- 26 เม.ย. 2565
ออย ธนา ยืนยันสถานะโสดเลิกภรรยา เธอ รวรีย์ แยกกันอยู่มาครึ่งปี ลั่นเจ็บจนจุกกว่าจะตั้งหลักได้หลายเดือน มีคนกลางช่วยไกล่เกลี่ย
ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่านักแสดงหนุ่ม ออย ธนา และภรรยาสาว เธอ รวรีย์ เหมือนชีวิตคู่มีปัญหา หลังจากที่ทั้งคู่โพสต์ข้อความเศร้าลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวบ่อยๆเกี่ยวกับความรัก ซึ่งล่าสุด ออย ธนา ได้ออกมายอมรับเรื่องดังกล่าวผ่าน รายการแฉ พร้อมยอมรับว่าสถานะตอนนี้โสดมาเกือบครึ่งปีแล้ว ช่วงแรกที่ชวนมาออกรายการยอมรับว่ายังมาไม่ไหว ไม่รู้จะพูดอะไร กลัวพูดไปแล้วจุก
โดย ออย ธนา ยอมรับว่าสถานะตอนนี้โสด ก็มีหน้าที่ของการดูลูก หน้าที่ของการเป็นพ่อและแม่ช่วยกันดูลูก ก็เกือบครึ่งปีเเล้ว ช่วงแรกๆที่ชวนมายอมรับว่ายังมาไม่ไหว ไม่รู้จะพูดอะไร กลัวพูดไปแล้วจุก คือพอเราตั้งเป้า โกลด์สุดท้ายของมนุษย์พ่ออย่างเรา ครอบครัวเราอยากสร้างให้มันดีที่สุด แล้ววันนึงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นมันหายไป มันไม่รู้จะทำอะไรเลย พี่ดุ๊ก (ภาณุเดช) ไลน์มาถามเป็นไงบ้าง คุยกันนะ ผมไม่รู้จะทำอะไรเลยพี่ แบลงก์ไปหมด ถ้าทำงานยังมีอะไรให้คิด
แต่เมื่อไหร่ที่อยู่คนเดียว มันก็คิดวนไปวนมาว่า หลายๆอย่าง เพราะอะไร ทำไม มันไปเรื่อย ในช่วงแรกๆนะ ซึ่งเรื่องมันเกิดจากที่โพสต์ไอจีเศร้า มันก็คงเป็นแบบฟุ้งซ่าน ไม่รู้จะทำอะไร หาทางออก ทางนู้นทางนี้ ซึ่งเราก็มีหาเพื่อนคุย โพสต์เขียน ต้องการกำลังใจดีๆจากคนอื่น พออ่านก็ช่วยได้เยอะ
ตอนนี้เราก็ช่วยกันทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เรายอมรับว่ามันอาจจะไม่สมบูรณ์มาก แต่เรายังเป็นพ่อ 100 เปอร์เซนต์ เขาเป็นแม่ 100 เปอร์เซนต์ เราช่วยกันทำส่วนตรงนี้ให้ลูกเขารู้สึกว่าเขาไม่ได้ขาดอะไร ตอนที่ผมระบาย หลายๆ คนก็คงจะเดาว่าเป็นอะไร ทำไมเขียนอะไรที่ไม่ควรเขียน ผมก็เหมือนกับขอโทษด้วยแบบว่ามันมีบางสิ่งเข้าไปกระทบบางคนที่เขารู้สึกว่ามันก็เสียหาย ผมเองแหละที่เป็นคนเวิ่นเว้อไปเอง
แล้วพยายามจะบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น เกิดปัญหาอะไรขึ้น มันก็เหมือนทุกคู่ ที่มีปัญหากันบ้าง แต่มันก็คงจะแบบมาถึงจุดหนึ่งที่มันคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว เราทำยังไงกันดี จะเดินหน้าต่อไปยังไงให้ดีที่สุด ตอน 3 เดือนนั้นที่เจอ มันเป็นช่วงละครใกล้จบ แล้วมันก็ว่าง บวกกับที่ไม่ได้ไปไหน ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ได้เจอใคร เก็บตัวอยู่บ้าน
ออย ธนา ยังระบุอีกว่า การได้อยู่กับตัวเองตลอดเวลา มันก็มีทั้งข้อดีและไม่ดี ข้อดีเราได้มีเวลาคิดและทบทวน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และควรทำอะไร แต่ข้อไม่ดีมันจะวนเวียนอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ บวกกลับว่าเรายังอยู่ที่เดิม ทุกคนมีทางเดินและมุมมองที่ต่างกัน มีบทสรุปของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน มันก็เกิดอะไรขึ้นได้กับชีวิตทุกคน และบางคนที่ไม่ได้มายืนตรงจุดนี้ ผมเชื่อว่าจุดที่ผมยืนไม่เหมือนจุดที่เขายืน
กว่าจะตั้งหลักได้มันวนเวียนกับความคิดตัวเองอยู่ประมาณหลายเดือน จนรู้สึกว่าเราออกไปทำงานไม่ได้ ออกไปใช้ชีวิตไม่ได้ ไลน์คุยกับเพื่อนบอกไม่ไหวแล้ว ต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ชีวิตมันเดินต่อไป ซึ่งตอนนั้นก็ทำได้แบบหลอกๆ แต่ว่ามันก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย วันนี้พยายามใช้ชีวิตให้มันเหมือนไม่มีอะไร มันยากที่มาพูดอะไรตอนอึดอัด ก็ตอนนี้จากที่เราตกลงกันไม่ได้ ก็รู้สึกว่าเราต้องหาคนกลางมาคุยกัน มีคนมาไกล่เกลี่ยให้เรา และเป็นคนที่สำคัญพอให้เราตกลงกันได้ มีผลสรุปทางด้านข้อกฏหมายมาให้เราปฏิบัติ