- 27 ส.ค. 2565
"แอนนา" ถูกหลายคนจับตามองอย่างหนัก รวยเร็วเกินไปไหม? ก่อนโดนตั้งคำถาม...เอาเงินมาจากไหน? หลังเปิดตัวแบรนด์สินค้าสุดอลังการ
เรียกได้ว่ามีกระแสดราม่าผ่านโลกออนไลน์หลายต่อหลายครั้งเลยทีเดียว สำหรับ แอนนา ซึ่ง แอนนา ก็ถูกจับตามองถึงเรื่องสถานะทางการเงิน และล่าสุดได้เผยกับสื่อมวลชนในงานเปิดตัวแบรนด์ โปรตีน U TIARA ที่เปิดตัวไปอย่างสุดอลังการ
นักข่าว : ถามถึงธุรกิจนี้ บางคนมองว่าเราเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ วันนี้เปิดตัวยิ่งใหญ่มาก ?
แอนนา : "คือพี่ หนูขายของมาปีกว่าแล้วอะ ทำงานมาก็เก็บเงินมาโดยตลอด ถ้าสังเกตจะรู้ว่าแอนนาขายของไลฟ์สดวันนึงประมาณ 4-5 ครั้ง คนดูต่อครั้งคือ 3,000-5,000 คน เราทำงานตลอดระยะเวลาขายของคือปีนึงเต็มๆ นะคะ ดังนั้นเราก็เก็บเงิน ก่อนหน้านี้เราไปซื้อแบรนด์อื่นมาขาย แต่รู้สึกว่าบางอย่างเราก็ได้ไม่ตรงสเปค บางอย่างเราก็ได้ในแบบที่ไม่ชอบ บางอย่างก็ขายเพราะได้กระแส ซึ่งเราคิดว่าเราควรจะขายของที่มีแต่คุณภาพได้แล้ว ก็เลยคิดว่าควรจะทำอะไรที่มันดีออกมาค่ะ"
นักข่าว : ข่าวที่เกิดขึ้นมีผลต่อความน่าเชื่อถือของเราไหม ?
แอนนา : "ข่าวที่เกิดขึ้นแอนนาว่าถ้ามันมีปัญหา แอนนาคงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว แอนนาคงยืนอยู่อีกที่หนึ่งที่ทุกคนไม่สามารถประกันตัว หรือดูแลแอนนาได้ เข้าใจใช่ไหมคะ ตรงนี้ต้องบอกก่อนว่าข่าวเรื่องคดีมันอยู่ระหว่างการสอบสวน ใกล้ที่จะจบลงแล้ว แต่คนก็หาว่าเมื่อไหร่จะโดนจับ จะติดคุก คือเราว่าถ้าเราผิดขนาดนั้น เราคงไม่ยืนอยู่ตรงนี้แล้วนะคะ"
นักข่าว : ลงทุนเยอะไหมกับธุรกิจครั้งนี้ ?
แอนนา : "ทั้ง 2 แบรนด์ใช่ไหมคะ ไม่เยอะค่ะ โรงงานยื่นข้อเสนอดีๆ ให้เราเยอะ เอาง่ายๆ เลย คือเราเครดิตได้ค่ะ ส่วนค่าตัวพรีเซนเตอร์ ไม่สูงค่ะ ถ้าเทียบกับการที่ต้องจ่าย แอนนาจ่ายเป็นงวด ค่าตัวพรีเซนเตอร์แบ่งเป็น 3 งวด ไม่ใช่จ่ายก้อนเดียวตู้มเลย เลยไม่ได้สูง"
นักข่าว : 8 หลักถึงไหม ?
แอนนา : "ไม่ถึง แต่ก็ไม่ต่ำ ไม่น้อย ก็เทหมดหน้าตักนะ คือกระเป๋าแบรนด์เนมก็ไม่เหลือเลย ขายหมด มาลงทำธุรกิจ เพราะคิดว่ายังไงธุรกิจก็ต่อยอดตัวเองได้"
นักข่าว : เราคาดหวังแค่ไหน ?
แอนนา : "คาดหวังค่ะ คาดหวังมากๆ เลย เพราะเราทำเต็มที่ ก่อนจะออกมาเป็นสินค้า เราทำหลายอย่าง การบ้านเราเยอะมาก เราเคยรีวิว เราเคยผิดพลาด เราเคยทำหลายๆ อย่างมาแล้วมันไม่ถูกต้อง วันนี้พอเราทำอะไรที่เป็นของตัวเองคนเดียวจริงๆ ก็ต้องทำให้ถูกต้องที่สุด เพราะเราไม่ได้มีเบื้องหลัง ก็ต้องทำตัวเองให้ขาวที่สุด ยิ่งขาวเท่าไหร่ สินค้าเราก็ยิ่งไปได้ไกล"
นักข่าว : กดดันไหมที่คนยังจับตามอง ?
แอนนา : "อุ๊ย ไม่กดดันเลยนะ เพราะสุดท้ายแล้วหลายคนวิจารณ์แอนนานะ แต่หลายคนก็ให้การยอมรับ คือเราเป็นคนที่ต้นทุนต่ำ แอนนาเริ่มจากการเป็นนักข่าวผมสั้น เงินเดือนหมื่นห้า และมาถึงจุดนี้ได้แอนนามาว่ามาไกลมากแล้วนะ ดังนั้นแอนนาไม่มีอะไรจะเสียค่ะ ทำทุกอย่างให้เต็มที่มาตลอด"
นักข่าว : ขยับตัวทำอะไรก็มีแต่ดราม่า เราพร้อมเผชิญใช่ไหม ?
แอนนา : "เราต้องยอมรับว่าความคิดเห็นมันหลากหลาย แต่ในความคิดเห็นที่หลากหลายนั้นก็ต้องเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกันด้วยค่ะ"
นักข่าว : ยืนยันว่าธุรกิจของเราไม่ได้เป็นการขายฝัน ?
แอนนา : "อ๋อ เราไม่มีการมาบอกว่า มาขายกับเราเดี๋ยวคุณจะได้เงินเท่านั้นเท่านี้ ไม่ใช่ เราบอกอย่างเดียวว่า ถ้าคุณขี้เกียจก็ไม่ต้องมา หรือถ้ามาแล้วคิดว่ามีเงินจะซื้อแบรนด์เราไปได้ ก็ไม่เอา เพราะเราต้องการคนขยันมาช่วยทำมาหากิน"
นักข่าว : เห็นบอกอยากจะได้บ้านอีกหลัง คนเลยจับตาว่าทำไมเรารวยจังเลย ?
แอนนา : "โอ๊ย บ้านหลังที่อยู่ปัจจุบันเช่าอยู่ ถ้าเราจะซื้อบ้านสักหลังหนึ่งเพื่ออยู่อาศัยมันไม่แปลก พุดเดิ้ลกู้ผ่านแล้ว ดิฉันก็อยากจะกู้ผ่านบ้าง ก็เท่านั้นเอง"
นักข่าว : รู้สึกว่าเรารวยเร็วไหม ?
แอนนา : "ไม่เร็วนะ ถ้าเทียบกับคนที่ทำงานแบบเราอะ เรารวยน้อยสุดด้วยซ้ำ ไปเทียบได้เลยใครที่มีคนตาม 2-3 ล้าน เรามีน้อยมากเลยนะ เราทำงานวันนึง ขายของออนไลน์ รีวิวสินค้า ทำพิธีกร เราทำเยอะมาก แต่คนบอกทำไมเรารวยจัง ซึ่งเราคิดในใจทำไมคนอื่นเขาอันบล็อกกระเป๋าเป็นสิบใบไม่รวย แต่ในขณะที่เราไม่เคยอันบล็อกกระเป๋าเลย ยังไม่เคยซื้อของเป็นเรื่องเป็นราว แต่ถูกกลับมองว่ารวย เรามองว่าเขามองเห็นเราว่ายังไงเราก็รวยแน่ๆ"
นักข่าว : คนจับตาเรื่องธุรกิจไปด้วย ?
แอนนา : "ก็สามารถตรวจสอบได้ทุกฝ่ายค่ะ เพิ่งไปผ่อนกับสรรพกรหมดเมื่อเดือนก่อน อยากให้ตรวจสอบ อยากให้เช็กบูโรด้วย จะรู้ว่าเป็นหนี้อยู่ ยังไม่ปิดเลย"
นักข่าว : ความฝันสูงสุดในการทำงานหาเงินคืออะไร ?
แอนนา : "อยากมีเงินมากๆ ดูแลพ่อแม่และคนในครอบครัวได้ วันนึงอยากไปถือศีลอยู่ที่ไกลๆ ก็ยังย้ำนะว่าอยากอยู่ที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีคนมาบูลลี่เรา ใช้ชีวิตแบบสัมถะ คราวที่แล้วออกข่าวว่าจะไปอเมริกา อเมริกาไม่ให้ไปแล้วนะ เขาบอกว่าเราจะไปอยู่ไง ตอนนี้ออกนอกประเทศได้ปกติค่ะ แต่ไปอเมริกาไม่ได้ คือเราไปดูไบ มันมีเหตุการณ์ตอนเราอาบน้ำในห้องน้ำหญิง แล้วผู้ชาย 3-4 คนก็วิ่งเข้ามาในห้องน้ำ และบอกเคาะประตูใหญ่โตมาก บอกเรารบกวนอาบน้ำห้องน้ำชาย และเขาก็ล้อมเราพาไปอาบน้ำที่ห้องน้ำชาย หลังจากนั้นเวลาเราจะขึ้นเครื่องก็ดูมีปัญหาไปหมด"
"คือประเทศเขายังไม่ได้เปิดรับเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่ผิดหลักศาสนา เราเข้าใจได้ค่ะ"
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ thainewsonline