- 24 เม.ย. 2565
ต้องบอกว่าล่าสุด ทางด้านคุณแม่ “เจี๊ยบ กาญจนาพร” นั้นก็ได้เผยอาการล่าสุดลูกชาย “เจย์ ศุภกาญจน์” ก่อนเสียชีวิต คาบ้านพัก!
เรียกได้ว่าก่อนอื่นต้องขอเเสดงความเสียใจ เมื่อ “เจย์ ศุภกาญจน์” ลูกชายของนักเเสดงดังรุ่นใหญ่ “เจี๊ยบ กาญจนาพร” นอนเสียชีวิตคาบันได ภายในหมู่บ้านหรู ย่านพัฒนาการ โดยมีเชือกไนล่อนเส้นใหญ่พันรอบคอ เบื้องต้นทราบว่า “เจย์ ศุภกาญจน์” มีอาการป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ ต้องรับประทานยาอยู่เป็นประจำ
ในขณะที่เวลาต่อมา “เจี๊ยบ กาญจนาพร” นั้นก็ได้เคลื่อนไหวสุดเจ็บปวด หลังลูกชาย “เจย์ ศุภกาญจน์” เสียชีวิต! โดยระบุข้อความแรกว่า
“ขอโอกาสที่หน้านี้บอกความในใจ แม่รวบรวมสติ มากที่สุดที่แม่ควรทำ โทรกราบรายงานพ่อแม่ครูอาจารย์ขอเมตตาธรรมส่งดวงจิตเจย์ ลำดับขั้นตอนที่ต้องทำหลังเหตุมารับร่าง ภาวนาจิตนิ่งสงบตามคำสอนให้ตลอดเส้นทางการไปวัด แม่เป็นผู้เดียวที่ต้องปฏิบัติจิตให้ลูกชายแม่ บุญภาวนาของแม่จะช่วยชี้แนะดวงจิตลูกว่ามีโทษอันสาหัสของการลาจากเช่นนี้ บุญของแม่จะฉุดกระชากดวงจิตลูกชายนะครับเจย์
แม่ยังได้อิ่มใจ ที่ได้เห็นเจย์ตั้งใจขอขมาพระอัฐิธาตุ กราบพระพุทธอาคม บรรจงปิดทองพระทุกๆองค์ ที่วัดหนองเสือยางประสาท เจย์ขอให้แม่นำสวดขมาพระรัตนตรัยหน้าหิ้งพระกันในเรือนที่บ้านโป่ง ก่อนที่เจย์จะเข้าปฏิบัติธรรมภาวนา ที่วัดสติปัฏฐานญาณสัมปันโน ได้ 7 วัน ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา
แม่หวังว่า บุญสุดท้ายที่ลูกเก็บ จะพอส่งพลังแสงสว่างนำทางเบื้องต้นให้เจย์ได้ จากนี้เป็นแม่ล่ะที่มีร่างอยู่มีสติ แม่จะทำ ดั่งที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์สอน นำส่งให้เจย์ เดินทางให้ดีมีพระรัตนตรัยนำทางนะลูกแม่ และขอขอบพระคุณ ขอบคุณทุกๆบุญที่ทุกๆท่านตั้งจิตส่งให้เจย์ไว้ณที่นี้ด้วยค่ะกราบใจค่ะ”
ต้องบอกว่าล่าสุด ทางด้านคุณแม่ “เจี๊ยบ กาญจนาพร” นั้นก็ได้เผยอาการล่าสุดลูกชาย “เจย์ ศุภกาญจน์” ก่อนเสียชีวิต คาบ้านพัก! โดยเธอนั้นได้เดินทางมารับร่างลูกชาย ซึ่งอยู่ในอาการโศกเศร้าร้องไห้ตลอดเเละได้กล่าวว่า
“ก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีสัญญาณมาก่อนว่าเจย์จะก่อเหตุ แต่โดยอาการของโรคนี้ มันสามารถเกิดความคิดขึ้นได้แค่ชั่ววินาทีเดียว แต่ที่สังเกตได้คือ ช่วงล่าสุดเจย์มีความผิดปกติคือมีอาการนิ่งกว่าเดิม และรักสันโดษ ไม่อยากอยู่กับใคร นอกจากแม่คนเดียว ด้วยความที่เจย์เคยเป็นคนร่าเริง พอวันหนึ่งไปเจอผู้คนแล้วรู้สึกไม่เหมือนเดิม รู้สึกเหงาหงอย จึงไม่อยากเจอใคร
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างกะทันหันสำหรับครอบครัว แต่ยอมรับว่าด้วยอาการของโรค ทุกคนจึงมีคิดกันไว้บ้างแล้ว ก็ได้แต่พยายามดูแลประคับประคองกันให้ดีที่สุด แม้ 4 คน แม่-ลูก จะรู้ดีว่าโรคนี้มันยากที่จะรับมือ และไม่เคยมีใครเตรียมใจมาก่อนว่าบ้านเราจะเจอการสูญเสียจากโรคนี้”
ขอบคุณเพจ : สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว