เอ้ ชุติมา ลั่นจากใจ เตือน ฟร้อง ศุภกิจ ให้ระวัง ขอต่อจากนี้ต่างคนต่างอยู่

จากกรณีอดีตคู่รักต่างวัยอย่าง นักแสดงวัยรุ่น “ฟร้อง ศุภกิจ ประสงค์” และนักแสดงสาว “เอ้ ชุติมา นัยนา” ที่จบรักกันไปพักใหญ่ แต่ดูท่าว่าจะจบไม่สวยเพราะมีประเด็นของทรัพย์สินเข้ามาเกี่ยวข้อง

 

 

 

โดยทั้งสองได้ปะทะเดือดกันในรายการโหนกระแส ด้านฟร้อง ศุภกิจ เล่าว่า ตอนนั้นแนะนำให้เอ้ซื้อบ้านซื้อรถ แต่ฟร้องไม่เอาอยู่แล้วเพราะมีบ้านแล้ว แต่ยินดีให้ใช้ชื่อได้ ซึ่งเอ้ต้องผ่อนบ้าน 2 หมื่น ผ่อนรถ 2 หมื่น แล้วก็ส่งเรียนหนังสือ ดูแลในทุกๆ อย่างด้วย พอเลิกกันเอ้เอารถไปแล้วไม่ผ่อนต่อ รวมถึงบ้านด้วย ตอนแรกก็ถามเอ้ว่าจะเอายังไง เขาบอกไม่เอา ทำให้ตนเสียเครดิต ต้องมาใช้หนี้แทนเขา

 

ล่าสุด เอ้ ชุติมา ได้มาออกรายการคุยแซ่บShow โดยช่วงหนึ่ง เอ้ ได้พูดถึงจุดแตกหักว่า มันสุดๆ แล้ว วันนั้นเขากลับบ้าน 9 โมงเช้า พี่นั่งรออยู่ตรงฟุตบาธหน้าบ้าน มันไม่ไหวแล้วจริงๆ แดดส่องแล้วก็คิดว่าฉันทำอะไรอยู่วะ นั่งให้แดดเผาตัวให้สุดๆ  นั่งอยู่หน้าบ้านให้แดดมันเผา แล้วถามตัวเองว่าทำอะไรอยู่วะชุติมา มันไม่ไหวจริงๆ ก็คิดว่าควรไปได้แล้ว ควรที่จะเดินออกไปสักที (ปิดหน้าร้องไห้) จริงๆ ไม่อยากร้องไห้ให้ดราม่าให้ทัวร์ลง ไม่ได้อยากร้องไห้นะคะ มันเห็นภาพวันสุดท้ายที่เราเลิก เราไม่ไหวจริงๆ เราสุดๆ แล้วจริงๆ

 

 

ถามว่าน้องดีมั้ย น้องดีมากในช่วงแรกๆ จากกันด้วยดีนะคะ ยังมีคำพูดๆ ให้กันเลย 3 เดือนแรกยังไลน์หากัน วิดีโอคอลหากัน ยังร้องไห้ เรายังรักกันอยู่ รักมากด้วยค่ะ รักจากใจ แต่พอเขาเริ่มไปทำงานกลางคืน เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป เริ่มมีคนซัพพอร์ต จากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย เขาบล็อกเอ้ทุกทาง บล็อกเฟซ ไอจี ติ๊กต๊อก ไลน์ก็บล็อก เขาก็อยากมีชีวิตของเขา ต่างคนก็ต่างบล็อก เราก็อยากมีชีวิตของเรา

 

 

เราจะบอกน้องในแชทว่าขอให้น้องเจอคนดีๆ ให้รักเขาเหมือนที่เรารัก ขอให้มีชีวิตดีๆ เรียนหนังสือให้จบ และเตือนเขาว่าคนเราถึงหน้าตาหล่อแต่การศึกษาน้อยจะใช้ชีวิตยาก ความหล่อไม่ได้อยู่กับเราตลอดชีวิตนะ จะมีช่วงเราแย่ โทรม แก่ แต่ความรู้จะอยู่กับเราตลอดชีวิต ที่เราส่งเขาเรียนตลอดเพราะเราอยากให้เขามีความรู้ ต้องหล่อและฉลาดด้วย จะทำให้เขาไปข้างหน้าได้เยอะ แล้วเรื่องคนใหม่ซัพพอร์ตตามเรื่องแบรนด์เนม เราก็บอกเขาว่าของแบบนี้แค่ฉาบฉวย วันนึงเราเสียชีวิตไปแล้ว ก็เอาลงโลงไปไม่ได้ เก็บเงินไว้ดีกว่า ไม่ต้องฟุ้งเฟ้อ ตอนเขามีคนดูแลใหม่เราเคยเตือนเขา