รู้จัก"แอม ไซยาไนด์" คือใคร ถึงขนาด "อ.อ๊อด" ยังสงสัย ทำไมมีความรู้ทางเคมี

 จากคดีที่สังคมไทยจับตามองอย่างมากในขณะนี้ กรณี  "แอม ไซยาไนด์" หรือ "แอม สรารัตน์" ผู้ต้องหาวางยา ที่มีเหยื่อในพื้นที่ 5 จังหวัด  ล่าสุดพบเหยื่อแล้ว 14ราย เป็นผู้เสียชีวิต13ราย และมีอีก1 ผู้รอดชีวิต นอกจากนี้ยังมีข้อมูลระบุเพิ่มเติมอีกว่า คดีนี้มีความเชื่อมโยงกับเหยื่อพุ่งไปถึง19ราย  ทำเอาหลายคนสงสัยว่า "แอม"สรารัตน์ คือใคร เรียนจบอะไรมา ถึงมีความรู้ด้านเคมี มาก่อเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว

โดยทางด้าน "อ.อ๊อด รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์" นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ได้เข้ามาร่วมตรวจสอบพยานหลักฐาน ที่ทางตำรวจภูธรภาค 7 ได้ส่งหลักฐาน 400 รายการ มาให้ตรวจหาหลักฐานทางเคมี เพิ่มเติมจากวัตถุพยานต่างๆ ภายในที่พักอาศัย รวมถึงรถยนต์รวม 4 จุด ที่เชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของเหยื่อทั้งหมดของ"แอม ไซยาไนด์"

ซึ่ง อ.อ๊อด ได้โพสต์ผ่านเพจ Weerachai Phutdhawong เผยว่า "แอม"สรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ มีความรู้ด้านเคมีอย่างดี ล่าสุดพัสดุที่สั่งซื้อสารเคมีตรวจสอบแล้วเป็น โซเดียม ไทโอซัลเฟต  (Sodium thiosulfate) ใครอยากรู้ว่าสารเคมีตัวนี้คืออะไร ?? ซึ่งจากข้อมูลของ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ของ Sodium thiosulfate ทำความเข้าใจง่ายๆก็คือ Sodium thiosulfate มักใช้ร่วมกับ ไนไทรด์ เพื่อรักษาผู้ป่วยที่เกิดภาวะเป็นพิษจาก ไซยาไนด์

นอกจากนี้ ยังได้มีการตรวจเจอสาร "โซเดียม ไทโอซัลเฟต" ดังกล่าว ในกล่องพัสดุที่ส่งมาถึง แอม เพื่อใช้ในการแก้พิษไซยาไนด์ 

 

รู้จัก "แอมไซยาไนด์"สรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ โดยอ้างอิงจาก ทีมข่าวเนชั่นออนไลน์ ได้ตรวจสอบข้อมูลของ "แอม"สรารัตน์ มีนามสกุลเดิมว่า "วังป่า" เรียนจบจากสถาบันราชภัฏนครปฐม สาขาวิชานิเทศศาสตร์ (การประชาสัมพันธ์) โดยเริ่มเข้าเรียนเมื่อปี 2548 และจบการศึกษาในปี 2552 ทีมข่าวจึงเดินทางไปราชภัฎนครปฐม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ทราบว่า คณบดีฯ ได้ติดราชการ และจะเดินทางเข้ามาทำงานตามปกติในวันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม 2566

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ภายในคณะวิทยาการจัดการ พบว่าส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ใหม่ ไม่รู้จักกับนางสรารัตน์ และไม่ทราบว่าเจ้าตัวจบการศึกษาจากที่นี่ แต่ทราบข่าวคดี "แอม ไซยาไนด์ วางยาต่อเนื่อง"จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 10 ราย

Sodium thiosulfate คืออะไร 

-ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา 

          ให้ sulfur group แก่ cyanide ที่ถูกดึงออกมาจาก cytochrome เพื่อเปลี่ยน cyanide ให้เป็น thiocyanate ซึ่งเป็นพิษน้อยกว่าแล้วถูกขับออกทางไต เป็นยาที่ค่อนข้างปลอดภัย ใช้ร่วมกับ nitriteในผู้ป่วยที่เกิดภาวะ เป็นพิษจาก cyanid

•   ข้อบ่งใช้ : ภาวะ cyanide เป็นพิษเฉียบพลัน
•   ข้อห้ามใช้ :  ไม่มี
•   อาการไม่พึงประสงค์ :  แสบร้อนบริเวณที่ฉีด
•  ปฏิกิริยาต่อยาอื่น : ไม่พบ
•  ขนาดและวิธีใช้ : ผู้ใหญ่ 12.5 g (50 ml ของสารละลาย 25%) ฉีดเข้าเส้นเลือดดำช้าๆ เด็ก 400 mg/kg (1.6 ml/kg ของ 25% สารละลาย) ให้ได้ถึง 50 ml ให้ซ้ำได้ใน 30-60 นาที

อย่างไรก็ตาม สภาเภสัชกรรม  The Pharmacy Council ได้ออกหนังสือเรียนแจ้งเพื่อนสมาชิกเภสัชกร และประชาชนทุกท่าน จากข่าวกรณี "สารพิษไซยาไนด์" 

 สภาเภสัชกรรมขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับผู้เสียชีวิตและครอบครัว และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเร่งหาตัวผู้กระทำผิด รวมทั้งผู้ร่วมกระทำผิดและสนับสนุนการกระทำผิดทุกราย เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว สภาเภสัชกรรมขอเรียนว่า "โปตัสเซียมไซยาไนด์" รวมทั้ง "โซเดียมไซยาไนด์" ไม่ใช่ยา !  

  "โปตัสเซียมไซยาไนด์" รวมทั้ง "โซเดียมไซยาไนด์"เป็นสารเคมีที่เป็นวัตถุอันตราย 

  ซึ่ง "โปตัสเซียมไซยาไนด์" รวมทั้ง "โซเดียมไซยาไนด์" รับผิดชอบดูแลและ ควบคุมโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้ พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 และปกติจะนำมาใช้ประโยชน์ในด้านอุตสาหกรรม ไม่ได้นำมาใช้ทางยา 

 

  อนึ่ง ตามที่มีประเด็นข่าวส่วนหนึ่งที่อาจทำให้เข้าใจว่ามี เภสัชกร เข้าไปพัวพันกับคดีนั้น สภาเภสัชกรรม ขอเรียนว่า เภสัชกร เป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องยาและสารเคมีเพื่อใช้ในการรักษา และป้องกันโรคเท่านั้น และต้องปฏิบัติภายใต้กรอบจรรยาบรรณของการประกอบวิชาชีพ ที่กำกับดูแลโดยสภาเภสัชกรรมอย่างเคร่งครัด 

  หากการสืบสวน สอบสวน ขยายผลแล้ว พบว่า ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมรายใดมีส่วนเกี่ยวพันในการกระทำผิดจริง สภาเภสัชกรรมพร้อมจะพิจารณาโทษทางจรรยาบรรณ ภายใต้อำนาจหน้าที่ของสภาเภสัชกรรม ตามข้อบังคับว่าด้วยจรรยาบรรณวิชาชีพ อย่างเคร่งครัด
ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเต็มได้ที่ 

จดหมายเปิดผนึกสภาเภสัชกรรม กรณีที่ปรากฎเป็นข่าวพาดพิงให้เข้าใจผิดว่า มีเภสัชกรเข้าไปมีส่วนพัวพันการกระทำความผิด