ทนายเดชา ตอบเหตุแตกหัก แม่แตงโม บอกตรงๆ ทนายตั้ม มีส่วนทำโบกมือลา พระมารดา

ทนายเดชา ตอบเหตุแตกหัก แม่แตงโม บอกตรงๆ ทนายตั้ม มีส่วนทำโบกมือลา พระมารดา  บอกเลยว่าตามต่อกันยาวๆ หลังจากที่ เต้007 มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ออกมาประกาศว่า ทางทีมกฎหมายของพรรคได้รับมอบหมายจากคุณแม่แตงโม ให้มาดูแลคดีนี้ทั้งหมด พร้อมทั้งบอกอีกว่า คุณแม่มองว่าเป็นฆาตกรรมและจะสู้ให้ถึงที่สุดคดีนี้ไม่มีการเจรจาใดๆ

ประจวบเหมาะกับที่ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ออกมาประกาศถอนตัวจาก จากการเป็นทนายความส่วนตัวให้กับคุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่ของแตงโม ซึ่งไม่นานจากนั้น เจ้าตัวก็ได้รัวโพสต์ออกมาถี่ๆ ทั้งบอกว่า วันนี้ (26 พ.ค. 65) จะไปออกรายการโหนกระแส แต่โพสต์ที่ทำชาวเน็ตสะดุดใจนั่นก็คือ โพสต์ขอร้องให้ทัวร์หันไปลงที่อื่น 

โดย ทนายเดชา ได้ระบุข้อความเน้นรายละเอียดว่า "รถทัวร์ย้ายไปที่อื่นได้แล้วนะครับ ผมคงไม่ยุ่งเกี่ยวกับคดีแตงโมอีกต่อไป นับแต่นี้ ที่ผ่านมาต้องกราบขออภัยทุกคนที่เห็นไม่ตรงกับผม"

 

 

ล่าสุด ทนายเดชาไปออกรานการโหนกระแส ซึ่ง อดีตทนายแม่คนที่สองได้เปิดใจกับ หนุ่ม กรรชัย ถึงกรณีที่ ทนายเดชา ถอนตัวจากคุณแม่ ถึง 3 กรณีด้วยกัน โดยทนายเดชา ได้เปิดใจในเบื้องต้นว่า สิ่งหนึ่งที่รับไม่ได้คือ คุณแม่ส่งมือถือไปให้ บังแจ็ค ที่อยู่สหรัฐอเมริกา ซึ่งถ้า คุณแม่ ส่งมือถือให้ นายอัจฉริยะ หรือ หมอพรทิพย์ ตนยังพอรับได้ 

แต่นี่คุณแม่ดันไปไว้ใจกระทั่งส่งมือถือไปให้บังแจ็ค ทำให้ความคิดเห็นเริ่มไม่ตรงกัน แต่ที่ทำให้ถึงจุดแตกหักกับ คุณแม่ภนิดา นั้นก็คือ คุณแม่จะให้ตนเองฟ้อง ทนายตั้ม ซึ่งตนนั้นไม่เห็นด้วย 

เหตุที่คุณแม่อยากฟ้องทนายตั้มนั้น เป็นเพราะ คุณแม่ไม่พอใจทนายตั้ม ที่ไปวิพากษ์วิจารณ์คุณแม่ คุณแม่โทรไปหาคนรู้จักที่ฝรั่งเศส เรื่องการเปลี่ยนทนาย อีกกรณีก็คือ การส่งมือถือแตงโมให้กับบังแจ็ค บอกให้ติดต่อหาทนายตั้ม บอกให้ขอโทษ ถ้าไม่ขอโทษจะดำเนินคดีทนายตั้ม แต่ตนบอกว่าเป็นเพื่อนกัน ดำเนินคดีไม่ได้ ถ้าจะให้ดำเนินคดีทนายตั้ม ก็ต้องเปลี่ยนทนายใหม่ 

"นั่นคือฟางเส้นสุดท้าย ก็เลยแตกกัน พอกันที พระมารดา" ทนายเดชา ระบาย 

อย่างไรก็ตาม ทนายเดชา ระบุว่า ตนเพิ่งจะคืนดีกันกับทนายตั้มยังไม่ถึงปี จะให้ไปฟ้องกันก็เหมือนจะทำให้เกิดปัญหาหมางใจกันอีก ซึ่ง ทนายเดชา ยังระบุว่า ทุกวันนี้ยังคุยกับคุณแม่ได้ แต่เรื่องคดีนั้น มันมีความเห็นต่างกันไปแล้ว