แซน ส่งสารเตือน ลุงคนหนึ่ง ทำมาเยอะแต่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่งั้นเจอฟ้องอีกคน

แซน วิศาพัช ส่งสารเตือน 'ลุงคนหนึ่ง' ขอให้พักเถอะ เหนื่อยแล้วทำมาเยอะแล้ว ไม่เกิดประโยชน์เลย ไม่งั้นเจอฟ้องอีกคน

แซน ส่งสารขู่ ลุงคนหนึ่ง ทำมาเยอะแต่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่งั้นเจอฟ้องอีกคน ยังเป็นประเด็นร้อนที่ชาวเน็ตให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง กับคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา ดาราสาวที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทจนถึงแก่ชีวิต ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคดีแตงโม ได้ออกมาแถลงสรุปสำนวนคดีก็ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก อีกทั้ง อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ก็ได้ออกมาส่งเรื่องให้ตรวจสอบต่างๆ อีก พร้อมทั้งตั้งธงเลยว่ามีเป้าหมายที่จะดำเนินคดีกับ แซน วิศาพัช เพียงคนเดียวในคดีนี้

แซน ส่งสารขู่ ลุงคนหนึ่ง ทำมาเยอะแต่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่งั้นเจอฟ้องอีกคน

โดย อัจฉริยะ ได้ให้เหตุผลที่พุ่งเป้าไปที่ แซน เพียงคนเดียวในคดีแตงโม ตั้งแต่วันแรกๆ ว่า เพราะ "แซนเป็นบุคคลที่มีพิรุธที่สุด เนื่องจากคำให้การของแซนไม่มีทางเป็นไปได้ ตอนแรกบอกนอน ตอนหลังบอกนั่ง ตอนแรกบอกจับขาข้างเดียว ตอนหลังบอกจับขาสองข้าง และนั่งท้ายเรือ ถ้าแตงโมตก แซนก็ต้องตก เพราะคงถูกดึงลงไปด้วย 

แซน ส่งสารขู่ ลุงคนหนึ่ง ทำมาเยอะแต่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่งั้นเจอฟ้องอีกคน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะเกิดขึ้นจากเรือกระชาก เพราะคนขับเรือขับไม่แข็งจนทำให้แตงโมพลัดตกเรือ แต่ขณะนั้นแตงโมได้คว้าขาหรือแขนแซนเอาไว้ แต่แซนที่ทรงตัวไม่อยู่เช่นกัน ก็ได้สะบัดแตงโมเพื่อเอาชีวิตตัวเองให้รอด ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดตนคิดว่าเหตุน่าจะเกิดอีกฝั่งของเรือ คือด้านขวาเรือจุดที่มีคราบไวน์ เนื่องจากบาดแผลของแตงโตอยู่ที่ต้นขาขวาด้านใน ส่วนบาดแผลจะเกิดจากใบพัดหรือฟินเรือ คงต้องรอการพิสูจน์"

 

นายอัจฉริยะ อธิบายต่ออีกว่า "โดยคนตกน้ำน่าจะตะเกียกตะกายอยู่เหนือผิวน้ำได้ประมาณ 3-5 นาที ในกรณีของแตงโมซึ่งมีบาดแผลอาจจะน้อยกว่า แต่สาเหตุที่คนบนเรือไม่สามารถช่วยเหลือแตงโมได้ทัน เพราะขาดสติและเมา ทำให้กว่าจะหยุดเรือแล้ววนกลับมาหาแตงโม แตงโมก็หมดแรงจมน้ำไปแล้ว ผนวกกับเมื่อแตงโมตกน้ำ กระแสน้ำก็พลัดไปอีกจุดด้วย ยิ่งทำให้หายาก ตกหยุดเรือทันทีแล้วช่วยเหลือ อาจจะช่วยทัน ถ้าทุกคนมีสติแล้วให้ความช่วยเหลือ ตนเชื่อว่าแตงโมจะไม่ตาย" 

แซน ส่งสารขู่ ลุงคนหนึ่ง ทำมาเยอะแต่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่งั้นเจอฟ้องอีกคน

นั่นทำให้ นายอัจฉริยะเดินเครื่องโฟกัสไปที่ แซน เพียงคนเดียว อีกทั้งได้มีการส่งหลักฐานแจ้งกองปราบปราม ให้เอาผิด แซน ในข้อหาให้การเท็จกรณีแตงโมตกเรือ หลังให้การว่า แตงโมจะไปปัสสาวะท้ายเรือ ส่วนหลักฐานที่สำคัญคือภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ได้ให้นายวัชระไกรศร เกตุจรัส ผู้เชี่ยวชาญการใช้เทคนิด ด้าน แสง เงา และการวาดภาพวิเคราะห์ 


โดยอ้างว่ามีความชัดเจนในระดับหนึ่ง ว่าตอนเกิดเหตุ "แซน" ไม่ได้นั่งท้ายเรือ ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนเกิดเหตุแตงโมตกเรือ จากหลักฐานที่ได้ ไม่ตรงกับคำให้การของแซน ที่ระบุว่าแตงโม มาเกาะขาปัสสาวะท้ายเรือ จึงมาแจ้งความดำเนินคดี และต้องการให้ตำรวจกองปราบปราม นำหลักฐานไปส่งมอบให้ตำรวจภูธรภาค 1"

แซน ส่งสารขู่ ลุงคนหนึ่ง ทำมาเยอะแต่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่งั้นเจอฟ้องอีกคน
กระทั่งต่อมา แซน พร้อม นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความส่วนตัวแซน ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม สน.ในพื้นที่บ้านของแซน เพื่อแจ้งความ กรณีถูกนายจิน จรินทร์ สามีของผู้จัดละครชื่อดัง เข้ามาคอมเม้นต์ที่รูปคู่แซนกับกระติกด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่มีเจตนาว่ากล่าวแซนและกระติกอย่างชัดเจน 


พร้อมกันนี้ แซน ยังได้พูดถึงลุงคนหนึ่ง แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อก็รู้กันว่าหมายถึง นายอัจฉริยะ ที่เป็นประโยคสั้นๆ ว่า "ฝากถึงลุงคนนั้นที่มาเกี่ยวในคดี ขอให้พักเถอะ เหนื่อยแล้วทำมาเยอะแล้ว ไม่เกิดประโยชน์เลย ทำให้คนอื่นเขาลำบากเดือดร้อนทั้งกายทั้งใจ อย่าสร้างเวรสร้างกรรมต่อกันเลย อาจจะพิจารณาเรื่องการฟ้องร้องอีกครั้งหนึ่งถึงลุงคนนี้ด้วย"

แซน ส่งสารขู่ ลุงคนหนึ่ง ทำมาเยอะแต่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่งั้นเจอฟ้องอีกคน