- 08 ต.ค. 2565
เปิดประวัติ ผิง พิมพาภรณ์ อดีตดาราสาวผู้ล่วงลับกะทันหัน สร้างชื่อในวงการมากมายก่อนหายหน้าออกจากงานการแสดง
ประวัติ ผิง พิมพาภรณ์ อดีตดาราสาวเซ็กซี่ผู้ล่วงลับกะทันหัน อีกหนึ่งข่าวเศร้าในวงการบันเทิง เมื่อมีรายงานการเสียชีวิตของ ผิง พิมพาภรณ์ ลีนุตพงษ์ จากไปอย่างกะทันหัน โดยเพื่อนๆ ได้โพสต์ข้อความแสดงความอาลัย ต่อการจากไปของ ผิง พิมพาภรณ์ กันอย่างต่อเนื่อง
โดยเบื้องต้นได้รับการเปิดเผยว่าในช่วงหลังอดีตนักแสดงสาวป่วย ก่อนจะหลับไปเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุผิง พิมพาภรณ์เสียชีวิต ทางเพื่อนๆได้ระบุว่า ลักษณะ ผิง พิมพาภรณ์เสียชีวิต คือสมองขาดออกซิเจน ช่วงกลางคืนหลับแล้วไปเลย ยิ่งทำให้ทั้งแฟนคลับและเพื่อนๆ ในวงการบันเทิงต่างใจหายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก
ด้านโพสต์สุดท้ายของผิงพิมพาภรณ์ ก็ได้โพสต์ภาพที่ถือขนมในมือ พร้อมกับเขียนแคปชั่นสั้นๆ ระบุว่า "Yummmm" และต่อมาโพสต์สุดท้ายก่อนเสียชีวิตลงอย่างสงบ ก็ได้โพสต์ยินดี กับงานแต่งที่จะถึง 16 ตุลาคม 65 นี้ แต่ไม่มีโอกาสได้ไปงาน
สำหรับ ประวัติ ผิง พิมพาภรณ์ ลีนุตพงษ์ เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของบริษัทขายรถยนต์ ยนตรกิจกรุ๊ป ซึ่งเป็นครอบครัวนักธุรกิจเชื้อสายไทย-จีน ด้านการศึกษา จบการศึกษาระดับไฮสกูลที่ HARROW INTERNATIONAL SCHOOL จบระดับปริญญาตรีด้านภาพยนตร์ที่คณะนิเทศศาสตร์ ม.รังสิต ก่อนจะศึกษาด้านแฟชั่นที่ London College of Fashion ประเทศอังกฤษ 3 ปี และกลับมาศึกษาต่อปีสุดท้ายที่สถาบันอาคาเดเมีย อิตาเลียนา ประเทศไทย (Accademia Italiana Fashion Design)
ส่วนเส้นทางในวงการบันเทิง ผิง พิมพาภรณ์ เริ่มเป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์เรื่อง "สยิว" ปี 2546 ซึ่งในเรื่องนี้ผิงรับบทเป็น "เต่า" สาวห้าวทอมบอย นักศึกษาคณะอักษรฯ หลังจากนั้นมีผลงานถ่ายแบบ พิธีกรรายการ "ทีน เซ็นเตอร์" รวมถึงงานโฆษณา
หลังจากนั้นมีผลงานภาพยนตร์ "อสุจ๊าก" คู่กับ ลีโอ พุฒ ในปี 2550 เรื่องนี้ผิงรับบทเป็น "แลมมี่" นางแบบ-นางเอกสาวดาวรุ่ง รวมไปถึงละคร "เสือ สิงห์ กระทิง โสด" และ "กลรัก เกมพยาบาท" ในบทนางร้ายสุดเซ็กซี่ รวมไปถึงมิวสิกวิดีโอเพลง "พูดไม่ค่อยเก่ง" ศิลปิน AB Normal, เพลง "อย่าห้ามใจผมเลย" ศิลปิน เอ็กซ์ เซอร์ราวด์ นอกจากนี้ยังมีผลงานถ่ายแบบเซ็กซี่คลับเอฟ รวมถึงถ่ายแบบชุดว่ายน้ำนิตยสารต่างๆ
ทว่าหลังจากนั้น ผิง พิมพาภรณ์ ไม่ค่อยรับงานในวงการบันเทิง เพราะเปิดธุรกิจร้านเสื้อผ้า "Beige" (เบจ) ที่มีคอนเซปต์ความหวานผสมความสง่า คลาสสิก ซึ่งเจ้าตัวเคยบอกว่ามีความชอบแฟชั่นที่ฝังลึกมาตั้งแต่เด็ก เพราะเคยเห็นคุณแม่ทำงานสไตลิสต์ จึงซึมซับด้านแฟชั่นมาโดยไม่รู้ตัว และมองว่าคุณแม่เป็นแฟชั่นไอคอน ส่วนชื่อร้านมาจากความที่ชอบใส่เสื้อผ้าสีครีม น้ำตาลอ่อน และเพื่อนแซวว่าสีเบจเป็นสีประจำตัว จึงนำมาตั้งเป็นชื่อร้านนั่นเอง
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline