หมอริท ฝากถึงพี่โตโน่ ชี้เงินบริจาคเป็นพันล้าน หมอพยาบาลก็เหนื่อยเท่าเดิม

หมอริท ฝากถึงรุ่นพี่ "โตโน่ ภาคิน" ชี้ต่อให้พี่ว่ายอีก 10 รอบ ได้เงินบริจาคกว่า 1,000 ล้าน หมอ-พยาบาลเก็หนื่อยเท่าเดิม

สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี สำหรับภารกิจที่ โตโน่ ภาคิน ว่ายน้ำข้ามโขง ในโครงการ "ONE MAN AND THE RIVER หนึ่งคนว่าย หลายคนให้" โตโน่ ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงจากไทย-ลาว รวมระยะทางกว่า 15 กม. เพื่อระดมทุนจัดหาเครื่องมือทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลไทย และ สปป.ลาว โดยยอดบริจาคทะลุ 60 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ชาวเน็ตยังคงพูดถึงเกี่ยวกับประเด็นนี้ พร้อมตั้งคำถามกับสังคมว่า การเปิดรับบริจาคเช่นนี้เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือไม่ 

 

หมอริท ฝากถึงพี่โตโน่ ชี้เงินบริจาคเป็นพันล้าน หมอพยาบาลก็เหนื่อยเท่าเดิม

ล่าสุด หมอริท หรือ เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช คุณหมอ นักร้อง-นักแสดง และรุ่นน้องคนสนิทของโตโน่จากเวทีเดอะสตาร์ ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว Ritz Rueangritz S. โดยระบุว่า 


ยินดีด้วยกับการ #ว่ายน้ำข้ามโขง ของพี่ #โตโน่ภาคิน ในวันนี้นะครับ ที่ปลอดภัย และได้รับเงินบริจาคจำนวนมาก อย่างแรกต้องขอขอบคุณในน้ำใจ และความเสียสละของพี่ที่มีต่อบุคลากรทางการแพทย์ คนที่พร้อมจะเสียสละเพื่อคนอื่นแบบพี่ ไม่ได้หาได้ง่ายเลย นับถือใจจริงๆ


ในบทสัมภาษณ์มีหลายครั้งที่พี่พูดว่า ที่พี่มาว่ายน้ำครั้งนี้ เพราะหมอ และพยาบาลเค้าเหนื่อยกว่า เสี่ยงกว่า เลยอยากขออนุญาตฝากมุมมองไว้ซักนิดครับ เผื่อพี่อาจจะลืมมองเหตุผลพวกนี้นะครับ (ไหนๆ คนก็สนใจโครงการพี่เยอะแล้ว)

 

หมอริท ฝากถึงพี่โตโน่ ชี้เงินบริจาคเป็นพันล้าน หมอพยาบาลก็เหนื่อยเท่าเดิม

1. ต่อให้พี่ว่ายน้ำข้ามโขงเป็น 10 รอบ ได้เงินบริจาคมากกว่า 1,000 ล้าน หมอ พยาบาล เค้าก็เหนื่อยเท่าเดิมครับ ขอยกตัวอย่างในฝั่งของหมอนะครับ ระบบสุขภาพของประเทศไทยคือ ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า แปลว่า คนไทยจะป่วยยังไง ก็มีการรักษารองรับ


(ซึ่งจริงๆ ดีกับคนไทยในบางมุมนะ เช่น คนจนมีสิทธิ์เข้าถึงการรักษา แต่ข้อเสียก็คือ คนไทยไม่ใส่ใจสุขภาพ เกิดปัญหา เช่น ติดเหล้า ติดบุหรี่ และเกิดปัญหาสุขภาพตามมา ทำให้คนต้องมาโรงพยาบาลกันเยอะ) ซึ่งทำให้หมอต้องทำงานหนัก แต่ยังได้ค่าตอบแทนเท่าเดิม


ซึ่งทุกวันนี้หมอไทยยังต้องทำงานเกินเวลาตามระเบียบกำหนด ทำให้เกิดภาวะสมองไหล หมอๆ ก็ออกนอกระบบโรงพยาบาลรัฐกันหมด หมอก็น้อยลง งานก็ยังหนัก ผลิตหมอเท่าไหร่ก็ไม่พอ ก็วนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆครับ ถึงบอกว่าเงินบริจาคเยอะแค่ไหน ก็ไม่ได้ช่วยให้หมอหายเหนื่อยครับ


2. พี่บอกว่าหมอพยาบาลเสี่ยง คำถามคือ แล้วใครปล่อยให้หมอพยาบาลทำงานภายใต้ความเสี่ยง? ถ้ารู้ว่าเค้าทำงานแบบเสี่ยงอยู่ ทำไมผู้มีอำนาจโดยตรงถึงมองไม่เห็น และไม่สามารถจัดการปัญหานั้นโดยเร่งด่วนได้ หรืองบประมาณไม่เพียงพอ แล้วถ้างบไม่พอจริงๆ ทำไมไม่รายงานขึ้นไป ทำไมต้องรอเงินบริจาค?


ส่วนตัวมองว่า การบริจาคไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีนะครับ แต่ที่มา หลักการ จุดประสงค์ของโครงการ และการนำเงินไปใช้ต้องชัดเจน รวมถึงควรสนับสนุนการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุไปในตัวด้วยครับ ถ้าพี่สื่อสารจุดนี้ได้ด้วย คิดว่าคนไม่เห็นด้วยน่าจะน้อยลงนะครับ และทำให้โครงการของพี่ดูมีเหตุสมควรมากขึ้น

 

หมอริท ฝากถึงพี่โตโน่ ชี้เงินบริจาคเป็นพันล้าน หมอพยาบาลก็เหนื่อยเท่าเดิม

 

หมอริท ฝากถึงพี่โตโน่ ชี้เงินบริจาคเป็นพันล้าน หมอพยาบาลก็เหนื่อยเท่าเดิม

 

หมอริท ฝากถึงพี่โตโน่ ชี้เงินบริจาคเป็นพันล้าน หมอพยาบาลก็เหนื่อยเท่าเดิม

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Thainewsonline