- 14 เม.ย. 2566
ต้องบอกว่าล่าสุด “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” นั้นก็ได้เสียงสั่น น้ำตาคลอหลัง “หนุ่ม ศรราม” กีดกันเจอหน้าลูก ตะโกนด่าต่อหน้า “น้องวีจิ” !
เป็นที่ทราบกันดีว่า “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” โดยทางด้านลูกสาวเพียงคนเดียวอย่าง น้องวีจิ ในวัย 2 ขวบ ก็ได้ยกให้เป็นการดูแลอยู่ภายใต้การดูแลของ “ศรราม” โดย “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” จะมีสิทธิ์ได้เจอลูกสาวแค่ตามตกลงเท่านั้น
เเละล่าสุด “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” นั้นก็ได้เสียงสั่น น้ำตาคลอหลัง “หนุ่ม ศรราม” กีดกันเจอหน้าลูก ตะโกนด่าต่อหน้า “น้องวีจิ” หลังโพสต์คลิปนำของขวัญไปแขวนไว้หน้าบ้านอดีตสามี เพื่อให้เป็นของขวัญวันเกิดลูกสาว อายุครบ 4 ขวบ โดยเธอนั้นได้เผยเหตุผลที่บุกไปหน้าบ้านอดีตสามี เพราะทนคิดถึงลูกไม่ไหว หลังโดนกีดกันไม่ได้เจอหน้าลูกมาหลายเดือน
ล่าสุดมีคลิปเอาของขวัญวันเกิดไปให้ลูก?
“กุ้งพลอยไม่ได้เจอลูกมานานมากแล้วค่ะ ประมาณ 3 เดือน จากกำหนดที่จะได้เจอ จนเราได้กำหนดไปเจอแล้วก็ไม่ได้เจอ เหตุผลที่ไม่ได้เจอเพราะว่าตอนนั้นก่อนที่เราจะไม่ได้รับอนุญาตให้วิดีโอคอล เราวิดีโอคอลหาลูกทุกวัน มันยากมากๆ ด้วยมันไม่มีกำหนดเวลา เช่น คนอื่นจะโทรเมื่อไหร่ก็ได้ แต่กุ้งพลอยไม่สามารถ เราก็พยายามทำความเข้าใจ อย่างก่อนหน้านี้ 4 โมงเย็นเคยโทรได้เพราะลูกเลิกเรียนตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว มีอะไรบางอย่างที่ขัดใจก็เปลี่ยนเป็นก่อนนอนอย่างนี้เราก็ไม่เป็นไร ทำความเข้าใจ”
“แต่ ณ วันนั้น เหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นคือ วีจิมาบอกว่าแม่อยากไปดูหนูว่ายน้ำไหมคะ วันเสาร์ เป็นการวิดีโอคอลคุยกับลูกแล้วลูกมีพัฒนาการมากขึ้น เวลาที่เราได้คุยกันทุกวัน การสื่อสารระหว่างแม่กับลูกมันเป็นอะไรที่อบอุ่น เขาละเอียดอ่อนมากขึ้น เราก็รับปากโอเคได้ เราวิดีโอคอลวันนั้น เราก็เห็นว่ามีใครหลายคนนั่งอยู่บริเวณนั้น ก็น่าจะได้เห็นการตกลงกับลูก ซึ่งมันก็ไม่น่าผิดตามกฎหมายที่แม่จะไปเจอลูกที่โรงเรียน ก็ย่อมได้ หรือจะเจอที่ว่ายน้ำก็ได้ เพราะการเป็นแม่ตามกฎหมายจริงๆ ผู้ปกครองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ควรจะกีดกันหรือห้าม เราก็คิดว่าเราก็ทำได้ เราก็ไป ด้วยความรู้สึกว่าลูกนัดเรา ลูกคงอยากให้เราไปดู”
คือเราก็เข้าใจว่าเขาคงจะได้ยินการตกลงกันของเรากับลูก? “ถ้าเขาแมนพอ แบ่งปันได้มากพอกว่านี้อีก เขาจะรู้ว่าการที่แม่เจอลูกมันไม่ใช่เรื่องอันตรายอย่างที่เขาเข้าใจมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการที่ลูกซ้อมต่อยมวยก็อันตราย แต่ในเวลาเดียวกันเขาเอาลูกไปฉีกขาเรียนบัลเล่ต์ ไม่อันตรายเลย สิ่งที่เขาทำทุกอย่างไม่มีอันตรายเลย แต่สิ่งที่คนเป็นแม่ทำหลายๆ อย่างมันเลยถูกกำหนดในใจเขา ไม่ใช่ทางกฎหมายนะคะ มันคือสิ่งอันตราย กุ้งพลอยพยายามปรับความเข้าใจตรงนี้มาโดยตลอด ให้กำลังใจตัวเองมาโดยตลอด ด้วยความที่ไม่อยากจะมีปัญหา ไม่อยากให้ถึงขั้นต้องฟ้องศาล พยายามกดดันทางโซเชียลบ้าง เพราะพอคุยกันตัวต่อตัวก็ไม่ได้”
“วันนั้นก็ไปที่ว่ายน้ำ ก็ไปลงว่ายน้ำกับลูก ครูสอนว่ายน้ำเขาก็จะบอกว่าเด็กวัยวีจิคุณแม่ไม่ต้องลงก็ได้ แต่เข้าใจความรู้สึกของเด็กไหมคะ สายตาเขา ความต้องการของเขา แล้วเราเป็นแม่ มันบ่งบอกว่าต้องมีแม่ลงไปกับหนูด้วยนะ เขาถึงจะลง มันคือการสื่อสารระหว่างเรากับลูก ก็เลยขอครูแต่ครูที่สอนเขาเข้าใจความรู้สึกของวีจิและแม่ เขายินดีให้เราลง เราเองก็มีมารยาทอยู่แล้ว เราไม่เคยบุกไปเลย เราก็มีมารยาทพอที่จะลงไปแบบไม่ขอจับลูก ให้ลูกได้อยู่กับครู แค่ยืนข้างๆ สระน้ำเป็นกำลังใจให้ลูก”
“ด้วยความที่แม่และลูกรอที่จะเจอกัน พอผ่านช่วงเวลาที่เจอกันได้แล้วได้มาเจอกัน กลายเป็นลูกอยากจะอยู่กับเรา อยากให้เราอยู่ข้างๆ อยากให้เราพยุงเขา อยากให้เราไปมีส่วนร่วมกับสิ่งที่เขาทำ เขาอาจจดจำกิจกรรม ความสัมพันธ์ที่เราเคยทำร่วมกัน พออยู่ตรงนั้นภาพนี้เลยเกิดขึ้นในมุมมองของวีจิ เขาเลยตะโกนด่าเรากลางสระว่ายน้ำ ซึ่งคนก็เยอะว่าลูกไม่ตั้งใจเพราะเรา มันเป็นสิ่งที่น่าอับอายไหมคะ”
อดีตสามีของเราตะโกนขึ้นมา? “อยู่ข้างสระแล้วตะโกนขึ้นมา แล้วก็ทำกิริยาหงุดหงิดงุ่นง่าน ไม่แฮปปี้ ไม่พอใจ แล้วก็บอกว่าวีจิไม่มีสมาธิ แล้วก็ตะโกนด่าเรา ไม่ได้เกรงใจหรือให้เกียรติเราเลย มันไม่แมน แล้ววีจิก็อยู่ตรงนั้น เขาอยู่ในแขนเรา เขาก็หันมามองว่าดูสิว่าเราจะตอบโต้ยังไง ถ้าวีจิไม่อยู่มีด่ากลับแล้ว แต่นี่ลูกอยู่ในแขนเรา เราก็ต้องเก็บอาการ เราพูดไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ตะคอกกลับ แต่มันเป็นการให้เหตุผลว่าทำไมลูกอยากให้แม่มาอยู่ในสระด้วย ทำไมถึงไม่ได้”
“ทำไมพี่อ้อยเป็นแค่พี่เลี้ยงถึงอยู่ได้ พี่ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย แต่นี่เป็นแม่ ทำไมพี่ถึงเป็นกับหนูแค่คนเดียว เขาก็ตะโกนว่ามาอะไรหลายๆ อย่าง เราก็บอกเลยว่าพี่เป็นแบบนี้ไม่แมนพอ ไม่ให้เกียรติความเป็นแม่ หนูอาจจะฟ้องพี่ก็ได้ จากนั้นก็จบกันไป เราก็คิดว่ามันคงจะไม่มีอะไรแล้ว เราอดทนได้กับเขาที่ไม่ควบคุมอารมณ์ ที่ตะโกนด่าเราต่อหน้าลูก ใช้กิริยามารยาท บริบทที่มันทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้แมนพอ เรายังแมนพอมากกว่าเขา”