำไมไม่ดูแล หลายคนเชื่อว่ากระติกต้องสารภาพเรื่องอื่นนอกจาแอลกอฮอล์อีก จริงหรือเปล่าครับ?
วิวัฒน์ : กระติกไม่มีอะไรนอกเหนือไปกว่านี้ครับ เพราะเขาอยู่ช่วงหน้าเรือเขาก็นั่งมองวิวหันหน้าออกหน้าเรือ แล้วตั้งแต่ 5 โมงเย็นจนถึง 4 ทุ่มครึ่ง ก็ได้ดื่มกันตลอดเวลา

มีคนบอกว่าแตงโมถูกลวนลามแล้วอาจกระโดดน้ำหนี มันเป็นไปได้มั้ยครับกับข้อกล่าวหานี้?
วิวัฒน์ : ตามที่ผมสอบข้อเท็จจริงน้องกระติกโดยมีพ่อเขาเป็นคนเค้นลูกสาว ผมว่าน้องกระติกไม่ได้โกหกคุณพ่อหรอกครับ เพราะตลอดระยะเวลาที่เกิดเหตุเขาจะมีการโทรปรึกษาคุณพ่อตลอดนะครับ

 

\"วิวัฒน์\"ว่าที่ทนาย\"กระติก\"เปิดใจครั้งแรก ซัดยับสะเทือนถึงอีก 4  คนบนเรือ

ตอนแรกสัมภาษณ์กระติกบอกว่าแตงโมเขาเดินไปฉี่เขาเดินผ่านตัวหนูไป แล้วตอนนี้มาบอกว่าหนูไม่เคยพูดนะ?
วิวัฒน์ : เขาคงมองว่าไปด้านหลังแต่ไปฉี่หรือไม่เขาไม่ทราบ เขาไม่ได้ยืนยันเรื่องไปฉี่ครับ

ถ้าต้องขึ้นศาลกระติกจะโดนอะไรบ้างครับ?
วิวัฒน์ : ณ ตอนนี้ที่ผมได้ข้อเท็จจริงจากน้องกระติก น้องคงโดนข้อหาเดียวเรื่องให้การเท็จแค่นั้นแหละครับ เพราะไม่ได้รู้เห็นในขณะที่น้องแตงโมพลัดตกเรือ  ส่วนคนอื่นๆ ก็ว่ากันตามข้อเท็จจริงของแต่ละคนครับ

หลายคนบอกว่าที่สารภาพเพื่อจะให้ตัวเองได้ถูกกันเป็นพยานเพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองได้รับโทษหรือเปล่า?
วิวัฒน์ : ในเบื้องต้นที่คุยกันทางคุณพ่อบอกว่า ผิดคือผิด ถูกคือถูก ถ้าผิดก็ไปยอมรับพ่อจะได้สบายใจ เลยนำไปสู่ สภ.เมืองเพื่อรับข้อกล่าวหาเรื่องให้การเท็จครับ”

ทำไมตอนนี้ถึงต้องรอแต่งตั้งเป็นทนายครับ?
วิวัฒน์ : ก็คือว่าถ้าการเป็นทนายของจำเลยต้องแต่งตั้งอย่างเป็นทางการครับ ต้องรอเป็นคดีขึ้นสู่ศาลก่อน ทีนี้เมื่อวานคิดว่าทางพนักงานอัยการจะพาไปฟ้อง ทางผมก็ทำใบแต่งไว้เรียบร้อยแล้ว

แต่ถ้าเราเป็นทนายตั้งแต่ตอนนี้มันจะไม่รัดกุมกว่าเหรอครับ?
วิวัฒน์ : ไม่ถือว่าเป็นทนายครับ มันต้องมีใบแต่งใช้ในศาลครับ

ทนายกฤษณะตอนแรกชีวิตดีๆ มาเป็นทนายให้คุณแม่โดนทัวร์ลง พี่มาเป็นทนายกระติกซึ่งทุกคนยังด่ากระติกแบบนี้ ไม่กลัวเหรอครับ?
วิวัฒน์ : ที่ก้าวเข้ามาตรงนี้ผมไม่ต้องการที่เป็นวลีที่พูดว่าหิวแสง เพราะผมมองว่ามันเป็นวิชาชีพของทนายความที่ต้องช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย มันเป็นขั้นตอนของกฎหมายที่เราต้องให้ความยุติธรรม
กับผู้ที่เข้ามาหาทนายความ เมื่อเราหาข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างนี้ ถ้าผิดก็ต้องพาไปรับสารภาพ

ไม่กลัวว่าจะถูกขุดแบบทนายกฤษณะเหรอครับ?
วิวัฒน์ : ถ้าเราตั้งมั่นในข้อเท็จจริงแล้วตั้งสติว่าเราทำเพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่คนที่มาหาเรา ผมไม่กลัวครับ

พูดถึงสิทธิ์ปกป้องตัวเองวันนี้ทนายเดชาบอกว่าจะฟ้องคนที่มาว่าแล้วทางฝั่งคุณพ่อเองก็ได้ข่าวมาว่ากระติกก็จะฟ้องใครบางคนที่เกาะกระแส?
วิวัฒน์ : ก็น้องกระติกก็ได้หารือทางคุณพ่อแล้วว่าในสถานการณ์ที่เขาได้รับข้อกล่าวหาในเรื่องให้การเท็จแล้วก็รับสารภาพแล้ว ถึงแม้ว่ายังไม่ถูกส่งฟ้องต่อศาลเขาก็สบายใจแล้วครับ ในกรณีการเสียชีวิตเขาโล่งแล้วส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นยังไงเขายินดีที่จะช่วยเหลือทางพนักงานสอบสวนให้มากที่สุด

แต่ก็ยังมีกลุ่มบุคคลที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงก็พยายามเอาเหตุการณ์ที่น้องตกเป็นจำเลยสังคมไปกล่าวให้ร้ายไปทำให้เขาถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ตรงนี้น้องกับคุณพ่อจะฟ้องครับ แต่กำลังดูว่าจะฟ้องใครบ้าง ยิ่งเป็นเพื่อนกันยิ่งสมควรจะโดนครับ เพราะความเป็นเพื่อนคุณคุยกันไม่ได้หรือไง ทำไมต้องไปทำให้สาธารณะชนคิดว่าน้องกระติกเป็นคนไม่ดี เพราะฉะนั้นสมควรรอรับหมายศาลครับ

ได้คุยกับ 4 คนบนเรือเพิ่มมั้ยครับ?
วิวัฒน์ : ไม่ได้คุยเลยครับ แต่น้องบอกว่าทางกลุ่ม 4 คนก็โทรหาเขาบ้างแต่ต้องบอกว่าใครจะสู้หรือปฏิเสธก็ทำไป แต่น้องสบายใจที่จะทำแบบนี้

แล้วมันจะมีผลทางคดีมั้ย เพราะแต่ละคนก็จะมีทนายของตัวเอง ถ้าพูดไม่เหมือนกันในชั้นศาลจะทำให้ยุ่งยากมั้ยครับ?
วิวัฒน์ : ถ้าพูดไม่เหมือนกันใครที่พูดเท็จก็รับผิดชอบตัวเองไปครับ เพราะสำนวนของพนักงานสืบสวนก็มีข้อเท็จจริงไว้แล้วครับ

ทำไมเราถึงเอาข้อมูลจากสำนวนมาพูดไม่ได้?
วิวัฒน์ : เราจะพูดแต่ในกรอบของน้องกระติก เราจะไม่ก้าวล่วงข้อเท็จจริงคนอื่น ถึงจะทราบบ้างแต่เราจะไม่แสดงตนว่าเรารู้ครับ

 

\"วิวัฒน์\"ว่าที่ทนาย\"กระติก\"เปิดใจครั้งแรก ซัดยับสะเทือนถึงอีก 4  คนบนเรือ