- 10 ต.ค. 2565
ยิ้มทั้งน้ำตา จุ๋ย วรัทยา - พุฒ พุฒิชัย เปิดใจรับเคยท้อแต่ไม่เคยถอยกว่าจะมี PJ น้อย พร้อมเผยชื่อเล่นที่ตั้งไว้รอต้อนรับลูกชาย...
เมื่อว่าที่คุณพ่อคุณแม่ จุ๋ย วรัทยา และ พุฒ พุฒิชัย ได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เปิดใจหลังจากแต่งงานก็เจอทดสอบที่ยากที่สุดในชีวิตคู่คือ เรื่องการมีทายาทเข้ามาจากที่คิดว่าตัวเองน่าจะมีลูกง่ายแต่กลับเจอโจทย์ที่ยากแต่ในวันที่เจอปัญหาให้ใช้การกอดแทนการปลอบเพื่อส่งพลังให้กัน จนได้พบกับแสงสว่างที่เปลี่ยนน้ำตาให้เป็นรอยยิ้ม พร้อมเผยชื่อเล่นที่ตั้งไว้รอต้อนรับลูกชาย
เห็นว่าหลังจากแต่งงานทั้งคู่มีปัญหาเรื่องบนเตียงคือ ปัญหาอะไร ?
พุฒ พุฒิชัย : ตอนที่ยังไม่ได้ย้ายมาบ้าน ตอนที่อยู่คอนโดบนเตียงคือมีตุ๊กตาประมาณ 20 ตัวได้ครับ บนที่นอนทั้งตัวเล็ก ตัวใหญ่ ตัวกลางอยู่บนที่บนหมดเลยครับ คือ มีตุ๊กตาอยู่เยอะไปเวลานอนคือก่อนนอนมันสามารถอยู่ตามที่ต่างๆ ที่เราตั้งใจวางเอาไว้ แต่พอเช้าเราก็นอนดิ้นกันไปมา ตุ๊กตาตัวเล็กมันจะชอบมาอยู่ใต้ตัวเรา ใต้ก้น ใต้ขา แล้วมันนอนไม่สบาย
จุ๋ย วรัทยา : คือ ตอนนั้นที่เรายังไม่ได้แต่งงานใช่ไหมคะ จุ๋ย จะชอบมีตุ๊กตาตัวใหญ่ๆ เพื่อดันหลังเพื่อให้เรารู้สึกอบอุ่น ไม่เหงาบนเตียง แต่พอเราเข้ามาในชีวิตกันและกันแล้วมันก็ต้องเริ่มลดทอนลง เรื่องฝุ่นเรื่องอะไรด้วยก็พยายามเอาออกไปตอนนี้ก็เหลือแค่ตัวเดียวเองค่ะ ให้เหลืออยู่ที่อกตัวเล็กๆ แค่นี้
ความหวานของคู่นี้อีกอย่างคือ ต้องหอมส่งกันทั้งส่งไปนอนและส่งทำงาน ?
พุฒ พุฒิชัย : ก่อนแต่งก็จะมาแบบมาหอมหน่อยๆเดี๋ยวนี้ นอกจากมาหอมแล้วเดี๋ยวนี้ “มาที่รักเหม็นหน่อย” เพราะว่ามีช่วงที่เขายังไม่ได้อาบน้ำแต่เราจะออกไปแล้วก็จะแกล้ง
จุ๋ย วรัทยา : แต่ พุฒ จะงอนเวลาที่เราลืมหอม
พุฒ พุฒิชัย : ไม่ได้งอนจริงจังครับ แค่แกล้งๆ
จุ๋ย วรัทยา : เพราะเราเป็นคนขี้ลืม อย่างเมื่อวานนี้ เหมือนทานข้าวเสร็จแล้วแล้วจะเดินขึ้นห้องนอนแล้วเราเหมือนจะก้าวขึ้นบันไดไม่ได้บอกเขาว่า “จะขึ้นห้องแล้วนะ” เขาก็จะถาม “เราว่าไปไหน” “ขึ้นห้องแล้วจ้า” “อ้าว !! ไม่บอกกันเลยเหรอใจดำจังเลยนะ” (ยิ้ม) จน จุ๋ย บอกว่าก็เห็นที่รักดูซีรีส์กำลังเมามันเขาก็เลยไม่อยากกวน
พุฒ พุฒิชัย : การใช้ชีวิตคู่มันยากไหมครับ คุณอั๋น ภูวนาท วิธีการที่มันง่ายคืออะไร
อั๋น ภูวนาท : ไม่เลยมันง่ายมากก็เชื่อเขา
พุฒ พุฒิชัย : ผมว่าผมไม่ต้องหันไปหา พี่อั๋น ล่ะ ไม่ช่วยอะไรเลย (หัวเราะ)
ซึ่งตอนนี้ก็ได้ทายาทที่พร้อมรอเจอหน้าเร็วๆนี้แล้ว ?
พุฒ พุฒิชัย : เป็นลูกชายครับ เราแฮปปี้มากเพราะเราอยากได้ลูกชายอยู่แล้ว
จุ๋ย วรัทยา : ตอนนี้น่าจะประมาณ 8 เดือนแล้วค่ะ อาจจะคลอดประมาณปลาย พฤศจิกายน หรือ ตันธันวาคมค่ะ
ตั้งชื่อหรือยัง ?
จุ๋ย วรัทยา : เราเรียกเขาว่า PJ โดยใช้ชื่อของเราทั้งสองคน พอเรารู้ว่าเป็นผู้ชายเราก็เลยรู้สึกว่าชื่อนี้กับผู้ชายก็โอเคนะคะ ตอนนี้ได้ชื่อเล่น แต่ชื่อจริงเดี๋ยวรอดูวันที่เขาเกิดอีกครั้งค่ะ
แต่กว่าจะได้ PJ น้อยมา จุ๋ย เองก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีลูกยาก ?
จุ๋ย วรัทยา : ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะเป็นคนที่มีลูกยากคิดว่าตัวเองเป็นคนน่าจะมาง่ายทั้งออกกำลังกายโยคะ ก็พยายามกินดี นอนดีเพราะเราพยายามจะบอก พุฒ ว่าให้มาทางเรา ตรวจภายในสตรีตลอดตั้งแต่อายุ 25 ปี ก็ตรวจตลอดไม่มีความผิดปกติอะไรเลย ประจำเดือนก็มาปกติทุกๆอย่าง ดังนั้นพอหลังจากแต่งงานแล้วไปเที่ยวกันแล้วกลับมาประจำเดือนหาย จุ๋ย ก็มาแล้วแน่นอนเลย ก็เล่าให้ พี่เป้ ฟังเขาก็บอกว่าอยากถ่ายตอนเหมือนอารมณ์แบบเรารู้ผลว่าเราท้อง 2 ขีด ก็นัดแนะกันเผอิญอยู่คอนโดใกล้ๆกัน ก็ตื่นมาตีห้าเพื่อมาตรวจปัสสาวะแรก พี่เป้ ก็บุกป่าฝ่าดงกับพวกเรา เพราะว่าปัสสาวะแรกจะได้ชัวร์ที่สุด นางก็มาแบบงงๆเพื่อถ่ายรายการว่าวันนี้ต้องได้แน่เลย
จุ๋ย วรัทยา : เราก็ตรวจไป 3 อัน ไม่มีขึ้น 2 ขีดสักอันใจเริ่มไม่ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายฉัน เพราะฉันไม่เคยประจำเดือนขาดเลย แล้วคือเราก็รอให้เกิน 15 วันคือต้องชัวร์แน่เลย แต่กลายเป็นว่าไม่ท้อง มันก็ทำให้กลายเป็นว่า จุดนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของร่างกายเราที่ผิดปกติคุณหมอบอกว่าโอเคอาจจะเป็นไปได้ที่ไข่ไม่ตกนะ แต่พอหลังจากนั้นความผิดปกตินี้มันมาเรื่อยๆ เพราะประจำเดือนก็ไม่มาอีกค่ะ ก็เลยต้องมีการใช้ยาอีกอะไรอีกจนปรึกษาคุณหมออีกรอบหนึ่งคุณหมอเลยโอเคให้เลือกวิธี IUI ก่อน เพราะดูว่าเราสองคนไม่ได้อายุเยอะจนเกินไป
จุ๋ย วรัทยา :IUI คือ เหมือนการเอาน้ำเชื้อเข้าไปอยู่ใกล้ๆตรงโพรงมดลูกเพื่อให้เขาเจอกันง่ายๆ เหมือนจับมือเขามาอยู่ใกล้ๆกัน ฉีดเชื้อเข้าไปพอเขาสปาร์กกันก็คือจะง่ายกว่าที่ให้เขาแหวกว่ายเองอะไรประมาณนี้ค่ะ คือทำแบบนี้ประมาณ 4 ครั้ง ก็ไม่ประสบความสำเร็จคือตามหลักการแล้วคือประมาณ 3-4 ครั้ง คุณควรจะเปลี่ยนไปเป็นวิธีอื่นแล้วคือ ควรเปลี่ยนไปเป็นวิธี อิ๊กซี่ (ICSI) หรือ IVF แล้ว
จุ๋ย วรัทยา : ก็คิดว่าช่วงนั้นเราก็เริ่มใจเสียแล้วว่าทำไมมันยากจัง ขนาดเราใช้วิธีนี้เข้าช่วยแล้วก็เลยเหมือนตรวจค่า AMH กับค่า FSH คือค่า FSH เนี่ยมันจะสามารถบอกเราได้ในเรื่องของรังไข่มันจะเสื่อมหรือไม่เสื่อม หรือ กำลังจะใกล้วัยทองไหม ส่วน AMH คือ จะบอกว่ารังไข่ตั้งต้นที่เรามีตอนนี้มันเหลือเยอะหรือเหลือน้อยแค่ไหน ซึ่งตอนนั้นค่า AMH มันมีผลทำให้เราใจเสียและถึงขั้นร้องไห้เลย
จุ๋ย วรัทยา : คือ ค่าตัวนี้ของ จุ๋ย มันน้อยกว่า 0.01 ซึ่งปกติทั่วไปอายุขนาด จุ๋ย ควรจะมี 1-2 ถ้าอายุที่น้อยกว่านี้คือเขาก็จะมีประมาณ 4-5-6 คือจำนวนไข่ของเขาจะมีเยอะกันมาก แต่ของเราคือน้อยกว่า 0.01 แปลได้ว่าคุณอาจจะไม่เหลือไข่แล้วนะ หรือ คุณอาจจะไม่มี หรือมีเป็นบางเดือน บางเดือนไม่มี แล้วไม่เกิน 1 ฟองต่อเดือนอะไรประมาณนี้ค่ะ คือ น้อยมากสำหรับผู้หญิงทั่วไปที่อายุขนาดเราที่ต้องการทำ IVF ค่า FSH ที่บอกว่ารังไข่จะเสื่อมหรือไม่เสื่อมของเราขึ้นสูงขึ้นไปประมาณ 36 ค่ะ ครั้งแรกที่ตรวจนะคะ คือ ยิ่งมากไม่ดีค่ะ คือ มันจะใกล้คนวัยทองค่ะ ถ้าเกิดอายุขนาดเรามันควรจะต่ำกว่า 10 หรืออยู่ไม่เกิน 10 อะไรประมาณนี้ค่ะ ถ้าพูดคือเราอยู่ในภาวะรังไข่เสื่อมก่อนเวลาอันควร เหมือนเราอายุประมาณ 47 จะ 50 เลยค่ะ
และมีช่วงเวลาหนึ่งที่ จุ๋ย รู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้า ?
จุ๋ย วรัทยา : เวลามีเรื่องทุกข์ใจอะไรก็แล้วแต่จะหายได้ภายในเวลารวดเร็วเรารักษาตัวเองได้ง่ายๆแต่เหมือนเรื่องนี้ทำไม 3 - 4 วัน เรายังรู้สึกจมๆอยู่นะ ทำไมใครพูดอะไรมาแล้วรู้สึกน้ำตารื้น ทำไมรู้สีกเศร้าดิ่งๆโทรไปถามเพื่อนที่เป็นโรคซึมเศร้าค่ะ แกฉันเข้าข่ายหรือยังนางบอกว่าอาการคล้ายๆแต่ให้ดูว่ายังทำงานได้อยู่หรือเปล่า เราก็ตอบไปว่า ฉันยังทำงานได้ หรือว่าคือยังไม่ได้เป็นแต่เหมือนเป็นภาวะเศร้า แต่ว่ายังไม่ถึงโรคซึมเศร้า เป็นเหมือนแค่ภาวะๆหนึ่งเราก็เหมือนฉุดตัวเองขึ้นมาแล้วมีวันหนึ่งเราไปเจอคุณหมอแล้วเขาตรวจแล้วเขาเจอไข่ มันเหมือนรู้สึกว่ามันเหมือนมีกำลังใจมีความหวัง ก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าโอเคกลับมาใหม่เราก็บอกเขาว่ามาเราจะมาทำให้เต็มที่ถือว่าเราได้ทำทุกอย่างดีที่สุดแล้ว ผลจะออกมาแบบไหนเราจะไม่เสียใจเพราะเราได้ทำดีที่สุดแล้ว
ในมุมของ พุฒ ตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ?
พุฒ พุฒิชัย : ตอนนั้นก็เข้าใจเขา เขาบอกว่ารังไข่เขาเสื่อมแล้วโอกาสที่จะมีลูกเนี่ย 0.01 ไข่ที่มีเปอร์เซ็นต์ที่จะผลิตออกมา 1 ฟองคือเยอะที่สุดแล้วบางเดือนไม่มีไข่เราก็มานั่งคิดนะครับ มันก็เป็นความฝันของเรานะว่าอยากมีลูกแต่พอสุดท้ายแล้วร่างกายมันไม่พร้อมหรือมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวังเราก็จับมือกับเขาแล้วบอกว่า ไม่เป็นไรนะ ไม่มีก็ไม่เป็นไรเราไปเที่ยวเมืองนอกเราไปใช้ชีวิตของเราสองคนสามีภรรยาก็ได้ให้กำลังใจเขาในลักษณะแบบนี้ คือ ตอนนั้นจากการที่เราหวังไว้มากว่าเราอยากจะมีลูกสักสามคนตอนนั้นมันถอย ทุกอย่างมันถอยลงมาอยู่ที่ความจริงหมดเลยว่าโอเคความจริงมันเป็นแบบนี้ คือ ถ้าเกิดว่าเขามาจริงๆถือว่าเป็นสิ่งที่โชคดีมากๆสำหรับคู่เราสองคน ช่วงที่เขาท้อหนักๆที่บอกว่าจะเป็นซึมเศร้าเราก็เห็นเราก็สงสารเขาเรานั่งมองเขาแล้วเราดูว่าเขาไม่มีความสุขในการใช้ชีวิตเลยจะผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปได้อย่างไร ก็เลยบอกเขาว่าที่รักถ้าสิ้นปีนี้ถ้าสมมติว่ายังไม่ได้เราพอเถอะเนอะ 2-3 ปี ที่เราพยายามสู้กันมามันหนักหนามากๆแล้ว คือ ตัวผมมันไม่ได้หนักขนาดนั้น แต่ว่า จุ๋ย เขาหนักมากทั้งสภาพร่างกายทั้งจิตใจ
แล้วตอนนั้นอะไรคือ ทางสว่างที่ทำให้เราเจอ PJ น้อยมา ?
จุ๋ย วรัทยา : ก็คือโชคดีค่ะ ได้รู้จัก GFC CLINIC มาก่อนแล้วก็กลับมาปรึกษาคุณหมออาจารย์พิทักษ์อีกครั้งค่ะ อาจารย์ก็บอกว่าเราทั้งคู่ผลที่ออกมาคือเราทั้งคู่เป็นคนที่มีลูกยากที่สุด อาจารย์ก็เลยมาขอเปลี่ยนฮอร์โมนค่ะ ที่ให้ จุ๋ย ฉีดที่หน้าท้องจนสามารถเก็บไข่ได้อีกครั้งแล้วก็ดูแลพวกอาหารการกินสุขภาพโภชนาการต่างๆปรับกิจวัตร แล้วเราก็มาทำ อิ๊กซี่ (ICSI) กันใหม่อีกรอบหนึ่งค่ะ
พุฒ พุฒิชัย : ก่อนที่อาจารย์พิทักษ์ เปลี่ยนยาให้เขาก็กระตุ้นอะไรตามกระบวนการแบบปกติ
จุ๋ย วรัทยา : จริงๆแล้ว จุ๋ย เก็บกับ GFC แค่ 4 ครั้งเองนะคะ แต่ว่ามันใช้เวลานานเป็นปีเพราะว่าเราเป็นแบบคลื่นไงคะ มาบ้าง ไม่มาบ้าง เลยต้องใช้เวลาอดทนในการรอ ดังนั้นในการเก็บแต่ละครั้งมันก็จะมีอุปสรรคบ้างอะไรบ้าง
พุฒ พุฒิชัย : มันลุ้นไปทีละขั้นตอนคือลุ้นแรกเลยไปซาวน์แล้วเห็นไข่ ที่รัก เดือนนี้มีไข่ที่เหลือก็ไปลุ้นกันว่าวันต่อๆไปกระตุ้นแล้วไข่โตตามขนาดไหมจนถึงวันที่หมอบอกว่าโอเคเก็บได้นะ
จุ๋ย วรัทยา : พอวันที่ 14 หมอบอกว่าเก็บไข่ได้ก็ดีใจอีก พอบอกว่าไข่สุก สามารถผสมกับ คุณพุฒ ได้ก็ดีใตอีก คือ ทีมนักวิทยาศาสตร์เขาก็จะดูแลตัวอ่อนของเราถึง 5 วัน เพื่อดูความสมบูรณ์โดยที่เขาจะมีเทคโนโลยีคือ Geri+ และเทคโนโลยีตัวอ่อนที่ชื่อว่า Eeva ซึ่งเป็นการเลี้ยงตัวอ่อนแบบระบบปิด และ ก็สามารถดูได้ 24 ชั่วโมงเลยที่เราจะสามารถดูตัวอ่อนได้ ซึ่งเขาก็จะส่งรูปมาให้เราดูในทุกๆวันว่าตัวอ่อนของเราเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งตัว จุ๋ย เองชอบมากเพราะเราอยากเห็นเขาทุกวัน
พุฒ พุฒิชัย : โดยส่วนตัวของผมเจอเทคโนโลยีนี้เขาไปคือ แฮปปี้มากครับ เพราะอย่างที่บอกไข่ 1 ฟองของเราคือ ทุกๆ 1 เปอร์เซ็นต์ของเรามีค่ามากๆเลย อย่างเวลาไลน์ของนักวิทยาศาสตร์เด้งมาเพื่อรายงานผลเราในแต่ละวันเราก็จะตื่นเต้นน้องจะเป็นอย่างไรบ้างนะ น้องจะโตตามเกณฑ์ไหม
จุ๋ย วรัทยา : แล้วด้วยเนื่องจากเคสของ จุ๋ย เป็นเคสที่ไม่อยากพลาดเลยทางคลินิกเขาเลยแนะนำให้ จุ๋ย ทำ ERA ซึ่งก็คือการเก็บตัวอย่างเยื่อบุมดลูกเพียงเล็กน้อยนะคะ แล้วก็นำไปตรวจหาผลประเมินสำหรับวันที่จะย้ายตัวอ่อนได้ ดังนั้น ในแต่ละช่วงมันก็จะมีหลายลุ้นต่อหลายลุ้นมันมีแรงกดดันมีความหวังอยู่ในนั้นหมดแต่ว่าทั้งหมดทั้งมวลมันมีความสบายใจที่เราได้มาเจอทีมแพทย์ ทีมพยาบาลและนักวิทยาศาสตร์ของ GFC จริงๆค่ะ
และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ที่มีเด็กคนหนึ่งอยู่ในท้องของเรา ความรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง ?
พุฒ พุฒิชัย : ในวันที่เราไปใส่ตัวอ่อนเราจะกังวลมากเรื่องการขับรถไปเจอหลุมเราจะค่อยๆหยอดเราเป็นคนขับรถพาเขาไปเอง ช่วงที่รอลุ้น 10 วัน แม่บ้านของผมก็สลับกันเอาอาหารเอาอะไรขึ้นมาเสิร์ฟ เพราะบันไดบ้านเราค่อยข้างสูงเขาจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นลง งานอะไรของเขาผมตัดให้ทุกอย่างเลย จนมาถึงวันนัดฟังว่าท้องไม่ท้องทุกคนในคลินิกเต็มไปด้วยความยินดีความดีใจพอไปนั่งในห้องคุณหมอเขาก็บอกว่า
จุ๋ย วรัทยา : น้องติดแล้วนะครับ น้องฝังแล้วคุณพ่อก็น้ำตาคลอเลย ส่วนเราก็ยิ้มแก้มปริเลย เพราะเราร้องในช่วงเวลาต่างๆมาแล้วอย่างช่วงเวลาได้ตัวอ่อนโคโมโซมผ่านแล้วเรามีตัวอ่อนแล้ว เพราะเรารู้ว่าส่วนที่ยากที่สุดของตัวเราคือส่วนนั้นแล้วก็ช่วงที่ใส่ตัวอ่อนมันเหมือนมีความมั่นใจอะไรบางอย่างคิดว่าน่าจะแล้วค่ะ
พุฒ พุฒิชัย : (น้ำตาไหล) ดีใจจริงๆครับ ทุกวันนี้นั่งคนเดียวเวลาที่คิดว่าลูกจะคลอดแล้วนะ เขาอยู่ในท้องเวลาที่เราอ่านนิทานให้ลูกฟังแล้วเขากระดุกกระดิกมันมหัศจรรย์ขนาดนี้เรารู้สึกว่าเราดีใจมากเพราะว่าสิ่งที่เราตั้งใจกันมามันสำเร็จแล้วอีกนิดเดียวเราก็จะได้เห็นหน้าของลูกเราแล้ว แล้วตอนแรกที่ได้ยินเสียงหัวใจของ PJ เต้นคือเราก็ร้องไห้อีกคือ เซนซิทีฟมาก
จุ๋ย วรัทยา : เหมือนว่าเป็นสัญญาณการมีชีวิตค่ะ คือ พุฒ เป็นคนที่อยากมีลูกมากจริงๆเขารักเด็กเขามีความฝันด้านนี้ตอนแรกที่เรา
ขอบคุณรายการ Club Friday Show
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline