เจ้าของคอกม้า ยอมเปิดปากแล้ว ปมโดนโยงเป็นสถานที่ใช้ทำร้าย แตงโม นิดา

เวลาผ่านมา 3 เดือนกว่าแล้ว สำหรับการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา จากเหตุการณ์ตกเรือสปีดโบ๊ทปริศนา ซึ่ง ณ ปัจจุบันชาวเน็ตยังคงผุดข้อสงสัยต่างๆถึงสาเหตุการเสียชีวิตของแตงโม โดยล่าสุดได้มีชาวเน็ตรายหนึ่งตั้งข้อสงสัยภาพที่กู้ภัยเจอร่างแตงโม อยู่กลางแม่น้ำ แล้วจังหวะที่กำลังดึงร่างขึ้นมาบนเรือ ก็ตาดีเห็นว่าเชือกดังกล่าวมีการผูกมัดปมแน่นมาก เหมือนมีการเตรียมการไว้อย่างดีแล้ว จึงมีคำถามไปยังกู้ภัยว่าเชือกดังกล่าวนั้นถูกเตรียมไว้เพื่อการนี้หรือเป็นเชือกจากไหนกันแน่

เมื่อเรื่องดังกล่าวนี้เผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาวิเคราะห์กันเป็นจำนวนมาก ว่าทำไมลักษณะการผูกเชือกถึงละม้ายคล้ายกับสายจูงม้า นอกจากนี้ชาวเน็ตยังได้ชี้พิกัดว่า บริเวณอู่เก็บเรือแห่งหนึ่งมีคอกม้าอยู่ภายในจริงๆ พร้อมกับนำรูปดังกล่าวมาเผยแพร่ 

ล่าสุดทางด้าน นายปฏิการ มุขตารี เจ้าของคอกม้าและเป็นผู้ดูแลแลมป์เรือแห่งหนึ่ง ได้เปิดใจถึงกรณีดังกล่าวผ่าน รายการทุบโต๊ะข่าว ให้ข้อมูลระบุว่า คืนวันที่ 25 ก.พ. 65 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 26 ก.พ. 65 เวลา 01.30 น. ได้รับการประสานจากกู้ภัย ขอใช้พื้นที่ขึ้นลงเรือเพื่อตามหาแตงโม หลังจากเจอร่างเเตงโมในวันที่ 26 ก.พ. ทั้งหมดก็เก็บอุปกรณ์ เเละถอนกำลังออกจากพื้นที่ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีเเตงโม ส่วนเสี่ยสมพงษ์ซึ่งเป็นผู้เจอร่างเป็นคนเเรก เป็นเพียงลูกค้าที่มาเช่าพื้นที่จอดเรือ ไม่ได้เป็นเจ้าของเเลมป์ตามที่ถูกกล่าวหา

ส่วนเรื่องภาพเรือของเสี่ยสมพงษ์ทที่ขณะนี้จอดอยู่ที่ท่าเรือ ริเวอร์เดล จ.ปทุมธานี โดนโยงกับภาพถ่ายของเเตงโม ที่มีฉากหลังเป็นท่าเรือดังกล่าว ขอยืนยันว่าภาพดังกล่าว คือวันที่ 28 ก.พ. เสี่ยสมพงษ์ได้ขับเรือไปที่ท่าเรือริเวอร์เดล เพื่อสัมนาทางธุรกิจ ซึ่งมีตนเองเเละเพื่อนรวม 4 คน เดินทางไปด้วย ได้ออกเดินทางจากเเลมป์ในเวลาประมาณ 15.30-16.00 น. เดินทางถึงท่าเรือริเวอร์เดล ปทุมธานี เวลา 17.00 น. และเดินทางกลับในเวลา 18.30 น. ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดีเเตงโม เพราะเป็นคนละวันกัน

อยากฝากถึงชาวเน็ตให้เเสดงความคิดเห็นอยู่ในพื้นฐานของข้อเท็จจริง อย่ากล่าวหาเกินขอบเขต เพราะตอนนี้นอกจากกล่าวหาเเลมป์เรือเเล้ว ยังโยงไปถึงคอกม้าที่อยู่ข้างเเลมป์เรือ ซึ่งเป็นคอกม้าของตนเอง กล่าวหาว่าเป็นสถานที่ฆาตกรรมนักแสดงสาว ซึ่งไม่เป็นความจริง ทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน หากใครกล่าวหาก็จะให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาดำเนินคดีต่อไป