- 11 ต.ค. 2565
"โย่ง เชิญยิ้ม" เผยสาเหตุ "เด่น ดอกประดู่" เสียชีวิตในวัย 80 ปี หลังภรรยาเด่นโทรมาบอกข่าวร้ายด้วยตัวเอง .....
นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นในวงการบันเทิงกับการสูญเสียตลกชื่อดัง เด่น ดอกประดู่ ที่จากไปในวัย 80 ปี โดยวันที่ 11 ต.ค. 2565 เพื่อนศิลปินตลกอย่าง โย่ง เชิญยิ้ม ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความอาลัยว่า "ขอให้พี่ เด่น ดอกประดู่ สู่ภพภูมิที่ดี" ท่ามกลางแฟนตลกเข้ามาร่วมแสดงความเสียใจและอาลัยจำนวนมาก
ด้าน โย่ง เชิญยิ้ม ยังออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุการเสียชีวิตของ เด่น ดอกประดู่ ว่าจากไปด้วยโรคชรา โดยภรรยาของ เด่น ดอกประดู่ เป็นคนโทรมาบอกว่า "ไปแล้วนะ หลับไปเฉยๆ"
สำหรับประวัติของ เด่น ดอกประดู่ หรือชื่อจริง บรรพต วีระรัฐ เกิดวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2485 การศึกษาเริ่มเรียนชั้น ป.1 ที่โรงเรียนเสริมปัญญา มาต่อ ม.1-ม.6 ที่โรงเรียนวัดสุทธิวราราม จากนั้นเข้าเป็นนักเรียนดุริยางค์ทหารเรือ 4 ปีเต็ม เครื่องดนตรีที่เล่นได้คล่องมากคือ ทรอมโบนและกลอง เขาเข้าเล่นประจำที่วง อาร์.ที.เอ็น.คอมโบ้ ของทหารเรือ ซึ่งนับว่าเป็นวงดนตรีคอมโบ้วงแรกที่มีการเต้นประกอบเพลงที่เล่นอยู่ด้วย นอกจากเล่นเครื่องดนตรีแล้ว เด่นยังเป็นนักร้องซึ่งส่วนใหญ่จะร้องเพลงตลกๆแบบ มีศักดิ์ นาครัตน์
ซึ่งเล่นอยู่ 3 ปี ก็มาเข้าร่วมกับวงดนตรีลูกทุ่งของ ทูล ทองใจ รับหน้าที่โฆษกของวงด้วย เพียงปีเศษเขาก็ลาออกเพื่อมาบวชแก้บนที่มารดาหายจากโรคงูสวัด บวชเพียง 17 วัน สึกออกมาก็มาอยู่กับวงดนตรีชาร์มมิ่งบอย ต่อด้วยวงของเพลิน พรหมแดน และต่อมาไปร้องเพลงตามภัตตาคารและไนต์คลับหลายแห่ง มีเพลงดังที่เป็นเพลงตลกๆชื่อ หนุ่มจีนเตือนเมีย ดังไปทั้งเมืองจ๋อง หน้าจ๋อย ดาวตลกชื่อดังเป็นคนตั้งชื่อเขาให้ว่า เด่น ดอกประดู่ และเขาก็พอใจเพื่อเป็นที่ระลึกว่าเขาก้าวมาจากการเป็นทหารเรือ
หลังจากตลกคณะ 4 สี่ประสบอุบัติเหตุ ทำให้สีเผือกพิการเป็นอัมพาต และศรีสุริยาเสียชีวิต เด่นจึงเริ่มมีชื่อเสียงขึ้น ด้วยการเอาวิทยากลมาแฝงไว้ในตลก เด่นแสดงคู่กับ เด๋อ ดอกสะเดา จากนั้นมารวมทีมกับ สีหมึก และ เทพ เทียนชัย (จากคณะสี่สีเก่า) จนภายหลังมารวมตัวกันคือ เด่น, เด๋อ, ศรีละอ่อน, เทพ โพธิ์งาม กลายเป็นคณะ เด่นเด๋อเทพ โด่งดังมาก จนสุดท้าย เทพ โพธิ์งาม ก็แยกตัวออกไป ต่อมา มี ดู๋ ดอกกระโดน กับ ดี๋ ดอกมะดัน มาร่วมวง เป็นคณะ 4 ด.เด็ก เป็นนักแสดงตลกที่เล่นมุกสุภาพ ไม่เล่นมุกหยาบโลน หรือลามก
ภายหลัง ภัทราวดี มาชวนไปแสดงละครทีวี เรื่อง วิมานอลเวง (2520), ขบวนการใช้ (2520) ฯลฯประสบความสำเร็จมาก และยังได้แสดงหนังทีวีของรัชฟิล์ม เรื่อง แหวนสวาท (2520) อีกด้วย
ต่อมา นิยม ตันติเวชกุล แห่งไฟว์สตาร์โปรดักชั่น ทาบทามให้มาเป็นพระเอกหนังเรื่อง เทพบุตรต๊ะติ๊งโหน่ง (2520) ตอนนั้นเขาอายุ 35 แล้ว หนังประสบความสำเร็จ กวาดไปหลายล้าน จึงมีหนังต่อมาอีกหลายเรื่อง เช่น เทพบุตรต๊ะติ๊งโหน่ง (2520), เท่งป๊ะต๊ะติ้งโหน่ง (2521), รักเธอเท่าช้าง (2521), ปล้น บ้าๆ บวมส์ๆ (2522), สองผู้ยุ่งเหยิง (2522), พ่อหอยโข่ง (2523), ยอดตาหลก (2523), แต่งกับงาน (2524) ยิ้มหน่อย จ้า! (2524),เจ๊จ๋าเจ๊ (2524), เฉยแหลก (2524) ฯลฯ
ในปี พ.ศ. 2533 ได้เป็นผู้ผลิตและเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับการเกษตร ชื่อรายการว่า รายการไม่ลองไม่รู้ ออกอากาศทางช่อง 9 นานถึง 14 ปี ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ออกอากาศแล้ว และได้ทำธุรกิจผลิตดินเกษตรผสมจำหน่ายใช้ชื่อการค้าว่า ไม่ลองไม่รู้ มีโรงงานผลิตอยู่ที่บ้านพักในหมู่บ้านย่านซอยวัชรพล ถนนรามอินทรา รวมถึงเคยเปิดร้านเบเกอรี่ย่านสี่แยกพรานนกชื่อ มิสเบเกอรี่ (ปัจจุบันปิดกิจการ) ชีวิตส่วนตัวสมรสกับ สุวพันธ์ อุบลชาติ หรือ เจ๊ตือ นักแสดงสาวที่พบรักกันระหว่างร่วมงานแสดงและในช่วงบั้นปลายของชีวิต เด่น ดอกประดู่ นั้นเคยมีข่าวหนีออกจากบ้าน เนื่องจากมีความเครียดสะสมและน้อยใจภรรยา แต่ภายหลังก็ได้มีการรับกลับไปอยู่บ้านเช่นเดิม
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline