ฟลุค เกริกพล พาครอบครัวไปอเมริกา ผิดแผนต้องอยู่นาน 5 เดือน หมดเงิน 5-6 ล้าน

ฟลุค เกริกพล เปิดใจพาครอบครัวไปอเมริกา ผิดแผนต้องอยู่นาน 5 เดือน หมดเงิน 5-6 ล้าน แค่ค่าเช่ารถก็โดนไปวันละ 2 แสน

มาเปิดใจครั้งแรกหลังจากที่หอบครอบครัวไปใช้ชีวิตต่างแดนนานกว่า 5 เดือน สำหรับอดีตพระเอกเจ้าเสน่ห์ ฟลุค เกริกพล ซึ่งล่าสุดได้มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ คุยแซ่บ Show ทางช่องวัน 31 เผยประสบการณ์การติดโควิด-19 ของภรรยาและลูกสาววัย 1 ขวบ พร้อมเปิดความสัมพันธ์พ่อลูกกับน้องอชิ ลูกชายสุดหล่อวัย 19 ปี

 

ฟลุค เกริกพล พาครอบครัวไปอเมริกา ผิดแผนต้องอยู่นาน 5 เดือน หมดเงิน 5-6 ล้าน

 

ทำไมคลอดลูกปั๊บ ตัดสินใจไปอเมริกาเลย ?

ฟลุค : จริง ๆ แล้วเราอยู่เมืองไทยมานานพอสมควร แบบ 5 เดือน จนวันนึง น้องลีบอกว่าคุณยาย ของน้องลีป่วยลุกจากเตียงไม่ค่อยได้ เขาบอกว่าเราต้องไปหายาย เราก็บอกว่ามันจะดีเหรอ ตอนนั้นโควิดหนัก เขาบอกต้องบินจากกรุงเทพฯ ไปซานฟรานฯ เพื่อให้ยายได้เจอเหลน แล้วเราเดินทางไปอยู่ที่ LA ก่อนไปอยู่บ้านพี่สาวของลีก่อน แล้วตั้งใจว่าช่วงคริสต์มาสจะไปหาคุณยาย คือเราไปถึงก็ไปฉีดวัคซีนก่อน เพื่อที่เราจะได้แข็งแรงและปลอดภัยจริง ๆ แล้วค่อยไปหาคุณยาย ผลปรากฏว่าฉีดได้ 3 วัน น้องลี ก็ติดเลย
 

ลีได้ฉีดไหม ?

ฟลุค : ฉีด ผมก็งงมาก แจ็กพอตมาก ตอนมาเขาแทบไม่ไปไหนเลย แค่ออกไปทานข้าวด้วยกันข้างนอก แต่ส่วนใหญ่ทานร้าน Outdoor แต่มีร้านจีนอยู่ครั้งนึง ก็น่าจะร้านนั้น เดาเอา พอเขาติดมา อีกแค่ 2 วัน น้องนาตาชาก็ติด แล้วอีก 2 วัน จากนั้นพี่เลี้ยงก็ติด ผมก็เหลืออยู่คนเดียว

ตอนนั้นเมียกับลูกไปอยู่ไหน?

ฟลุค : "วันแรกพอรู้ว่าลีติด ลีก็อยู่ห้องเดิมไป โชคดีที่เป็นห้องใหญ่สุดในบ้าน ผมก็แยกไปอยู่อีกห้อง ส่วนลูกสาวอยู่กับพี่เลี้ยง ผมก็เป็นคนไปส่งข้าว ส่งน้ำไปซื้อจานกระดาษ ทำเหมือนตอนที่เราเป็นโควิด คือผมเป็นเมื่อเมษาที่ไทย ตอนนั้นมันดูน่ากลัวกว่าตอนนี้ แต่ผมด้วยความเคยชิน เตรียมทุกอย่าง ขับไปซื้อยา เพราะว่าที่นู้นเข้าโรงพยาบาลก็ไม่ได้อย่างแรกมันเต็ม แล้วอาการไม่หนักเขาก็ไม่รับเข้าโรงพยาบาล ต้องไปซื้อยาทานเองตามอาการ ผมก็ไปซื้อพวกจานชาม ทำกับข้าวไปส่งเขา 3 มื้อ ส่งน้ำ ส่งอะไร เอาขยะมาทิ้ง แล้วพอนาตาชา ติดคราวนี้ยุ่งล่ะ" 


โควิดในยุคนั้นยังเป็นเรื่องที่รุนแรงต่อความรู้สึก?

ฟลุค : "สำหรับเราตอนนั้นที่อเมริกาเยอะครับ เคสมันเริ่มพีคขึ้นมาพอดี พอลูกติดมันเป็นอะไรที่กังวลที่สุด ถ้าใครไม่มีลูกอาจจะไม่ทราบ คือเด็กต่ำกว่า 2 ขวบ ไม่มียาอะไรเลย ยกเว้นยาแก้ไข้เท่านั้น หมายถึงว่าลูกมีน้ำมูก ลูกไอ แต่ไม่มียาให้ลูก เรามียาแก้ไอ ยาลดน้ำมูกของเรา อยากให้มากเลย ทำไงละลายน้ำให้เจือจางได้ไหม แต่ลีเขาห้ามให้ ทีนี้เราก็ไปหาสมุนไพรเอาไปให้ลูก ซึ่งตอนที่ลูกเป็นอยู่มันน่ากลัว เพราะว่าเราไม่รู้ว่าลูกจะเป็นอะไร หนักแค่ไหน ผมมาช่วยเลี้ยง พี่เลี้ยงเริ่มจะไม่ไหว ลีก็ป่วยอยู่ เราก็แข็งแรงอยู่ถ้าเราเล่นกับลูก ลูกไม่เข้าใจว่าเขาเป็นโควิด เราก็พยายามจะดูแลเขา เรารู้สึกว่าเราต้องอุ้ม ถ้าเราไม่อุ้ม เขาจะจ่อย เราก็เลยอุ้ม ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันมีสิทธิ์ แต่เราก็ป้องกันตัวเอง" 


ตอนนั้นคิดว่าเรามีโอกาสติดจากลูกได้เหมือนกัน?

ฟลุค : "คิดอยู่แล้ว แต่ว่าความรักลูกมันมากกว่าความกลัว" 

 

ฟลุค เกริกพล พาครอบครัวไปอเมริกา ผิดแผนต้องอยู่นาน 5 เดือน หมดเงิน 5-6 ล้าน

คุณพี่ฟลุครอดจากล็อตนั้นด้วย?

ฟลุค : "ผมไม่ติดจริงๆ โชคดีที่บ้านมันใหญ่พอ ฝั่งนึงน้องลีกับพี่เลี้ยง เราจะหนีออกจากบ้านเพื่อไปปกป้องตัวเอง ก็ไม่มีใครดูแลเขาอีกก็ต้องมาส่งข้าว ส่งน้ำอยู่ดี ตัดสินใจว่าอยู่บ้านเดียวกันแหละ ไม่เป็นไร"


เกือบไม่ถึงครึงเเดือนที่เป็น แต่เที่ยวกระจาย 5 เดือนเลย?

ฟลุค : "คือเราไม่สามารถฉีดวัคซีนให้ลูกได้ มันไม่มีวัคซีนเด็ก เราก็เลยรู้สึกว่าถ้าจะเที่ยวก็คือช่วงนี้คุณพ่อของน้องลีโทรมาบอกว่าต้องพานาตาชาไปเที่ยวแล้ว เราก็คิดว่าหรือมันจะเป็นดวง ว่าเขาอยากจะเป็นโดยที่อาการไม่หนัก เพื่อจะได้ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง เพราะก่อนหน้านี้นาตาชาได้ไปแค่สวนสาธารณะของหมู่บ้าน พอหลังเป็นปุ๊บเราก็ไปเลย ดิสนีย์ไม่ต้องพูดถึงไปทุกอาทิตย์เลย" 


เขาซื้อบัตรรายปีของดิสนีย์?

ฟลุค : "คือเราไปครั้งแรกเหมือนคนปกติ เราต้องไปให้คุ้ม เพราะบัตรมันแพง ร้อยกว่าเหรียญ แล้วไปกัน 3 คน แต่น้องฟรีนะ ตีเป็นเงินไทยราวๆ คนละ 4,500 บาท แล้วมันมีค่าจอดรถ ค่าอะไรอีกเต็มไปหมด คนนึงตีเฉลี่ย 200 เหรียญ" 


รายปีล่ะ?

ฟลุค : "รายปีแค่ 3 วันครึ่งก็เจ๊าแล้วครับ วันแรกที่เราไป ผมเห็นอาการความเหนื่อยของน้อง เห็นความไม่ไหวแล้วของพี่เลี้ยง เห็นความไม่ไหวแล้วของน้องลี ก็รู้สึกยังไงดีที่ทำให้เราเที่ยวโดยไม่รู้สึกว่าการเงินเป็นปัญหา เราก็เลยดูสิว่ารายปีมันเท่าไหร่ พอมันเท่านี้ปุ๊บ เราก็จองล่วงหน้าได้ หลังจากนั้นเรามาหลังกินข้าวเที่ยง มาเดินเล่น 3-4 ชม.พอเหนื่อยกลับ มาใหม่" 


เป็นครั้งแรกนะที่เขาบอกการเงินเป็นปัญหา?

ฟลุค : "3 คนมัน 21,000 ไม่รวมค่าน้ำมัน ค่าอะไร ไปเที่ยวดิสนีย์ครั้งนึงคือ 30,000 ถ้าเราไป 2 ชม.ต้องใช้คำว่ามึงบ้าหรือเปล่า แต่พอเราซื้อรายปีปุ๊บ ไปมาทั้งหมด 12 ครั้ง เท่ากับไปครั้งนึงแค่พันกว่าบาท 3 คน 3 พัน" 

 

ฟลุค เกริกพล พาครอบครัวไปอเมริกา ผิดแผนต้องอยู่นาน 5 เดือน หมดเงิน 5-6 ล้าน


คุณคิดอะไรมากกว่ากันระหว่างจ่ายค่าไวท์กับซื้อตั๋ว?

ฟลุค : "ก็คิดครั้งนึงเหมือนกันว่าซื้อรายปีก็แค่ไวท์ขวดเดียว คือทุกครั้งเวลาผมจะซื้ออะไรที่มันรู้สึกว่าแพง ผมจะย้อนกลับไปแล้วคิดว่าถ้าเราเปิดไวท์ขวดนึงกินได้ เราก็ต้องทำได้ ซึ่งตอนนี้ยังเป็นสมาชิกอยู่ รายปียังไม่ครบ สมมติถ้ากลับไปก็ยังไปได้อยู่"


ไปอยู่ 5 เดือน จ่ายไป 5-6 ล้านคืออะไร?

ฟลุค : "ตอนไปอยู่อเมริกา เราตั้งใจจะไปอยู่แค่เดือนครึ่งก่อน พอติดโควิดปุ๊บก็ทำให้ไปหาคุณยายไม่ทันอย่างแรกเราต้องเลื่อนไฟลท์ก่อน เลื่อนปั๊บมาก็ข้ามไปหลังปีใหม่พอสมควร ไม่งั้นมันไม่คุ้มที่เราจะเลื่อน ก็เลื่อนไปเกือบเดือน พอเลื่อนไป ทีแรกที่เราตั้งใจว่าเราเช่ารถอย่างเดียว อยู่ที่วันละร้อยต้นๆ แต่ว่าค่าประกันของรถมันจะมี เราไม่ได้คิดว่าจะทำประกันรายปี เพราะเราคิดว่าอยู่หลักเดือน มันไม่คุ้ม เราก็เลยทำรายวันกับบริษัทรถ มันคิดอยู่ที่ 40% ของราคารถผมเลยโดนค่ารถเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 200 ต่อวัน อยู่มา 5 เดือนกว่า" 


ค่ารถอย่างเดียววันละ 7,000?

ฟลุค : "ถ้าเราไม่เช่ารถ เดินทางไปแค่ลงเขาเพื่อกินข้าว ซื้อกลับมาประมาณจะ 100 เหรียญแล้ว คือถ้าเรารู้ว่าอยู่ 5 เดือน เราซื้อรถแน่นอน" 


เดือนละ 2 แสนกว่าบาทแค่ค่ารถ?

ฟลุค : "ค่าเช่าไม่รวนน้ำมัน แต่ถ้ารู้แบบนี้ยังไงก็ซื้อ ไม่ขาดทุนแน่นอน" 


เบบี๋เลี้ยงง่ายไหม?

ฟลุค : "ตอนเป็นเบบี๋เลี้ยงง่ายที่สุด ยิ้มง่าย จนมีฉายาว่าน้องยิ้มหวาน"


นาตาชาเขาเติมเต็มชีวิตเราขนาดไหน?

ฟลุค : "การที่เรามีลูกชายเรารู้สึกภูมิใจ เราอยากให้เค้าได้ดี มองว่าลูกชายเหมือนเพื่อนเราที่โตขึ้นเป็นคนที่เราสนิทมากที่สุด แต่พอเป็นลูกสาวมันเป็นอีกเรื่องเลยมันไม่เหมือนกันซักนิดเลย ความรู้สึกไม่เหมือนกันเลย ลูกสาวต้องดูแลเหมือนเจ้าหญิง อ่อนโยน เวลาคุยกับลูกพี่ใช้เสียง 7-8-9 เลย"


แล้วอชิบินตามไปหาเหรอ?

ฟลุค : "อชิบินตามไปเมื่อตอน 4 เดือนกว่าที่เราอยู่ไปแล้ว" 


คุณพี่กับคุณน้องเป็นไงบ้าง?

ฟลุค : "เขาไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เพราะเราอยู่คนละบ้านกัน แรกๆ ที่น้องเกิดมาก็โควิด มันเป็นจังหวะที่แรกๆ ผมเป็น สักพักเป็นช่วงที่น่ากลัวมาก แล้วอชิเป็น ต้องรออชิหายก่อนถึงจะมาเจอกันได้ แทบจะมาอเมริกาแล้ว" 

 

ฟลุค เกริกพล พาครอบครัวไปอเมริกา ผิดแผนต้องอยู่นาน 5 เดือน หมดเงิน 5-6 ล้าน


อชิมีความเป็นพี่ชายไหม?

ฟลุค : "ก็มีนะ เพราะว่าเขาห่างจากน้องเยอะมาก แล้วเขาเป็นคนที่ทางญาติแม่คุณโบเขามีน้องเยอะ มีหลานๆ อชิก็เป็นคนที่อุ้มน้องๆ เยอะอยู่แล้ว คือน้องดี๊ด้ามากเวลาพี่ชิอุ้มเหมือนรู้ คนอื่นเขาจะใช้เวลาอาทิตย์นึงบ้าง 2-3 วันบ้าง หรือ 3-4 ชม.บ้างที่จะยอมรับให้คนนั้นอุ้ม แต่พี่ชิคือทุกครั้งเขาจะยอมเลย" 


ส่วนใหญ่เขาอยู่กัน 2 คนเขาทำอะไรกัน?

ฟลุค : "ส่วนใหญ่เวลาที่น้องนาตาชากับอชิตื่นไม่ค่อยตรงกัน อชิใช้เวลาเหมือนคนกลางคืน จะเล่นเกมถึงช่วงเช้าแรกๆ มาใช้เวลาปกติ" 


มีห้ามไหม?

ฟลุค : "พยายามห้ามอยู่ แต่เขาก็ทำการบ้านของเขาได้ เราก็ถือว่าถ้าเขาทำการบ้านได้ เรียนหนังสือได้ก็เรื่องของเขาเวลาเราบอกว่าจะไปไหน เขาก็ตื่นได้  ดังนั้นถ้าเขารับผิดชอบในส่วนที่เขาต้องทำได้ผมรู้สึกว่าจะนอนกี่โมงก็เรื่องของเขา " 


น้องอชิ อายุ 19 แล้วมีแฟนหรือยัง?

ฟลุค : "เขาไม่บอกว่าเขามี เขาบอกมีคนคุย แต่เขาก็ยังไม่เคยพาใครมาให้เจอเลย" 


เขาเคยมาปรึกษาเรื่องความรักกับเราไหม?

ฟลุค : "ไม่มีเลย จริงๆ อายุเขามันต้องอยู่ในวัย แต่มันเหมือนกับว่าอาจจะเป็นเด็กสมัยนี้ หรือเป็นที่อชิผมก็ไม่รู้ เขาสนใจในโลกของเขามากกว่า เขาก็เล่นเกมของเขา ไปตีกอล์ฟกับเพื่อน ไปรู้จากเพื่อนเขาว่าชิชอบหมวยๆ "

 

หน้าตา น่ารักจัง เข้าวงการไหม?

ฟลุค : "เขาขี้อายอะครับ ถ่ายรูปนี่นานๆ ทีจะยอมถ่าย ยิ่งถ่ายวีดิโอด้วยกันเขาจะเขินๆ แล้วจะได้สั้นๆ ไม่ค่อยยอมเท่าไหร่ แต่ก็น่าจะเป็นไปได้บ้างนะ" 


มีมาสายพ่อบ้างไหม มีเลือดความเป็นศิลปิน นักแสดงแบบพ่อไหม?

ฟลุค : "น่าจะไม่ คือเขาขี้อายกว่า เขาเลือกที่จะเรียนออนไลน์ที่อเมริกา พอจบที่นี่เราก็อยากให้เขาเรียนต่อที่นี่ เรียนอินเตอร์อะไรก็ว่าไป แต่เขาบอกว่ามันไม่มีสาขาที่เขาอยากเรียนในประเทศไทย งั้นชิจะไปเรียนอเมริกา ผลปรากฏว่าตอนนั้นโควิดเยอะ สุดท้ายเขาก็เลยเลือกจะไปเรียนออนไลน์ที่อเมริกา แต่อยู่เมืองไทย "


เขาสนใจเรียนเป็นเบื้องหลัง?

ฟลุค : "ผมก็ไม่เข้าใจ" 


ถ้าเลือกได้อยากให้ลูกทั้ง 2 ทำงานอะไร?

ฟลุค : "ผมอยากให้อชิเข้าวงการมานานแล้ว เพราะรู้สึกว่าการเข้าวงการ ได้เรียนรู้การรับผิดชอบในสิ่งที่เร็วกว่าคนอื่นถ้าสมมติรอเขาเรียนจบแล้วค่อยไปทำงาน ประสบการณ์ในการทำงานเนี่ยมันช้ากว่าคนที่อยู่ในวงการบันเทิงตั้งแต่เด็กๆ เรื่องเงินมันไม่ใช่สาระสำคัญเท่ากับการรู้จักที่จะต้องอดทน สมมติว่ามาเข้าฉากเล่นละคร แล้วต้องมานั่งรอ หรือว่าร้อนก็ต้องรอ ยุงกัดก็ต้องรอ อาหารไม่อร่อยก็ต้องทนกิน อยากให้เขาเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ ซึ่งยังไม่มี"

 

 

ขอบคุณรายการ คุยแซ่บShow