"เปียเชอร์ คริสเตนเซ่น" เปิดใจ หายไปไหนหลายปี พร้อมย้อนอดีตสุดฮอต

ถือเป็นนักแสดงชื่อดังที่หายหน้าไปจากวงการบันเทิงไปอย่างดื้อๆ จนแฟนๆต่างบ่นคิดถึงกันเป็นแถว สำหรับ เปียเชอร์ คริสเตนเซ่น ล่าสุดเจ้าตัวได้มีโอกาสมาเปิดใจในรายการ Z Story Z Holiday ถึงเรื่องราวความสวยในอดีตที่เข้าตาใครหลายคน จนมีหนุ่มๆ มาขอเปย์เงินหลักล้าน พร้อมอัปเดตชีวิตปัจจุบันเตรียมรับบุตรบุญธรรมมาดูแล 

เข้าวงการตั้งแต่อายุเท่าไหร่ ?
"อายุ 18 ค่ะ ยุคนั้นเป็นยุคที่ลูกครึ่งกำลังมา"

ช่วงไหนในชีวิตที่พีคที่สุด ?
"ตอนอายุ 19 ค่ะ เล่นละครเรื่องแรกก็คือ ปังเลยค่ะ พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องด้วย พูดภาษาไทยยังไม่แข็งแรง"

ตอนนั้นค่าตัวกี่หลัก ?
"7 หลักขึ้นไป ได้โฆษณาจาก ผีขี้เหงา ค่ะ มันทำให้เราปังมาก หลังจากนั้นก็ได้ 7 หลักหมดเลย"

 

ฮอตมากจนเคยมีหนุ่มขอเปย์ ?
"ถ้าเด็กๆ หนุ่มๆ ก็จะเอาลูกโป่งหรือกุหลาบมาฝากไว้ให้ บางคนก็ซื้อช็อกโกแลต แต่ถ้าเริ่มเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก็เอาเพชรพลอยมาให้ บางทีก็เอาเชอร์รี่จากออสเตรเลียแบบเป็นกล่องเป็นลังมาให้"

มีใครที่พยายามเข้ามาเปย์หัวใจ อยากได้เราเป็นคนของเขาบ้างไหม ?
"ก็จะมาในรูปแบบ สนใจไหมมีรถ BM ให้กับบ้านหลังหนึ่ง เราก็บอกว่าอย่างเราต้องมากกว่านั้น เราก็พูดเวอร์ๆ ไปก่อน เรียกไป 30 ล้าน กับบ้านหลังละ 20 ล้าน รวมเป็น 50 ล้าน พอเราเรียกไปแบบนั้น เขาก็หายไปเลย"

 

 

จากที่กำลังโด่งดัง อยู่ดีๆ ก็หายออกไปจากวงการ เกิดอะไรขึ้น ?
"เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว เราอยากซื้อที่ อยากได้ที่ อยากทำโฮมสเตย์ ก็เลยไปชวนน้องเขยมา เพราะเขาก็สนใจ เพราะเขาก็อยากจะย้ายมาอยู่เมืองไทย แล้วเผอิญมาใช้น้ำมันมะรุม เรารู้สึกว่าน้ำมันตัวนี้มหัศจรรย์มากเลย เรามีมะรุม ทำไมเราไม่ใช้น้ำมันมะรุม ไหนๆ เราก็อยากได้ไร่ ก็เลยปลูกเองเลย เดี๋ยวโฮมสเตย์ค่อยตามมา เอาไร่สำหรับปลูกตรงนี้ก่อน"

ตอนทำไร่ เรามีสามีหรือยัง ?
"ตอนนั้นมีสามีแล้วค่ะ ก็คือเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว เราแต่งงานกับแฟนที่เป็นแฟนกันมาก่อน 10 กว่าปีแล้ว ตอนนั้นเขายังคงไม่ชัดเจนที่จะมาตั้งหลักปักฐานที่นี่ ก็เลยเลิกกันไปช่วงหนึ่ง สุดท้ายเขาก็กลับมาง้อ เขาบอกว่าอยากได้ลูก เริ่มพูดถึงลูกขึ้นมา เพราะเขาอยากสร้างครอบครัวและเขาก็รู้ว่าเราก็อยากมี เราก็เลยมาลองดูกัน ตอนนั้นก็อายุ 40 กว่า ก็เลยกลัวว่าเดี๋ยวมีลูกไม่ทัน ก็เลยไปปรึกษาแพทย์ ทำเด็กหลอดแก้ว ทำได้ประมาณ 3 ครั้ง กลายเป็นว่าร่างกายเรามันไม่ได้ ไข่เราฝ่อไปหมดแล้ว ก็เลยไม่เป็นไร ไม่ต้องแล้วกัน จะเกิดอะไรขึ้นก็เกิด ไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะว่าเราก็มีเด็กๆ รอบข้าง สามีมีหลาน 2 คน น้องสาวเราก็มีหลาน 2 คน เป็น 4 คนแล้ว ไหนจะมีลูกบุญธรรมที่เราดูแลด้วย"

 

 

ลูกบุญธรรมไปรับมายังไง ?
"ไม่ได้ไปรับค่ะ ทุกอย่างเข้ามาหาเราเอง เราจะไม่ดิ้นรนออกไปหาค่ะ เราก็เลยใช้วิธีใครที่กำลังเดือดร้อนแล้วอยู่ในสถานการณ์นั้นเราดูแลเขาได้ เราก็จะดูแล คนแรกก็คือหลานสามี คุณพ่อของเขาเสีย สามีเขาดูแลตั้งแต่ 7 ขวบ เราก็เลยรับดูแล แล้วก็มีเพื่อนฝรั่งเป็นผู้ชาย เขาเสียเร็วค่ะ เสียตอน 30 กว่า ก่อนหน้านี้เขาบอกว่า ช่วยเป็นแม่บุญธรรมให้ลูกเขาหน่อยได้ไหม เราก็เลยเป็นให้ เป็นเด็กผิวสี 2 คนค่ะ แต่ทุกวันนั้นทั้งสองคนเขาทำงานและเรียนอยู่ที่อเมริกา ตอนนี้อายุก็ประมาณ 21-22 กันค่ะ

 

 

แล้วก็มีมาอีกนะคะ เป็นลูกแม่บ้านค่ะ ตอนนั้นอายุ 2 ขวบ เป็นเด็กกะเหรี่ยง เดินไปมาอยู่ในตึก เราชอบไปเล่นด้วย สอนภาษาไทยวันละคำสองคำ สอนเขาจนเราผูกพัน เราก็เลยเอาเขามาเลี้ยง เพราะว่าแม่ของเขาต้องทำงานบ้าน แต่พอเขาเริ่มไม่ติดแม่เขาแล้ว เราก็จะเริ่มสอนเขาปั่นจักรยาน พาเขาไปเที่ยว สอนว่ายๆ น้ำต่างๆ ก็เป็นหน้าที่ของเราหมดเลย รวมที่รับเลี้ยงทั้งหมดเป็น 4 คนและเป็นเด็กผู้ชายหมดเลยค่ะ"

มีแนวโน้มที่จะรับบุตรบุญธรรมแบบจริงจังเลยไหม ?
"คนสุดท้ายน่าจะทำเอกสารจริงจังค่ะ เพราะว่าเดี๋ยวเขาจะต้องเรียนสูงขึ้น แล้วน้องคนนี้เขาเรียนเก่งด้วย เราก็เลยอยากจะส่งเสริมเขาให้เต็มที่ ตอนนี้อายุ 10 ขวบแล้วด้วย"

ทำไมถึงสนใจ มะรุม ?
"อย่างที่บอกไปว่า เราเอามะรุมมาใช้ รู้สึกว่าน้ำมันมะรุมใช้ดีมากๆ ยิ่งคนที่ผิวแห้งหรือแพ้ง่าย 3 วันหายเลย ดีขึ้นทันตา แล้วเราลองเอามาทาหน้า ตอนนั้นผิวเราจะเป็นผิวผสม ทีโซนจะมันๆ แต่ใต้ตาจะแห้งๆ เป็นขุยแสบๆ ตอนนั้นเราคิดว่าเราแพ้เครื่องสำอาง ก็เลยลองมาใช้น้ำมันมะรุม สรุปว่ามันดีขึ้นเรื่อยๆ เราก็เริ่มล้างสมองให้สามีใช้ เริ่มให้คนในครอบครัวเราใช้ เขาก็ใช้กันมาอยู่ 1 ปี ก็เลยชอบกัน เราก็เลยบอกว่า เอาแบบนี้ไหม เราลองปลูกเองเลยดีไหม เพราะว่าตอนนั้นอยากทำไร่อยู่แล้ว ก็เลยออกไปหาที่ แล้วมาจบที่หัวหิน 10 ไร่ เล็กๆ ค่ะไม่ได้ใหญ่มาก"

จากที่เป็นนักแสดง ดาราในวงการบันเทิง ผันตัวมาเป็นชาวไร่ ปรับตัวยากไหม ?
"ไม่ยากค่ะ เพราะว่าเราเป็นคนลุยอยู่แล้ว เราลองถูกลองผิดมาเยอะเหมือนกัน ไร่มะรุมของเราตอนนี้ปีแรกเราทำไร่ พอผ่านไปปีครึ่งเราเก็บผลผลิตมาสกัด เข้าโรงงาน ขอ อย. แล้วเราก็เริ่มที่ตัวน้ำมันก่อน พอมาตอนนี้ เรามีสบู่ ซึ่งเราเอาใบมะรุมมาปั่นทำเป็นสบู่ แล้วเอากากที่เหลือมาทำสครับสบู่ รวมถึงเอาใบมาสกัดทานเป็นยา เราก็พยายามเพิ่มผลิตภัณฑ์ไปเรื่อยๆ"

โควิดส่งผลกระทบกับเราไหม ?
"มันไปได้ค่ะ ไม่ได้กระทบอะไรกับเรามาก"

คิดจะกลับมารับงานในวงการบันเทิงอีกไหม ?
"คิดนะคะ แต่ตอนนี้ก็สามารถรับเชิญได้นิดๆ หน่อยๆ แบบสั้นๆ เพราะว่าตอนนี้ยังต้องลงทุน ลงแรงกับไร่ แต่ก็ติดต่อมาได้เลยค่ะ"