- 30 ก.ย. 2565
"ปุ้ม ตาวัน" นักร้อง นักแต่งเพลง อดีตสมาชิก วงแมคอินทอช และ วงตาวัน เล่าประสบการณ์ที่พักหลอน สุดสยองหันกล้องไปทางไหนก็เจอแต่ผี ลั่น ที่นี่นอนไม่ได้แล้ว
ปุ้ม พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา หรือ ปุ้ม ตาวัน นักร้อง นักแต่งเพลง อดีตสมาชิก วงแมคอินทอช และ วงตาวัน เล่าประสบการณ์ที่พักสุดหลอน ไปถึงไม่นานกลับเจอเรื่องสยองตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าห้อง และเมื่อลองโทรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก็ต้องรีบออกจากที่นั่นทันที เพราะอย่างไรก็นอนไม่ได้ ในห้องและแทบทั้งบริเวณหันไปทางไหนก็เจอแต่ผี โดยเขาโพสต์เล่าเรื่องไว้ว่า
ศรีภรรยาจองที่พักให้ (ขอสงวนไม่บอกชื่อที่พัก) ภาพและข้อมูลที่เห็นจากเน็ตมีความเป็นศิลปะสวยงามแบบล้านนา เธอคิดว่าผมน่าจะชอบ ราคาไม่สูง เลยจองไว้ให้สองคืน 28 - 29 เพราะเราต้องทำงานวันที่ 29 กลับวันที่ 30 เมื่อเราเดินทางจากเชียงรายมาถึงเชียงใหม่เวลา 17 นาฬิกา เราก็ตรงไปที่พักที่จองไว้ทันที
เมื่อไปถึง พบว่าเป็นบ้านไม้เก่าสีดำดูทรุดโทรมมาก และความรู้สึกแรกที่แว่บขึ้นในหัวคือ นี่มันบ้านร้างชัดๆ บริเวณด้านหน้าที่เป็นส่วนสำนักงานต้อนรับและดูเหมือนกับจะเป็นมินิบาร์เล็กๆ มีเครื่องเสียงวางตั้งอยู่เหมือนมีดนตรีเล่น.. ไม่มีคนอยู่และสกปรกเต็มไปด้วยหยากไย่
พวกเราส่งเสียงร้องเรียก…"สวัสดีครับ จองห้องพักไว้ครับ…" เงียบ…เราส่งเสียงเรียกอีก สองครั้ง สามครั้ง ห้าครั้ง หกครั้ง… ยังคงเงียบ "ฮัลโหล มีใครบ้างครับ ผมจะขโมยลำโพงแล้วนะ…"
เงียบ!
ไม่มีใครออกมาต้อนรับตามวิสัยที่ควรเป็นเราเริ่มสำรวจบริเวณส่วนหน้า เดินดูไปทั่วๆ ก็ไม่เห็นใคร จึงเริ่มเดินเข้าไปด้านในส่วนที่เป็นบ้านพัก
ผมส่งเสียง "สวัสดีครับ…" เงียบ เดินลึกเข้าไปอีก "สวัสดีครับ…" ยังคงเงียบ ผมเริ่มหงุดหงิด และส่งเสียงดังขึ้น ขณะที่เดินเข้าไปด้านในสุด "มีใครอยู่ไหมครับ จองห้องพักไว้" คราวนี้เปล่งพลังชาวร๊อคด้วยความโมโห เพราะมันเริ่มเย็นมากแล้ว "มีใครอยู่ไหมครับ จองห้องพักไว้ !!!!!!!!!" มีผู้ชายคนนึงผอมแห้งดูซูบดำโผล่ออกมาจากห้องชั้นบนด้านในสุด "อ้อ ครับ เชิญๆ"
เขาเดินลงมาชี้ห้องนึง ห้องนี้พักคนเดียว อาจารย์ต่อ ผู้ช่วยที่มากับผมคนนึงถาม "แล้วห้องผมล่ะ?" อ๋อ ชายผู้นั้นขยับร่างออกมาข้างหน้าอีกนิด แล้วชี้มือ "ห้องนั้นครับ อยู่สองคน" จากนั้นก็เดินกลับขึ้นไปข้างบนแล้วเข้าไปในห้องที่ออกมา ไม่มีการต้อนรับ สนทนาตามวิสัยผู้ให้บริการ
ผมคิดในใจ "ห่xx.. อะไรวะ? นี่มันบริการอะไรกัน?"
ผมเข้าไปในห้องที่เป็นห้องสำหรับผม (ดูภาพประกอบ) สิ่งแรกที่เห็นคือกล้วยเน่าหวีหนึ่งบนโต๊ะที่สกปรก ผมกวาดตาไปโดยรอบ พร้อมกับคิดในใจ มันรู้สึกพิลึกมาก เหมือนไม่มีคนมาพักนานมากแล้ว กลิ่นสาปลอยในบรรยากาศ
ผมเดินต่อเข้าไปในห้องน้ำ พบอ่างล้างหน้าที่สกปรก และบนท้อปของอ่างเต็มไปด้วยขี้ดินฝุ่นผงจำนวนมากและตะปูเก่าๆ หนึ่งตัว นี่อะไรกัน ห้องพักที่เปิดขายบริการให้แขกมาพัก เห็นชัดว่าไม่ทำความสะอาดมาแรมเดือนแล้ว
เมื่อชะโงกมองเข้าไปในอ่างอาบน้ำก็ยิ่งสกปรกหนักกว่า ที่ผนังด้านปลายอ่างอาบน้ำเต็มไปด้วยฝุ่นผงที่ควรจะเรียกว่าขี้ดิน กระจายอยู่ทั่ว ผมเริ่มถ่ายรูปทุกมุมห้อง และเดินออกมาหา โน๊ต ศิษย์เอกมือขวาที่มาด้วยกันซึ่งพักกับอาจารย์ต่อที่พูดถึงไปเมื่อครู่
"โน๊ต เป็นไง? ห้องพัก?"
อาจารย์ต่อพูดแทรก "มาดูสิครับ มีบางอย่างอยากให้เห็น" ผมเดินเข้าไปในห้อง โน๊ตชี้ให้ดูบนโต๊ะตัวหนึ่งในห้อง มีขวดมีน้ำมันอยู่ในห้องในขวดเหมือนมีบางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นวัตถุบางอย่างคล้ายๆ "รักยม"
โน๊ตรีบบอก "อย่าจับนะครับ" ด้วยความรู้สึกที่ไม่เข้าท่าเสียแล้ว ผมมีที่ปรึกษาทางจิตวิญญาณอยู่คนนึง ต่อสายวิดิโอคอลทันที
"ฮัลโหล ผมคิดว่าเรากำลังอยู่ในพื้นที่สุ่มเสี่ยง" พลางกวาดกล้องมือถือไปรอบๆ … ที่ปรึกษาบอกทันที "โอ มีผู้หญิงคนนึง แต่งตัวโบราณนั่งสางผมอยู่ เขาไม่พอใจ…. ลองดูใต้เตียงซิ" ก้มลงดู…มีผ้าขาวผืนนึงพับวางไว้ใต้เตียงกับขวดน้ำขวดนึง
เราเคลื่อนตัวไปยังห้องที่ผมจะพัก กล้องส่องต่อไป ตรงจุดที่มีเก้าอี้หวายตัวนึงที่โต๊ะมีกล้วยเน่าอยู่หวีหนึ่ง ที่ปรึกษา "โอ มีตาแก่คนนึงนั่งฟุบอยู่ตรงนั้น… โอ อย่ามองกระจกบานนั้นนะ มีผู้หญิงคนนึงร้องไห้ … ออกมาเถอะ นอนที่นี่ไม่ได้…."
เราถอยออกมาตั้งหลักด้านนอกบนลานหน้าตัวบ้านพัก ผมเริ่มถ่ายรูปโดยรอบ
ขณะกำลังกวาดกล้องไป อาจารย์ต่อที่มาด้วยกันแหงนมองไปชั้นบน เบิกตาค้างพร้อมร้อง "โอ้ยพี่ครับ ดูตรงนั้น มีผู้หญิงยืนตรงนั้น" ผมหันไปแต่ผมไม่เห็นอะไร อาจารย์ต่อร้องอีก "โอ้ย เห็นไหมครับ เขายื่นหน้าออกมา" แล้วพาร่างมหึมาของเขาโดดมาเกาะแขนผมอย่างรวดเร็ว ผมไม่เห็นอะไร แต่บนโถงระเบียงมีรูปถ่ายผู้หญิงแต่งชุดพื้นเมืองสามคน มีผ้าดำขึงบังตา
ผมนึก ตัวผมห้อยสมเด็จอรหังของหลวงปู่สุกไก่เถื่อนกับหมากหลวงปู่ใหญ่ อาจบางทีน่าจะเป็นเหตุให้ผมไม่เห็นสิ่งที่อาจารย์ต่อเห็น แต่ผมก็สัมผัสได้ถึงพลังงานแย่ๆ บางอย่าง
ผมโมโห นึกถึงห้วงเวลาที่เคยไล่ด่าผีที่อาคารเจนเอ๊กซ์อะคาเดมี่ เลยพูดลอยๆ ออกไปทันที … "ผมไม่มีปัญหาอะไรกับดวงวิญญาณแถวนี้นะ แต่ผมไม่พอใจเจ้าของธุรกิจนี้ที่ให้บริการไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ห้องพักสกปรกและไม่มีแม้แต่ความใส่ใจจะทำให้มันสะอาดก่อนขายห้อง และไม่สนใจที่จะดูแลลูกค้า เข้าใจนะ"
ผมเดินเข้าไปด้านในแล้วตะโกนเรียกชายที่เป็นเจ้าของหรือคนดูแลคนเมื่อกี้
"ผมจะไม่พักที่นี้แล้ว ห้องพักสกปรก เหมือนไม่ทำความสะอาดเป็นเดือน ผมว่าคุณไม่แฟร์ต่อลูกค้า และเราจะร้องเรียนกับเอเจนต์ที่เป็นเพจคนกลางขายห้องพักให้คุณ"
ผู้ชายคนนั้นยืนฟัง แล้วเดินกลับเข้าห้องนั้นไป ไอ้ฟักแม้ว! ผมโทรบอกภรรยา เล่าให้ฟัง จากนั้นส่งรูปที่ถ่ายให้เธอเครื่องเตือนขึ้นมาว่า failed to send… retry? ผมกด retry .. ยังคง failed ติดกันสี่ครั้ง ส่งไม่ได้
ผมนึกในใจ ก็ถือว่าเงินค่าห้องที่จ่ายไปแล้วเป็นทานแก่ผู้เป็นเจ้าของบ้านพักร้างนี้แล้วกัน จากนั้นผมกับคณะพากันเดินทางออกจากสถานที่นั้น ตามคำแนะนำของที่ปรึกษา กลิ่นเหม็นเน่าโชยเข้าจมูกขณะที่เรากำลังเดินออกมาขึ้นรถ ผมพูดกับโน๊ตและอาจารย์ต่อ
"อะไรก็ตามที่ดึงดูดให้เรามาที่นี่ คงมีเหตุผลบางอย่าง บางทีพวกเขาคงทุกข์ทรมานกับบางอย่าง เราไปหาวัดสักวัดหนึ่งแถวนี้ ไปทำบุญกรวดน้ำให้เขา" พอออกมาจากที่นั่น ผมส่งรูปอีกครั้ง คราวนี้ส่งสำเร็จ เราแวะไปวัดโลกโมฬี ทำบุญใส่ตู้บริจาค สวดบูชาพระรัตนตรัยแล้วกรวดน้ำอิมินา แล้วพากันออกไปหาที่พักใหม่ ในที่สุดมาเช็คอินที่โรงแรมเล็กๆ ชื่อ xxxxx
เรื่องบางอย่างในโลกนั้นยากอธิบายความเชื่อส่วนบุคคล ดังนั้นโปรดพิจารณาด้วยวิจารณญาณ
ขอบคุณ Pongprom Snitwong Na Ayuthaya
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline