"เอ ไชยา" เปิดใจเครียด พิษลองโควิด กระทบงานร้องลิเก หนักสุดถึงขั้น

สำหรับพระเอกลิเกชื่อดัง "เอ ไชยา มิตรชัย" ที่ปิดบังเรื่องครอบครัวมานานกว่า 20 ปี แต่ต้องบอกเลยว่าหลังจากที่ได้เปิดตัวครอบครัวก็ต้องบอกเลยว่าน่ารักมากๆทั้งครอบครัวเลยทีเดียว ล่าสุดเจ้าตัวออกมาเปิดใจกับ หนูแหม่ม สุริวิภา ในรายการ โต๊ะหนูแหม่ม ถึงอาการลองโควิดที่มีผลโดยตรงต่อการใช้เสียง ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าเครียดหนักมากกับอาการในครั้งนี้...

"หนูแหม่ม" ลองโควิดเกิดอะไรขึ้น ?
"เอ ไชยา" ก่อนหน้านี้รอดโควิดทุกซีซั่น แต่สันนิษฐานกับคุณหมอว่า เพราะท่านมั่นใจว่าเราติดแล้วแต่เราก็บอกเขาไปว่ายังไม่ได้ติดนะ ประมาณว่าติดไปแล้วแต่เราไม่รู้ตัว ซึ่งก่อนหน้านั้นพี่หนูนาเป็นมาก่อน เราคิดว่าอาจจะไปติดช่วงนั้น ซึ่งตอนนี้คุณหมอก็ยังหาสาเหตุไม่เจอ แต่พอไปเสียงเราก็จะเบาลง เหมือนมันจะหมดแล้วเสียงก็หายไปเลย ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าร้อยทั้งร้อย เพราะเขาวิจัยมาแล้วว่าคนที่ใช้เสียงมาตั้งแต่เด็ก นักร้องคุณใช้ไปเถอะใช้ไปตลอดชีวิตเส้นเสียงคุณถูกฝึกมา ยังไงก็แข็งแรงไม่เป็น ผมก็เลยมาวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะตัวเองออกข้างนอกตลอดไหมพิธีกรทำรายการ แต่ช่วงที่เราเป็นมันเป็นจังหวะของโควิด งานนอกสถานที่เราก็ไม่ได้ออกไปใช้เสียงสมบุกสมบันอะไรขนาดนั้น

"หนูแหม่ม" เราต้องรักษาแบบไหนคุณหมอบอกไหม ?
"เอ ไชยา" ตอนนี้รักษาอยู่ครับ แต่ที่น่าตกใจคือตอนแรกที่ส่องกล้องเข้าไปคือ เส้นเสียงของเราเวลาที่พูดมันจะตีกันกระทบกัน และช่วงตรงกลางมีตุ่มขึ้นมามันเป็นริดสีดวงเส้นเสียงประมาณนั้น แล้วก็เกิดขึ้นมาเพราะเสียดสีกันมากเยอะๆ และไม่ได้เกิดการรักษา มันก็จะมีอาการเหมือนเลือดจะออกและอักเสบนู่นนี่นั่น

"หนูแหม่ม" ของเราอยู่เคสไหน ?
"เอ ไชยา" คุณหมอบอกว่าเคสของเราไม่อยากแตะต้องเลย เพราะว่าถ้าเราไม่ใช่นักร้องเขาจับเราขึ้นเขียงเลยทันที แต่คุณหมอบอกว่าผมจะเฝ้าดูอาการและให้รักษาตัวเองให้ดีมากที่สุด นั่นคือการทานยาไปก่อนและอยู่ในช่วงของการรักษาไม่อยากให้เป็นอะไรไปมากกว่านี้

"หนูแหม่ม" ต้องใช้สเตียรอยด์ไหม ?
"เอ ไชยา" ต้องใช้ครับ แต่เราใช้ในปริมาณที่พอดี ขอบคุณหมอให้ยาเรามาและก็มียาลดบวมนันนี่คือรักษาตามขั้นตอนหมดเลย แต่สเตียรอยด์คือจำเป็นต้องใช้ในร่างกายและตอนนี้ที่เราไปส่องกล้องมาครั้งล่าสุดต้องยอมรับจริงๆ ว่าก่อนที่จะมาอัดรายการประมาณสองวันมันมาแล้วเสียงเริ่มหายอีกแล้ว ผมยังยิ้มร่าเริงอยู่เลยว่าเสียงผมเริ่มกลับมาแล้ว แต่ก็ไปหาคุณหมอซึ่งถ้ากระทบแรงหรือว่าไปใช้เสียงแรงมันมีโอกาสเพราะผมไม่ได้เป็นแค่เสียงอย่างเดียว ผมมีอาการภูมิแพ้ด้วยแพ้อากาศด้วยถ้ามันมาคู่กันเมื่อไหร่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ต้องคอยดูแลและรักษา

"หนูแหม่ม" ถ้าเสียงหายไปเลยร้องลิเกไม่ได้ เอ ไชยา จะเป็นยังไง?
"เอ ไชยา" ใจหายนะใจหายจริงๆ นะ เพราะว่าใช้เสียงมาตั้งแต่เล็ก มันยิ่งใช้ มันยิ่งออก คือช่องทางทำมาหากินของเรา แต่ถ้าเราไม่มีเขาเลยในตอนนี้อย่างที่บอกว่ามันเป็นอะไรที่ทรมานมันเครียดมาก และปัจจุบันจะเห็นว่าอย่างรายการของช่องเราผมนั่งอยู่ตรงนี้และปีทีมงานเดินไปเดินมาเขาก็อยากเห็นเราร้อง ซึ่งตอนนี้มันยังร้องไม่ได้ก็ใจหาย แต่เสียงมันก็คงไม่หายไปไหนเพียงแต่ว่าเราอาจจะกลับมาใช้เท่าเดิมไม่ได้

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ thainewsonline