- 24 ก.ค. 2565
เอ็ม บุษราคัม เล่าย้อนวีรกรรม เคยโดดเรียน - เหลิงว่าพ่อรวย อยากเข้าวงไฮโซ ติดเที่ยว ติดหนี้บัตรเกือบครึ่งล้าน
เอ็ม บุษราคัม เล่าย้อนวีรกรรม เคยเหลิงพ่อรวย จนติดหนี้บัตรเกือบครึ่งล้าน มีเรื่องราวพีคๆ มาเล่าให้ฟังอยู่เป็นประจำจริงๆ สำหรับครอบครัว วงษ์คําเหลา ที่ล่าสุด หม่ำ จ๊กมก หรือ เพชรทาย วงษ์คําเหลา ได้ควงคู่ลูกสาวอย่าง เอ็ม บุษราคัม วงษ์คำเหลา มาพูดคุยกับ อาวิทวัจน์ สุนทรวิเนตร์ ในรายการ ตีสิบเดย์
โดยกว่า สองพ่อลูกคนดังจะมีครอบครัวที่อบอุ่นมีลูก มีหลานให้ตาหม่ำได้อุ้มเล่น อย่างที่เห็นผ่านหน้าจอนี้ เอ็ม บุษราคัม บอกจากปากเลยว่าท สมัยก่อนนั้นดื้อและเกเรมาก ถึงขั้นเคยโดดเรียนเพื่อไปดูหนัง อีกทั้งยังเคยติดหนี้บัตรเครดิตอีกเกือบครึ่งแสน
หากย้อนวันวานไปเมื่อ 30 ปีกว่าที่แล้ว หม่ำ - เอ็ม เคยมาออกในรายการตีสิบไปแล้วหนึ่งครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ที่สองพ่อลูกซุปตาร์ได้มาร่วมพูดคุย และคราวนี้ก็ได้มาร่วมพูดคุยล้วงลึกครอบครัวตลกที่ไม่ตลกอย่างที่คิด หม่ำ - เอ็มออกรายการตีสิบ
เอ็ม บุษราคัม เริ่มเล่าย้อนวีรกรรมสมัยเรียนมีมากมาย ตอนเรียนชั้น ม.5 เคยโดดเรียนไปดูหนังกับเพื่อน เพื่อนในห้องโดดเรียนกันหลายคน และมีครู โทร. ไปบอกที่บ้าน จากนั้นพ่อ โทร. มาด่าแบบระเบิดลงเลย ตอนเรากำลังดูหนังซึ้งๆ อยู่ กลับบ้านไปพ่อลงโทษด้วยการสั่งให้คัดลายมือ
"การลงโทษของพ่อเหมือนเด็ก เอ็มอยู่ ม.5 แล้ว แต่พ่อยังใช้วิธีลงโทษวิธีเดียวกับน้อง เลยตัดสินใจเขียนจดหมายเล่าความในใจในมุมของเราบ้าง อยากให้พ่อเข้าใจเพราะพ่อก็เคยเป็นวัยรุ่น แต่กลับไม่ได้ผลเพราะพ่อไม่เข้าใจเหมือนเดิม" เธอเล่าย้อนเรื่องราวสมัยเด็ก
ด้าน หม่ำ จ๊กมก ผู้เป็นพ่อได้กล่าวในมุมของตัวเองว่า ถ้ามีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง อีกอย่างเอ็มเป็นลูกผู้หญิง พ่อก็ต้องคิดสิว่าโดดเรียนไปไหน ไปกับใคร เพื่อนผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชาย เอ็มลูกสาวหม่ำ
ก่อนที่ เอ็ม จะยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ไม่คุยกับพ่อเป็นเดือน ด้วยความที่มีนิสัยเหมือนกันคือ เวลาโกรธจะเงียบ ไม่พูด พอไม่พูดทั้งคู่ก็ไม่มีใครเริ่มก่อนสักที แม่พยายามเป็นกาวใจให้ จนแม่ก็ท้อเหมือนกัน
กระทั่งวันหนึ่ง มีรายการมาติดต่อให้พ่อไดรฟ์กอล์ฟสอนลูกสาว เหมือนพรหมลิขิตกำหนดว่าต้องกลับมาคุยกันได้แล้ว พ่อ-ลูกสวมวิญญาณนักแสดงคุยกันในรายการ จากนั้นเราก็เลยตามเลย คุยกันไปเลย และไม่พูดย้อนเรื่องนั้นขึ้นมาอีก เหมือนกลัวเสียฟอร์มทั้งคู่
หม่ำยอมรับว่า ความจริงอยากคุยกับลูก แต่ต้องทำใจแข็งไว้ "นี่พ่อนะเว้ย..." ซึ่ง ดาวตลกเมืองไทยยังได้ยอมรับอีกว่า มีช่วงเวลาที่เคยหนักใจเรื่องลูกสาวมากๆ เครียดมากจนนอนไม่หลับ เป็นช่วงที่เอ็มกลับมาจากเรียนเมืองนอก
เอ็ม เสริมต่อทันทีว่า ตอนกลับจากเมืองนอก เหลิงมาก รู้สึกเหลิงว่าพ่อเรารวย มีเงิน เราอยากมีเพื่อนไฮโซ อยากใช้ชีวิตในกลุ่มแบบนั้นบ้าง เราออกเที่ยวทุกวัน กลับบ้านเช้า นอนตื่นอีกทีก็เที่ยง เราพยายามเป็นสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็น
"ตอนนั้นรูดใช้ซื้อของแบบไม่คิด ไม่มีเงินก็รูดกดเงินสดออกมา ตอนนั้นทำงานโรงลาบ เป็นร้านอาหารของพ่อ วันไหนบอกเพื่อนว่าไม่ไป วันนี้ไม่มีเงิน ไม่มีใครเชื่อเลย เขาจะพูดว่า เห้ย ! ลูกหม่ำไม่มีเงินได้ไง มาเหอะๆ ชีวิตวนลูปไปเรื่อยๆ แบบนี้" เอ็ม ลูกสาวหม่ำนึกถึงวีรกรรมวัยเด็ก
ขณะที่ หม่ำ บอกว่าตอนนั้นพูดกับลูกสั้นๆ เลยว่า วันหนึ่งที่เอ็มมีครอบครัว เอ็มจะนึกถึงเงินเหล่านี้ ซึ่งเอ็มยอมรับว่าจริง รู้สึกเสียดายเงิน ครั้งหนึ่งเคย โทร. ไปหาผู้จัดการพ่อ บอกว่ามีเรื่องด่วนจะคุยกับป๊ะป๋า ก่อนจะบอกพ่อว่า เอ็มติดหนี้บัตรเครดิต 4 แสนกว่าบาท พ่อช่วยจ่ายให้ก่อนได้ไหม แล้วเอ็มจะไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนี้อีกแล้ว
"ตอนนั้นพ่อตอบกลับมาว่า 'เออ ๆ เดี๋ยวโอนให้' แต่ก่อนจะวางสายพ่อพูดว่า 'เดี๋ยวเรามีเรื่องต้องคุยกัน' เอ็มคิดว่าต้องโดนด่าแน่เลย เราเตรียมใจรอโดนด่ามาหลายครั้ง บางทีพ่อชวนไปไหนด้วย เราคิดว่าวันนี้ต้องโดนด่าแน่ แต่สุดท้ายก็ไม่ด่า จนถึงตอนนี้ผ่านมาเป็นปีแล้วก็ยังไม่ด่า เอ็มอยู่แบบระแวงอยากให้พ่อด่าสักที จนบัดนี้ยังไม่ได้ยินคำด่านั้นเลย
ก่อนที่ ตาหม่ำ จะให้เหตุผลทิ้งท้ายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เงิน 4 แสนบาท ไม่ใช่น้อยๆ ตอนนั้นเอ็มอายุ 23 - 24 ปีแล้ว ถ้ายังคิดไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ที่ไม่ด่าเพราะเห็นแล้วว่าลูกสาวสำนึกผิดแล้ว
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline