- 15 พ.ค. 2565
ลูกชายคังคุไบเดือด บอกแม่เป็นเพียงนักเคลื่อนไหว ฟ้องยับ ผู้กำกับ คนเขียนหนังสือ นักแสดง สุดท้ายศาลตัดสิน บอกเหตุผลเอาผิดไม่ได้
ลูกชายคังคุไบเดือด ปกป้องแม่ฟ้องยับ สุดท้ายศาลตัดสินเอาผิดไม่ได้ กำลังมาแรงจริงๆ สำหรับภาพยนตร์เรื่อง คังคุไบ (Gangubai Kathiawadi หญิงแกร่งแห่งมุมไบ) ที่เข้าฉายใน Netflix จนฮิตติดอันดับ 1 ในไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลก และส่งผลให้ชื่อของ อเลีย บาตต์ (Alia Bhatt) นักแสดงหญิง เจ้าของบ คังคุไบ กลายเป็นที่สนใจจากแฟนๆ ที่ดูหนังเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
คังคุไบ เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ ซึ่งสร้างขึ้นมาจากนิยายเรื่อง "Mafia Queen of Mumbai" เขียนโดยนักข่าวที่ชื่อ "ฮุสเซน ไซดี" (Hussain Zaidi) ซึ่งอ้างอิงถึงเรื่องราวชีวิตจริงของโสเภณีคนดังที่ชื่อ "คังคุไบ ฮาร์จีวันดัส" (Gangubai Harjeevandas) หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า "คังคุไบ กฐิยาวาฑี" (Gangubai Kathiyawadi) นั่นเอง
โดยเรื่องราวชีวิตจริงของโสเภณีคนดัง ประวัติคังคุไบ หรือ "Gangubai Kathiyawadi" (คังคุไบ กฐิยาวาฑี) เกิดในปี 1939 เกิดในตระกูลทนายและมีความฝันอยากจะเป็นนักแสดงบอลลีวูด แต่เมื่อตอนอายุ 16 ปีตกหลุกรัก "รามนิก" นักบัญชีของพ่อจนหนีตามกันไป และต่อมาภายในเวลาไม่กี่วัน "รามนิก" ได้ขาย "คังคุไบ" ให้แก่ซ่องในราคาแค่ 500 รูปี ทำให้ "คังคุไบ" ในชีวิตจริงต้องเข้าสู่วงการค้าประเวณีในเขตกามธิปุระ ของนครมุมไบเมื่อปี 1960
ทว่าหลังจากตัวอย่างหนังถูกฉายในประเทศอินเดียก็เกิดข้อพิพาทระหว่างครอบครัวของคังคุไบ กฐิยาวาฑี นำโดย บาบู ราวจี ชาห์ (Babu Raoji Shah) ลูกชายบุญธรรมคังคุไบและภารตี โสณวรรณี หลานสาว กล่าวว่าการแสดงภาพที่เกินจริงในภาพยนตร์ทำให้ครอบครัวลำบากใจมากและทำให้คุณแม่เสียชื่อเสียง เนื่องจากคังคุไบ กฐิยาวาฑีเป็นเพียงนักเคลื่อนไหวทางสังคม ไม่ใช่โสเภณี พร้อมยื่นคำร้องต่อภาพยนตร์เรื่อง Gangubai Kathiawadi ในปี 2564
ด้าน ศาลในมุมไบได้เรียกซันเจย์ ลีลา ภันสลี ผู้กำกับคังคุไบ และอเลีย บาตต์ สาวผู้รับบทนำ มาในคดีนี้ด้วย ต่อมาศาลสูงแห่งเมืองมุมไบปฏิเสธที่จะระงับการฉายภาพยนตร์คังคุงไบ แต่ยังคงอนุญาตให้ยุติการฉายชั่วคราว เหตุมีการดำเนินคดีหมิ่นประมาททางอาญากับผู้สร้างภาพยนตร์ สำนักข่าว ANI รายงาน ศาลฎีกาเสนอแนะให้ผู้กำกับเปลี่ยนชื่อหนังเรื่องใหม่ เพื่อแก้ไขข้อขัดแย้ง หลังมีการยื่นฟ้องหลายคดีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ เพื่อต้องการยุติการฉาย
ทั้งนี้ อินเดียทูเดย์ได้คำสัมภาษณ์จาก บาบู ราวจี ชาห์ซึ่งเขากล่าวว่า แม่ของเขากลายเป็นโสเภณี ผู้คนต่างพูดถึงแม่ของเขาอย่างเข้าใจผิด นเรนทรา ทนายความครอบครัวของคังคุไบกล่าวว่า ทั้งครอบครัวต่างตกตะลึงตั้งแต่ปล่อยตัวอย่างภาพยนตร์
"คังคุไบถูกพรรณนาอย่างผิดๆ และไร้เหตุผล ซึ่งค่อนข้างหยาบคายมาก เนื่องจากจู่ๆ ก็มีคนมายัดเหยียดคุณกำลังเป็นตัวแทนของนักเคลื่อนไหวทางสังคมในฐานะโสเภณี ครอบครัวไหนจะชอบมัน คุณทำให้เธอเป็นหญิงมารยา" เขาระบุ
อีกทั้ง นเรนทรา ยังเปิดเผยว่าคดีที่บาบู ราวจี ชาห์ยื่นฟ้องนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอย่างไร ระบุว่า "ปัญหาของระบบกฎหมายของเรา คือ แทนที่จะทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการบิดเบือนความจริงอย่างร้ายแรง แต่คุณถูกขอให้แสดงหลักฐานว่าเป็นลูกชายของคังคุไบจริงๆ หรือไม่ แม้ว่าเราจะพิสูจน์ในศาลแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตอนนี้"
"การต่อสู้ของเราเริ่มต้นในปี 2563 เมื่อลูกชายรู้ว่ามีการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับชีวิตของคังคุไบ หลังจากได้เห็นรูปแม่ของเขาในการโปรโมทภาพยนตร์เรื่องนี้ ตั้งแต่นั้นมาครอบครัวหลบซ่อน ย้ายบ้าน และญาติๆ หลายคนตั้งคำถามว่าคังคุไบเป็นโสเภณีจริงๆ หรือไม่ มิใช่นักสังคมสงเคราะห์อย่างที่บอก ตอนนี้ สภาพจิตใจของครอบครัวย่ำแย่ ไม่มีใครอยู่ได้อย่างสงบสุข"
"เราได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังซันเจย์ ลีลา ภันสลี ผู้กำกับและฮุสเซน ไซดี ผู้เขียนหนังสือที่ดัดแปลงเรื่องราวของคังคุไบโดยอิงจากเรื่องราวที่ผู้คนในละแวกใกล้เคียงและคนรู้จักของเธอ ซึ่งเขาได้เขียนหนังสือโดยไม่มีหลักฐานใดๆ ทว่าไม่ได้รับการตอบกลับจากพวกเขา ขณะนี้สถานะคำร้องอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา สิ่งที่เราได้ยินก็คือเรื่องสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ความหวังสุดท้ายของเราอยู่ที่ศาลฎีกา เพราะไม่มีการยื่นเรื่องเช่นนี้ในระบบตุลาการของอินเดีย"
อย่างไรก็ตามล่าสุดมีรายงานว่า สุดท้ายศาลตัดสินให้หนังฉายต่อไปได้ ซึ่งศาลให้เหตุผลว่าโจทก์ ไม่สามารถหาหลักฐานมาแสดงให้เห็นว่า หนังเรื่องนี้ สร้างความเสียหายให้กับคังคุไบและครอบครัวอย่างไร
และ โจทก์ ไม่สามารถหาหลักฐานมาแสดงให้ศาลดูได้ว่า เป็นลูกบุญธรรมของคังคุไบจริงๆ