- 18 ส.ค. 2565
มาดามแพม ช่างแต่งหน้าชื่อดัง ไลฟ์ด่า น้ำตาล ชลิตา นางงามคนดังสวนเดือด ขอบุกบ้านเคลียร์ ก่อนสามีมาดามแพมโพสต์ชี้แจง
ช่างแต่งหน้าชื่อดัง ไลฟ์ด่า น้ำตาล ชลิตา นางงามคนดัง ขอบุกบ้านเคลียร์ ฮอตร้อนฉ่ายิ่งกว่าอากาศเมืองไทยวันนี้เห็นทีจะเป็นดราม่าแซ่บๆ ของ มาดามแพม ช่างแต่งหน้าและบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังในวงการกับ น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 ที่ปะทุมาจากการที่เจอกันในงานแล้วไม่ไหว้ ทำเป็นเมินใส่ จนต่างฝ่ายต่างออกมาโต้กันดุเดือดกลายเป็นกรณีวิวาทะร้อนแรง
โดยทั้งนี้ เรื่องราวเริ่มมาจากการที่ "มาดามแพม" ได้ตั้งสเตตัสในเฟซบุ๊กว่า "วันนี้มาออกทีวี เจอนางงาม Top 6 ระดับโลกเขารู้จัก ทำเป็นไม่รู้จัก ชีวิตมาดามแพมน่าสงสาร" จากนั้น มาดามแพม ก็ออกมาไลฟ์บนเฟซบุ๊กว่า ตนไปออกงานหนึ่ง และได้เจอกับน้ำตาล ตนชอบน้ำตาลมาก ในห้องนั้นมีคน 4-5 คน ตอนแรกมีคนมาถ่ายรูปกับตน ตนก็ถ่ายรูปไป แต่พอถ่ายรูปเสร็จตนวิ่งไปหาน้ำตาล แต่น้ำตาลทำเป็นเมินไม่คุยด้วย ทำให้รู้สึกเหมือนตนหน้าแตก
พร้อมทั้งระบุต่อว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหากัน ตนซัพพอร์ทน้ำตาล ถ้าเจอกันมาดามแพมจะวิ่งไปหาน้ำตาลก่อน แต่น้ำตาลไม่เคยวิ่งมาหา ตนรักมาก หมดเท่าไรก็เท่ากัน พอเป็นแบบนี้ตนรู้สึกว่าเขาไม่อยากยุ่งกับเรา ให้ใจเขาไปเยอะ และผู้จัดการของน้ำตาลก็ออกมาบอกว่า จริงๆ แล้วน้ำตาลไหว้มาดามแพมแล้ว แต่มาดามแพมไม่เห็นว่าไหว้ไปแล้ว
มาดามแพม พรั่งพรูต่อไปว่า ตนไม่ใช่บิวตี้บล็อกเกอร์คนดัง ยอมรับว่า "เ-ือก" ไปหาเขาเอง ตนไม่ได้ต้องการหาแสง พอเจอแบบนี้ก็เลยไปโพสต์ในเพจว่าคนเคยร่วมงาน กลับทำเหมือนไม่รู้จักกัน อารมณ์เหมือนโดนผัวทิ้ง ตนเข้าใจว่าน้ำตาลงานเยอะ แต่ตนไม่ดัง ไม่มีงานทำ เจอแบบนี้ก็เสียใจ ตนไม่ได้ทำตัวเป็นศูนย์กลาง ตนไม่ได้โกรธหรือเกลียด ไม่ได้ตำหนิ ในวงการนางงามตนทุ่มเทอย่างมาก
"เสียเงินไปเป็นล้าน เจอแบบนี้เลยน้อยใจ ผิดเองที่วิ่งไปหาเขาแล้วเขาไม่สนใจ ตนไม่ใช่ดารารุ่นเก่าที่บอกว่าเด็กต้องเข้าหาผู้ใหญ่ แต่ทำแบบนี้ก็ไม่ใช่ ขนาด วิชญ์ สามีของแพมยังคิดว่า แพมไปทำอะไรให้น้ำตาลโกรธหรือเปล่า ตนไม่ได้เกลียดน้อง ถ้าเกลียดคงบอกว่า "มึ..อย่าเพิ่งตาย ..เพิ่งเริ่ม" วันนี้ตนทิ้งเงินแสนไปรับเงินหมื่น ถือว่าเป็นประสบการณ์ และขอให้ทุกคนอย่าไปถล่มน้ำตาล ตนเป็นฝ่ายผิดเองที่วิ่งไปหาเขา" มาดามแพมระบุ
ทว่าหลังจากที่เกิดเรื่อง น้ำตาลก็ได้เข้ามาตอบในไลฟ์มาดามแพมอย่างรัวๆ ว่าเรื่องนี้ขออย่าใส่ไฟ เพราะเธอไม่ทราบจริงๆ ว่าตนไม่ได้ไหว้ตอนไหน น้ำตาลไหว้มาดามแพมแล้ว แต่พอดีโทรศัพท์เข้ามาเป็นสายของผู้ใหญ่โทร. เข้ามาเลยต้องรับ ทีมงานเห็นหมด น้ำตาลไม่ต้องการดราม่า และขอเคลียร์เรื่องนี้กับมาดามแพมโดยตรง แต่ทีมงานโทร. ไปหามาดามแพมแล้วไม่มีคนรับ
อีกทั้งมีช่วงหนึ่งที่น้ำตาลขอที่อยู่เพื่อที่จะไปเคลียร์กับมาดามแพมถึงบ้าน และบอกว่าตอนนี้มาดามแพมกำลังทำลายชื่อเสียงของน้ำตาล มาดามบอกคนอื่นอย่าทำร้ายน้ำตาล แต่เป็นมาดามต่างหากที่ทำร้ายน้ำตาล อย่าหาดราม่ามาให้น้ำตาลเลย และแม้ว่าน้ำตาลจะไปคอมเมนต์ในไลฟ์ของมาดามแพมโดยตรง แต่ปรากฏว่ามาดามแพมไม่ได้อ่านคอมเมนต์น้ำตาลแต่อย่างใด
จากนั้น น้ำตาลได้ออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า ตนไม่แน่ใจจุดประสงค์ในการโพสต์ครั้งนี้ของ มาดามแพม แต่มันทำให้คนอื่นมองน้ำตาลไม่ดี ถ้าน้ำตาลมีปัญหาเรื่องการไหว้คงอยู่ในวงการไม่ได้ ทางบ้านก็สอนเรื่องมารยาท ทีมงานก็เห็น ผู้จัดการก็เห็น แต่ตอนนั้นมีโทรศัพท์ผู้ใหญ่เข้ามาก็ต้องคุยยาว กลับมาก็ไม่เห็นมาดามแพมแล้ว จากนั้นน้ำตาลก็ไปถ่ายรายการต่อ
"ถ่ายรายการเสร็จก็เห็นดราม่า ทีมงานก็โทร. หามาดามแพม แต่มาดามแพมไม่คุย มาดามแพมย้ำเสมอว่าเข้าหาน้ำตาลด้วยความรัก แต่คนรักกันไม่ทำกันแบบนี้ เราก็ไม่ได้สนิทอะไรกัน ครั้งหน้าก่อนโพสต์ก็ขอความจริงด้วย" น้ำตาล ชลิตา ระบุ
พร้อมกันนี้ยังมีคนมาบอกว่ามาดามแพมเป็นโรคซึมเศร้า ให้อภัยมาดามแพมด้วย ซึ่งน้ำตาลบอกว่า ถ้าเป็นซึมเศร้าจริงๆ ก็ไม่น่าทำร้ายคนอื่นแบบนี้ คนเป็นซึมเศร้าเป็นคนหลงๆ ลืมๆ ด้วยหรือ ถามเพื่อความรู้
ต่อมา มาดามแพมได้ออกมาโพสต์ยอมรับผิดว่า ตนคือคนผิด และทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่เอง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางมากเกินไป จนทำให้หลาย ๆ คนเดือดร้อนโดยไม่ได้คิดไตร่ตรองว่าตอนนั้นน้องอาจจะติดธุระอยู่ พร้อมกับขอโทษน้ำตาล ที่ตอนนั้นวิ่งเข้าไปหาตอนกำลังทำงาน แต่ที่ตนวิ่งเข้าไปหาก็เพราะความรัก ตนขอโทษที่ทำให้น้ำตาลไม่สบายใจ ตนจะพิจารณาตัวและปรับปรุงพฤติกรรมของตัวเอง และขอบคุณทุกคอมเมนต์ด้วยที่ช่วยเตือนสติ
ในขณะที่ วิชญ์ สามีมาดามแพมก็บอกว่า ปกติมาดามแพมเป็นคนอ่อนไหว ปากร้ายแต่ใจดี แต่ตั้งแต่ที่มาดามแพมเป็นบุคคลสาธารณะ ก็มักจะสะสมความเครียดเอาไว้ มาดามแพมคิดเสมอว่า ไม่อยากทำให้คนอื่นผิดหวัง ทุกอย่างที่ทำเลยทำแบบเต็มที่ จัดเต็ม และคาดหวังสูงเสมอ จนกระทั่งเป็นความกดดัน ตัดพ้อ อารมณ์แปรปรวน หลายครั้งก็ทำร้ายตัวเอง และไม่อยากอยู่บนโลกนี้
มาดามแพมพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองเสมอ แต่ในขณะเดียวกัน ก็เหมือนเป็นคนที่แบกระเบิดเวลาเอาไว้ มีอะไรมากระทบนิดเดียวก็พร้อมโครมคราม จนในที่สุด มาดามแพมก็ไปหาจิตแพทย์ และทราบว่ามาดามแพมเป็นซึมเศร้า และเวลาที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเศร้า อีกฝ่ายจะเศร้าไปด้วย
หลายคนบอกว่าให้มาดามแพมไปหาหมอ แต่จะบอกว่าตอนนี้มาดามแพมได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง แม้ตอนแรกจะไม่ยอม ตนและมาดามแพมได้อ่านคอมเมนต์ทั้งหมดแล้ว และตัดสินใจว่าในอีก 3-4 วัน จะกลับไปหาจิตแพทย์อีกครั้ง เพื่อที่ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ใช้อารมณ์และสื่อไปพาดพิงใครอีก ให้มาดามแพมเป็นคนที่อารมณ์ดี เข้มแข็งและมีเหตุผลเป็นผู้ใหญ่เหมือนเดิม
"โปรดให้อภัยในความใจร้อนขาดสติของเมียผม โปรดให้อภัยที่ผมยุยงให้เมียโพสต์และไลฟ์สดโดยปราศจากการยั้งคิด โปรดให้อภัยกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งเจตนาและไม่เจตนาครับ เมียผมสำนึกผิด และจะปรับปรุงแก้ไข โดยเริ่มจากการไปพบจิตแพทย์เพื่อได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุดครับ
และอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกจากหัวใจ โปรดอย่าสงสารผม ที่ผมอยู่กับเมียที่อารมณ์แปรปรวน แต่โปรดสงสารผมเถอะครับ ถ้าผมต้องใช้ชีวิตที่ไม่มีแพมเดินข้างๆ อีกต่อไป ชีวิตผมคงไม่มีความสุขน่าดู ขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจ ตักเตือน ให้สติ และขอโทษทุกท่านที่ทำให้เดือดร้อนจริงๆ ครับ" สามีมาดามแพมระบุ
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline