- 29 ส.ค. 2565
"โฆษกดีเอสไอ" เผยยังไม่พบ “หยาดทิพย์-สามี” เอี่ยวแชร์ FOREX-3D พร้อมระบุ 31 ส.ค.นี้ ประชุมคืบหน้าแจ้งข้อหาเพิ่มเติมลอต 16 คน หลังไล่เส้นทางเงิน-พฤติกรรม ...
วันที่ 29 ส.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม สืบเนื่องจากกรณีที่คณะธุรกรรม หรือบอร์ด ปปง. มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินเกี่ยวข้องกับคดีแชร์ FOREX-3D (ฟอเร็กซ์ทรีดี)ไว้ชั่วคราว ซึ่งในจำนวนนี้พบว่าเป็นคอนโดฯ เพนท์เฮาส์หรู ในซอยสุขุมวิท มูลค่า 245 ล้านบาท ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้บริหารฟอร์เร็กซ์ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำขณะนี้ และมีการออกมาตั้งข้อสังเกตว่านายรามา รัศมีรามา หรือเมฆ สามีนักแสดงสาว หยาดทิพย์ ราชปาล อาจเกี่ยวข้องกับการรับโอนทรัพย์สินจากนายอภิรักษ์ เนื่องจากหยาดทิพย์มีความสนิทสนมกับ น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือพิ้งกี้ ซึ่งตกเป็นจำเลยคดีแชร์ดังกล่าวนั้น
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ในส่วนการดำเนินการของ ปปง. เนื่องมาจากเรื่องของทรัพย์สินที่แปรสภาพจากการโอนหรือการรับโอน หากทั้งคู่จะให้การอธิบายอย่างไรกับ ปปง. ก็ถือว่าเป็นสิทธิที่กระทำได้ แต่หน้าที่ของดีเอสไอคือดูว่าคดีแชร์ลูกโซ่ฟอเร็กซ์ มีมูลในเรื่องของการฟอกเงินหรือไม่อย่างไรดังนั้น ทรัพย์สินที่ได้จากแชร์ลูกโซ่ไม่ว่าจะมีการโอนรับโอนหรือเปลี่ยนแปลงสภาพไปอย่างไร หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เป็นความผิดโดยมูลฐาน จะต้องไปพิสูจน์ในเรื่องของความผิดของการฟอกเงินก่อน และทรัพย์สินที่ดีเอสไอยึดมาเรียกว่าทรัพย์เกี่ยวข้อง จึงส่งต่อให้ ปปง.ดำเนินการตามกฎหมาย
“แม้หยาดทิพย์จะระบุว่าซื้อคอนโดมาก่อนที่นายอภิรักษ์จะถูกดำเนินคดี ตนขอชี้แจงว่าต้องมีเหตุให้พนักงานสอบสวนไปเข้ายึด เพราะพนักงานสอบสวนจะดูเสมอว่าทรัพย์สินดังกล่าว เป็นทรัพย์ที่เกี่ยวกับมูลฐานความผิดนั้นหรือไม่ ต้องไปดูช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกัน จะฟังเพียงคำชี้แจงไม่ได้” พ.ต.ต.วรณัน กล่าว
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ต.วรณัน กล่าวอีกว่า เบื้องต้นในสำนวนยังไม่ปรากฏข้อมูลว่าทั้งหยาดทิพย์และสามีมีความเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับนายอภิรักษ์ หรือ ฟอเร็กซ์ทรีดี ในแง่ของการระดมทุนหรือการลงทุน และต้องรอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
พ.ต.ต.วรณัน เผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาเพิ่มเติมในส่วนลอต 16 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีชื่อนายพัฒนพล มินทะขิน หรือดีเจแมน กับ น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือ ใบเตย ภรรยา รวมอยู่ด้วยว่าขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังเร่งรัดตรวจสอบโดยเบื้องต้นเมื่อช่วงสักดาห์ที่ผ่านมา ได้รับรายงานว่าพนักงานสอบสวนมีการแยกเป็นกลุ่ม มีการแบ่งงานเพื่อไปติดตามเส้นทางการเงิน และพฤติกรรมต่างๆ ในทางสำนวน เพื่อไปติดตามตรวจสอบความเกี่ยวข้องของบุคคลทั้ง 16 คน เนื่องจากเวลาดำเนินคดีอาญาจะเอาตัวผู้ต้องหาเป็นฐานแล้วจึงไปดูว่ามีพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงความเกี่ยวข้องกับแต่ละคนนั้นอย่างไร โดยทั้ง 16 คน อาจจะถูกแจ้งข้อหาเหมือนกัน แต่เหตุที่ถูกแจ้งข้อหาจะแตกต่างกัน เพราะพฤติการณ์แห่งคดีมีความต่างกัน บางคนอาจรับหน้าที่เป็นโปรแกรมเมอร์ บางคนจัดการการเงิน บางคนติดตามลูกค้า แต่รวมกันแล้วคือลักษณะของการแบ่งหน้าที่กันทำ ถือว่าเป็นลักษณะการทำแบบขบวนการ
พ.ต.ต.วรณัน ยังคงยืนยันว่า ในสำนวนยังไม่มีการระบุว่าดีเจแมนและใบเตยเป็นกรรมการบริษัทแต่อย่างใด ส่วนจะมีพฤติกรรมอย่างอื่นและมีเส้นทางการเงินอย่างไรต้องติดตามตรวจสอบต่อไป เพราะเมื่อมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมแล้ว ดีเอสไอจะต้องอธิบายกับสังคมว่าเหตุใดจึงแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลใด เนื่องจากพบพฤติการณ์ใด ทั้งนี้ ในวันที่31 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมความคืบหน้าคดีว่าจะเรียกบุคคลใดแจ้งข้อกล่าวหาได้บ้าง หรือถ้าหากพนักงานสอบสวนยังต้องแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมก็อาจจะเรียกบุคคลใดมาสอบถามเพิ่มเติมได้
ด้าน ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯ รมว.ยุติธรรม ระบุถึงกรณีของหยาดทิพย์และสามี ว่า ความสนิทระหว่างพิ้งกี้และหยาดทิพย์นั้น ไม่สามารถนำมาชี้ข้อสรุปได้ ต้องไปดูว่าทรัพย์สินดังกล่าวของสามีหยาดทิพย์ มีการซื้อมาอย่างถูกต้องหรือไม่ ซื้ออย่างสุจริตหรือไม่ การซื้อก่อนหรือหลังนายอภิรักษ์ถูกดำเนินคดีนั้นไม่เกี่ยว แต่ต้องไปดูว่า เป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดเมื่อช่วงใด ซึ่งการกระทำความผิดไม่ได้นับจากวันที่ดำเนินคดี แต่นับจากเมื่อเริ่มมีการหลอกลวง
“ดังนั้น คนที่ไปซื้อทรัพย์สินต่อมา ยืนยันว่าต้องดูในส่วนของความถูกต้องว่าซื้อมาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เสียค่าตอบแทนเหมือนการซื้อขายทั่วไปหรือไม่ แต่หากซื้อมาต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็นก็จะเป็นในลักษณะของการฟอกเงินได้” ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าว
อย่างไรก็ตาม ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต ยังกล่าวอีกว่า ในทางสำนวนยังไม่ได้รับรายงานว่า ทั้งคู่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นในลักษณะของนอมินีแต่อย่างใด ย้ำว่าใครก็ตามที่เกี่ยวข้อง ถ้าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดีแชร์ลูกโซ่ดังกล่าวก็มีสิทธิโดนเรียกมาสอบได้ หากสอบแล้วพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องก็จบไป แต่ถ้าสอบแล้วพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะถูกเรียกมาดำเนินคดีหรือจะเป็นการสอบเพื่อเป็นพยาน หรือสอบเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาขึ้นอยู่กับความชัดเจนของการได้มาซึ่งทรัพย์สินนั้นๆ และพยานหลักฐานที่เป็นส่วนของการกระทำความผิด
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ thainewsonline