- 30 พ.ย. 2565
"ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้ออกมาโพสต์ข้อความ หลัง "ม้า อรนภา" แถลงชี้แจงปม ดารารุ่นใหญ่ตบดารารุ่นน้อง!
จากกรณีที่เป็นข่าวดัง "ดารารุ่นใหญ่ตบดารารุ่นน้อง" โดย "ม้า อรนภา" เปิดเผยว่า สิ่งที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ตอนแรกจะเขียนแล้วก็โพสต์ แต่วันนี้ตนจะอ่านสิ่งที่ตนจะโพสต์ให้ฟัง
ก่อนอื่นต้องขอโทษและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับผิดตรงนี้ และได้ปรับความเข้าใจขอโทษน้องเรียบร้อยแล้วจนกระทั่งน้องเข้าใจ แต่ก็ไม่ทราบว่าหลังจากนั้นน้องยังมีบางสิ่งบางอย่างที่ยังคาใจอยู่ ก็เลยทำให้มีการไปปรึกษาทนายหลายคน หลังจากที่เกิดเรื่องยังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอีกหลายวัน จนกระทั่งวันหนึ่งมีการนำเสนอเรื่องราวนี้ขึ้นมา หลังจากที่ตนพยายามติดต่อน้องทันทีแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ในที่สุดต้องติดต่อกับผู้จัดการ พอได้พูดคุยกันแล้วก็ตกใจกับการนำเสนอข่าวมาก น้องก็ไม่กล้ามาเจอหน้าตนหลังจากที่เกิดข่าวขึ้นมา
รายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอให้รอฟังจากทั้งสองคน ขอโทษคุณพ่อคุณแม่ของน้อง ขอโทษกับสิ่งที่ตนทำผิดแล้วก็ทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวตน แต่อยากจะให้รับฟังจากปากของเราทั้งสองคนอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ สุดท้ายก็ต้องขอยอมรับในผลที่เกิดขึ้นตามมา
อันนี้คือสิ่งที่เขียนเพื่อที่จะโพสต์ โดยตนรู้จักกับน้องจากผู้จัดการส่วนตัวเป็นคนแนะนำส่วนประเด็นเรื่องที่ชวนไปกินปูนั้น ม้า อรนภา ระบุว่า ร้านนี้เป็นร้านที่ตนไปบ่อยและมันดีมาก เลยชวนให้น้องไปกินเร็วหน่อย เพราะน้องต้องงดอาหารล่วงหน้าก่อนผ่าตัด 6 ชม.
ระหว่างนั้นก็ไปเดินช็อปปิ้งเสร็จ
ประโยคที่น้องพูดขึ้นมาว่า"ไม่ไปกินปูแล้วนะ " ตนก็เลยตอบว่าจะบ้าหรอ แล้วตนก็ตกใจ เพราะตนจองร้านไว้หมดแล้ว ตอนนั้นอารมณ์และมือมันก็ไป น้องตกใจ บอกว่าตบหน้าผมแบบนี้ไม่ได้ ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ม้า อรนภาเรียกว่าแตะหน้าไม่เรียกว่าตบ
และที่ตนทำไปแบบนี้เพราะตกใจ เพราะอยู่ๆทำไมถึงเปลี่ยนใจ ถ้าไม่ไปควรจะบอกล่วงหน้า ตอนนั้นน้องก็ไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไมไม่ไปกินปูด้วย
ยืนยันไม่ได้โมโห แต่ตนก็รอเพื่อให้เค้าสงบสติอารมณ์สักพัก แล้วก็เดินไปขอโทษเขา
ยอมรับเป็นคนมือไว แต่ไม่ได้ตบ เราก็ขอโทษตลอดและรู้สึกไม่ดีมาก และน้องก็บอกว่าเรื่องนี้ผมจะไม่บอกใคร และพูดคุยกันจนเข้าใจ และไปกินปูกันต่อ
แต่ระหว่างทางไปกินปูก็วานให้น้องถ่ายคลิปขายห่อหมกให้หน่อย น้องก็ถ่ายให้ปกติ
และหลังจากวันที่น้องผ่าตัดศัลยกรรมจมูกได้ 3 วัน ตนก็ไปดูแลเค้าตามปกติ
พอวันที่ 4 คือวันที่ต้องตัดไหม ตนก็โทรไปถามผู้จัดการว่าน้องเป็นยังไง ซึ่งผู้จัดการก็บอกว่าไม่ได้ดูแลน้องแล้ว แล้วก็ติดต่อน้องไม่ได้
จากนั้นตนก็เห็นข่าวที่ทนายแถลงแล้วก็มีคลิปออกมา เบื้องต้นที่น้องไปแจ้งความที่เกาหลี แต่ตนก็ไม่เห็นจะโดนอะไร ตนก็สันนิษฐานว่าเขาคงได้รับการบอกเล่าจากทนายว่าเขาควรจะทำแบบนี้ ที่ไปแจ้งความก็คาดว่าจะเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อที่จะขอกล้องวงจรปิด
ที่ตนรู้เรื่องดังกล่าวแล้ว หลังจากนั้นตนก็โทรหาน้องทันที โทรติดแต่ไม่รับเลยพิมพ์ข้อความไปหาว่าทำไมต้องทำแบบนี้ แต่ไม่รับการตอบรับ ตนได้ลบข้อความออก หลังจากนั้นน้องก็ย้ายที่อยู่
โดยวันที่ 29 พย.น้องตัดไหม จะได้เจอกัน แต่ผู้จัดการก็บอกว่าไม่ต้องไปเจอก็ได้ เพราะน้องเครียดมาก และสิ่งที่น้องทำลงไปเพราะต้องการสั่งสอนตน ที่ตนไปตบหน้าน้อง
เบื้องต้นยังไม่ได้คุยกับพ่อแม่น้อง ขอไปคุยในรายการ...ทีเดียวแล้วกัน
ส่วนตัวตนเคลียร์กับน้องหมดแล้ว และเรื่องไม่น่าจะคงค้างที่ประเทศเกาหลี และไม่เกิดเป็นคดีความ
ส่วนน้องจะดำเนินคดีต่อที่ไทยหรือไม่นั้นตนไม่แน่ใจ
และไม่คิดว่าจะกระทบต่อการขายห่อหมกของตน
ล่าสุด "ทนายตั้ม" ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า
ผมเชื่อว่าคนงงแบบผมทั้งประเทศ
เอ้าแตะก็แตะวะ 5555
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainewsonline