- 03 พ.ค. 2565
ทัวร์ลง "เอ๋ อัจฉรา" หลังให้กำลังใจ "กาโตะ" หลังมีสัมพันธ์ กับสีกาในรถ ก่อนสึกกลับบ้านเกิด ลั่นผู้หญิงผิด 70% !
จากกรณี "หลวงพี่กาโตะ" ได้สึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นฆราวาส แล้วรับน้ำมนต์จากพระอุปัชฌา ก่อนเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาในอำเภอฉวาง ซึ่งภายหลังจากการที่พระกาโตะแสดงตนสึกจากการเป็นพระ ส่งผลให้การดำเนินการทางวินัยสงฆ์เป็นอันยุติ ก่อนจะออกมายอมรับว่า ตนมีสัมพันธ์กับสีกาที่เขื่อนตอนสี่ทุ่มจริง เพราะโดนผู้หญิงยั่ว แต่ที่ออกมาโฟนอินคือไอผู้หญิงคนนี้มันแบล็กเมล์
ซึ่งทางด้าน "ใบตอง" สาวมีสัมพันธ์กับ "กาโตะ" เปิดเผยว่า ตนได้ไปถวายเพลกับอดีตพระ ได้มีการเดินชมวัด ตนได้เดินไปถามอดีตพระว่าถ้าจะติดต่อวัดอีกต้องทำยังไง เลยมีการแลกไลน์ติดต่อกัน โดยอดีตพระมักจะทักมาถามบ่อยๆ ชวนคุยกับเธอ พอมีการพูดกันกันมากขึ้นก็ได้มีการเปิดใจคุยกันมากขึ้น สุดท้ายมีการนัดแนะไปเที่ยวพักผ่อนกันบนเขื่อน และมีการนวดกันบนรถหลังจากนั้นก็มีสัมพันธ์กันในที่สุด
ล่าสุด อดีตนักแสดงละครพื้นบ้าน "เอ๋ อัจฉรา ทองเทพ" ได้โพสต์ให้กำลังใจ "กาโตะ" จนถูกทัวร์ลงอย่างหนัก โดยระบุว่า "พี่ให้กำลังใจนะ ยังชื่นชม ปลื้ม ในมุมดี ๆ ของน้องนะคับ น้องเป็นคนเก่ง กตัญญู เป็นผู้ให้ เป็นนักพัฒนา เป็นคนไฝ่รู้ ต่อสู้ชีวิต เป็นคนจิตใจดี มีเมตตา หลวงกาโตะ พงศกร จันทร์แก้ว ก็คือคนวัยเพียง 23-24 เอง ดิ้นรน ถีบตัวเองมาได้ขนาดนี้ ถือว่าน่ายกย่องแล้ว โลภ โกรธ หลง เป็นสัจธรรมของคน ไม่มีใครในโลกนี้ที่ไม่เคยทำผิด ผิดได้ แต่ อย่าผิดบ่อยนะเว้ยเห้ย ผิดก็รับผิดซะจบ ตั้งสติ แล้วเดินต่อไป ให้สง่างามและมีคุณค่าต่อตัวเอง และสังคม ให้มากกว่าเดิมนะน้องนะ พี่ห้กำลังใน้องเหมือนเดิมนะคับผม เป็นความรู้สึกส่วนตัว โปรดอย่าดราม่า"
ล่าสุด เอ๋ อัจฉรา เปิดใจผ่านรายการ ทุบโต๊ะข่าว ระบุว่า ตนเองรู้จักทิดกาโตะ หรือแรมโบ้ มาตั้งแต่น้อย เคยได้เห็นความกตัญญูความน่ารักของน้อง พอน้องมาเป็นพระก็ทำประโยชน์ให้กับวัด คอยช่วยวัดเสมอ ตนก็ได้มาเป็นแฟนคลับ โดยนิสัยเดิมของน้อง เป็นคนรักแม่มาก ยืนยันว่าน้องไม่ใช่ประเภทชายหนุ่มนุ่มนิ่ม จนกระทั่งคุณแม่เสียชีวิตก็บวชหน้าไฟให้แม่ โดยตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะบวชนาน แต่หลวงพ่อรักษาการณ์เจ้าอาวาสท่านขอให้อยู่ต่อ ทำให้บวชมานานถึง 3 พรรษา
ส่วนประเด็นที่มีการเกี่ยวกับสีกาสาวชื่อ ตอง ตนและชาวบ้านที่ทราบข่าวยอมรับว่าเสียใจมาก หลังจากพระออกมายอมรับแล้ว เพราะทิดเป็นคนที่ทำให้วัดเป็นที่รู้จัก และทำประโยชน์ให้กับวัดมากมาย บวชมา 3 ปี หาเงินให้วัดได้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ส่วนที่น่าชื่นชม ก็ต้องพูดตามความจริง ตนไม่เคยได้ยินประวัติเรื่องสีกาเลย ไม่เคยมีประวัติเสียเลยแม้เเต่น้อย เหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรกจริง ๆแต่เรื่องที่เกิดขึ้นก็ถือว่าทำให้พระพุทธศาสนาเสีย ตนยอมรับว่าเสียใจ เพราะทิดทำผิดมากในวินัยสงฆ์ ที่ทำแบบนี้ในขณะอยู่ในผ้าเหลือง แต่ตัวฝ่ายหญิงเอง อายุ 37 ปีแล้ว ชีวิตผ่านอะไรมาเยอะแล้ว ทำไมถึงไม่คิดให้รอบคอบ
ทั้งนี้ เข้าใจว่าทิดอายุยังน้อย เจอสิ่งยั่วยุก็ต้องมีความอ่อนไหว มีความอยากตามประสาวัยรุ่น ตนยืนยันว่าชาวบ้านแถววัดพร้อมที่จะให้อภัยทิด เพราะทุกคนรู้ว่าพื้นฐานของทิดเป็นเด็กอย่างไร สู้ชีวิตมามากแค่ไหน หลังจากนี้ทิดบอกว่าจะไม่กลับมาบวชแล้ว แต่ตั้งใจที่จะหาเงินเพื่อสร้างวัดต่อไป เพราะเขามีจุดประสงค์ที่จะสร้างโบสถ์ อุทิศส่วนบุญให้แม่ ตอนนี้ทิดยังอยู่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ตนได้สอบถามคนรอบข้าง ก็ทราบว่าทิดเองก็เสียใจมากเช่นกันที่เรื่องเกิดขึ้น ตนให้ผู้ชายผิด 30% ส่วนฝ่ายหญิง 70% เพราะฝ่ายหญิงโตกว่า