หมอพรทิพย์ เผยหลังดูบาดแผล แตงโม พร้อมชี้จุดดับท้ายเรือ!?

จากกรณี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมคณะ แถลงสรุปสำนวนคดีแตงโม พร้อมเปิดบาดแผล 26 จุดบนร่างกายของนักแสดงสาวแตงโม นิดา ซึ่งภาพบาดแผลของแตงโมและคำอธิบายของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถคล้ายความสงสัยของผู้ที่ติดตามข่าวคดีแตงโมมาตั้งแต่ต้นได้

 

 

 

ล่าสุด พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เปิดเผยว่า เข้าใจว่าสิ่งที่แถลงออกมานั้นหลายคนเองอาจจะไม่เชื่อ และไม่เห็นด้วย ตนเลยแสดงความคิดเห็นออกมา ในมุมมองของตน ที่ไม่ได้ไปพาดพิงถึงบุคคลใดหรือก้าวก่ายการทำงานของตำรวจ ย้ำว่าสิ่งที่ตนพูดนั้นไม่กระทบต่อสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจแน่นอน  เพราะตำรวจได้มีการปิดสำนวนแล้ว แต่สิ่งที่ตนพูดอาจจะเป็นประโยชน์ในชั้นอัยการ และเป็นการพูดให้สังคมรับรู้

 

 

สิ่งที่ตนจะสื่อคือเรื่องของระบบการรวบรวมหลักฐานที่เปรียบเหมือนกันต่อจิ๊กซอว์ทางคดี เปรียบกับต่างประเทศจะต้องมีความ "สมบูรณ์" และ "ถูกต้อง" แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากที่มีการแถลง กลับพบว่าขั้นตอนการรวบรวมหลักฐานยังไม่สมบูรณ์ซึ่งในเรื่องของประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจในเรื่องของจุดตก เพราะว่าหนึ่งในบุคคลบนเรือมีการพูดหรอให้การ หลายคนคิดว่าจุดตกอยู่ท้ายเรือ แต่จริง ๆ ในมุมของหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่จุดท้ายเรือแน่นอน ขณะที่บาดแผลร่องรอยบนศพมีหลากหลาย แต่มีอยู่กลุ่มหนึ่งที่เป็นลักษณะคล้ายกางปลา เพราะฉะนั้นแผลกางปลามีความแคบที่จะบอกได้ว่าเกิดจากอะไร แต่แผลขนาดใหญ่นั้นค่อนข้างมีความยากที่จะตอบได้ว่าใช่ใบพัดเรือหรือไม่

 

 

ในมุมของตนมองว่าระบบเชิงการรวบรวมหลักฐานค่อนข้างโบราณ และไม่ครอบคลุมไม่มีคำตอบที่อธิบายหรือรองรับว่าทำไมถึงเป็นใบพัดเพราะอะไรนอกเหนือจากการเทียบเคียง ส่วนถามว่าแล้วหากส่วนตัวมองว่าการรวบรวมหลักฐานยังไม่สมบูรณ์ แล้วในทางคดีมองว่าเพียงพอจะนำไปดำเนินคดีหรือไม่ในส่วนนี้ตนไม่ขอตอบ เพราะตนเองไม่ขอไปเปรียบเทียบหรือวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคนอื่น แต่สิ่งที่ตนทำตอนนี้เป็นการช่วยในการทำงานชั้นอัยการ แต่หากพูดในมุมการทำงานของตำรวจไทยที่ผ่านมาเขาเองจะทำแบบในใจที่คิดว่าสมบูรณ์แล้ว ซึ่งก็ไม่ผิดในมุมของเขา แต่เมื่อเทียบกับระดับสากลมันยังไม่ได้มาตรฐานพอ ส่งผลให้พอเรื่องหรือสำนวนไปถึงชั้นอัยการ ก็อาจจะมีการเรียกสอบเพิ่มหรือขอข้อมูลเพิ่มก็ได้

 

 

"ปกติหลักฐานต่าง ๆ ที่จะชี้ชัดจะมีค่าทางสถิติ การที่เราจะยืนยันว่าเป็นไปความเห็นของเรา ก็ควรจะมีเหตุผลที่เกิดจากการตรวจสอบ หรือทดสอบมารองรับ ยกตัวอย่างเช่นเคสอื่น ๆ การที่จะบอกว่าลิ้นจุกปาก เพราะเน่าหนือจุกปากเพราะชัก หากบอกว่าจุกปากเพราะชักก็ต้องมีข้อมูลรองรับ อาจจะพิสูจน์ต่อว่าชักเเน่นอน เพราะตรวจสอบได้ว่าน่องทั้ง 2 ข้างเกร็งเป็นลูก ปลายเท้าจิกลง ท้องไม่อืด เป็นต้น ไม่ใช่พอเห็นว่าลิ้นจุกปากก็บอกทันทีว่าอืด ไม่ได้ ต้องมีการพิสูจน์ก่อน เช่นเดียวกับบาดแผลที่บอกว่าเกิดจากใบพัดเรือ แล้วมีการพิสูจน์อย่างไร สิ่งหนึ่งที่พลาดจากการแถลงอีกอย่างคือการไม่เอาผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านที่มีการพิสูจน์ออกมาพูด พอเป็นตำรวจพูดเลยทำให้คนสงสัย และตั้งข้อสังเกตกันอย่างหลากหลาย"

 

 

หมอพรทิพย์ บอกอีกว่า จิกซอว์ที่จะมารวบรวมในการทำสำนวน ส่วนหนึ่งจะต้องมาจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ประกอบกับพยานบุคคล ซึ่งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์หากสู้ในทางคดีมีความน่าเชื่อถือว่าพยานบุคคลค่อนข้างเยอะ มองว่าคดีนี้หากพูดโดยภาพรวมแล้วภาพที่ปรากฏยังค่อนข้างเบลอ ๆ ไม่ชัดเจน ถามว่าตำรวจเองเป็นคนทำให้ภาพที่ปรากฏทั้งหมดค่อนข้างเบลอหรือไม่ ส่วนตัวไม่ได้ว่าแต่เป็นเพราะเขาเองคิดว่าพอที่จะสรุปได้ ทำให้ประชาชนเองเกิดข้อสงสัยต่าง ๆ ส่วนตัวในฐานะที่เคยทำงานเพื่อคนตายมองว่าคดีนี้ยังทำได้อีกเยอะ

 

 

ขอบคุณทุบโต๊ะ