- 07 ก.ค. 2566
"หนิง" ทนไม่ไหว ฝากถึง "มือที่สาม" กลางรายการ ถึงขั้นยกมือไหว้ขอร้อง หลังออกมาเปิดหน้ามือที่สาม ฟาดแรงกลางโซเชียล!
จากกรณีที่ทำเอาโซเชียลไฟลุกกลางดึกกันเลยทีเดียว เมื่อ "หนิง ปณิตา" ได้ออกมาเปิดหน้ามือที่สามกลางดึก เพื่อให้ดูกันชัดๆ เพราะมีคนเอารูปหลานสาวไปทำข่าวหวั่นเกิดความเข้าใจผิดจึงได้ชี้แจง ซึ่งเป็นรูปสาวมือที่สามถ่ายคู่กับสามี "จิน ธรรมวัฒนะ"
โดยเธอระบุว่า "ตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะเพื่อนส่ง ข่าวด้านล่าง นี้มา ขออนุญาติใช้พื้นที่นี้ชี้แจงนะคะ รูปบนทางขวามือคือ "หลานสาว" ที่สนิทที่สุดของหนิงค่ะ มีการนำรูปหลานสาวหนิงมาลง (จริงๆมีรูปอีกเยอะเลยที่สามารถนำมาลงได้นะคะ ) หนิงเกรงว่าจะทำให้หลายๆคนเข้าใจผิดกันค่ะว่ารูปนี้คือคู่กรณีของหนิง หลานหนิงกำลังเป็นวัยรุ่นและอยู่ในวัยเรียนที่ต้องยอมรับว่าสังคมเราทุกวันนี้กำลังเสพSocial อย่างหนักมาก หลานและครอบครัวหลานซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของหนิงไม่ควรจะต้องมาเกี่ยวและโดนกระทบในเรื่องนี้เลยค่ะ ขอโทษหลานสาวและครอบครัวด้วยค่ะที่ต้องเข้ามาพัวพันและอาจทำให้โดนเข้าใจผิด และเพื่อไม่ให้เป็นการเข้าใจผิด ที่ถูกต้องคือ รูปล่างค่ะ
ล่าสุด ทางด้าน "หนิง ปณิตา" ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 หลังออกมาเปิดหน้าคู่กรณี ฟาดแรงกลางโซเชียลกลางดึกดังกล่าว เพราะเกิดความเข้าใจผิดโยงไปถึงหลานสาวหนิงที่ถ่ายรูปกับสามี
ธัญญ่า : หลังจากที่หนิงให้สัมภาษณ์?
หนิง : อย่างที่พี่ญ่าให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ก็มีทัวร์มาลง แต่เราก็พูดคุยกันตลอด นักข่าวถามขึ้นมาเรื่องพี่ญ่า ส่วนใหญ่คิดว่าเราโกรธกัน ที่มีช่วงนึงเราเจอกันทุกวัน แล้วช่วงนึงเราก็หาย จริงๆ พี่ญ่าไปเมืองนอก
ธัญญ่า : หลายคนตีความผิด คือเราเหมือนพูดกับนักข่าวคนที่เป็นคู่กรณีกับหนิงโทรมาปรึกษาพี่อยากมาขอโทษหนิงเราก็อธิบายไปว่าเราเป็นสื่อกลางเอาสารอันนี้มาบอกหนิง แต่หลายคนก็ตีความว่าเราเหมือนไปเข้าข้างเขา ทำไมถึงไปเข้าข้างคนที่มาทำให้ครอบครัวหนิงมีเรื่องแบบนี้
หนิง : ถ้าเป็นสมัยก่อน พี่ญ่าเองก็คงไม่คุยกับคู่กรณีหนิงหรอก พูดตรงๆ ต่อให้จะรู้จักกัน ด้วยความที่เราโตกันจนถึงวันนี้ อะไรที่มันคุยด้วยเหตุผล ไม่ได้ใช้อารมณ์มาคุย มันก็พูดคุยกันได้ มันไม่มีปัญหาอะไร ฉะนั้นไม่อยากให้ใครไปตีความว่าเรามีปัญหาอะไรกัน เพราะเราคือคู่จิ้นกัน
ธัญญ่า : 2 วันที่มีรูปออกมา เหมือนเอาภาพของหลานหนิงถ่ายกับคุณจิน แล้วเหมือนกับชี้นำไปว่าอันนี้คือบุคคลที่สาม
หนิง : เมื่อคืนก่อนเอง จริงๆ หนิงหลับไปแล้ว ทางคุณแม่หลานโทรหาหนิง หนิงตกใจ เพราะกลางคืนไม่ค่อยมีใครโทรหาหนิงเท่าไหร่ พอเราได้เปิดเข้าไปในไลน์ เราก็แอบตกใจ เพราะคุณแม่ของน้องเขาเอง ได้รูปอันนี้จากแม่ของเด็กโรงเรียนอื่นๆ ว่ามันเกิดเรื่องเกิดราวอะไรกัน เพราะมันชวนให้เกิดความเข้าใจผิดว่าหลานหนิง หรือน้องเนี่ยเป็นบุคคลที่สาม แต่ตัวหนิงที่ไม่เข้าใจ เอาจริงๆ รูปของคุณจินเองเยอะมากๆ ทำไมไม่ไปเอารูปเขาเดี่ยวๆ หรือรูปกับน้องณิรินก็ได้ทำไมถึงไปเอารูปเขากับหลาน ซึ่งในโลกโซเชียลแทบจะไม่มีเลย หรือไปไล่ดูตามไอจีมีอยู่แค่รูปเดียว ทำไมถึงจงใจไปใช้รูปนั้น แล้วถ้าไปใช้รูปนั้นแล้ว ถ้าเขาเป็นบุคคลที่สามที่เขาไม่เกี่ยวข้องอะไร แล้วเขายังเป็นเยาวชนอยู่ สื่อควรจะต้องเบลอหน้าเด็ก ในขณะบุคคลที่สาม สื่อยังเบลอหน้าเลย แล้วทำไมสื่อไม่เบลอหน้าเด็ก เราก็ตกใจจะทำยังไง แล้วมันก็ชวนให้คนเข้าใจผิดว่าหลานหนิงเป็นบุคคลที่สาม
ธัญญ่า : ตอนที่หนิงรู้ ความตกใจบวกกับความโมโห มันเดือดขนาดไหน?
หนิง : จริงๆ ตกใจมากกว่าโมโหว่าทำไมอยู่ๆ เป็นแบบนี้ สิ่งแรกที่หนิงตกใจและทำเลย หนิงโทรหาคุณจินก่อน แต่ติดต่อไม่ได้ คือหนิงติดต่อเขาไม่ได้มาเป็นอาทิตย์แล้ว แล้วต่อให้มันไม่ใช่เรื่องของเรา เราไม่ได้เป็นคนเอาไปลง แต่เขาต้องมาพัวพันกับเรื่องของเรา ฉะนั้นเราเป็นคนตัดสินใจที่จะแก้ปัญหาตรงนั้น หนิงเลยคิดว่าไม่เป็นไรถ้าเรื่องมันเป็นมาอย่างนี้แล้ว เพื่อกันไม่ให้ใครมาเข้าใจผิดหรือมาโดนในวังวนแบบนี้อีก หนิงเป็นคนเปิดเองดีกว่า
ธัญญ่า : อะไรที่ทำให้หนิงตัดสินใจ?
หนิง : หนิงไม่ได้ตัดสินใจด้วยอารมณ์นะ เดี๋ยวนี้เวลาหนิงจะทำอะไร หนิงจะคิดๆ คิดแม้กระทั่งถ้าเขาฟ้องหนิงละ แต่กับสิ่งที่เด็กคนหนึ่งที่เป็นหลานหนิง แล้วเขาต้องเจอกับอะไรที่เขาต้องไปนั่งอธิบาย คนเชื่อ กับคนไม่เชื่อ
ธัญญ่า : หลานโดนอะไรบ้าง?
หนิง : คงรู้สึกตกใจ แต่ในมุมของครอบครัวเขา เขาจะโดนคนเข้ามาถาม แล้วยิ่งพอเรามาถามเขา เห้ย.. ฉันขอโทษจริงๆ ขอโทษจากใจที่ต้องลากมาพัวพันเรื่องนี้ เขาตอบแบบสั้นๆ ดีๆ ทั้งสามีและภรรยา เพื่อไม่ให้เราเครียดมากไปกว่านี้ ว่าพี่เข้าใจ หนิงไม่ได้เป็นคนลง ขอบคุณมากที่หนิงพยายามแก้ไขปัญหา แต่…ตรงนั้นหนิงไม่ขอลงในดีเทล เรายิ่งรู้สึกว่าไม่ได้
ธัญญ่า : ทางสื่อที่ลงมีการลบไปหรือยัง?
หนิง : ไม่ได้ลบด้วย แล้วสื่อหลายๆ สื่อ พอเอาไปลงข่าวต่อ หนิงเองก็จะต้องโทรไปอีกหลายๆ สื่อ หนิงโทรหาแทบทุกฉบับ ถ้าจะลงรูปเด็กและเยาวชนควาเบลอหน้าด้วย แต่สิ่งที่แปลกใจ คือทำไมบุคคลที่สามถึงไม่เบลอหน้า บุคคลที่สามที้เป็นคู่กรณีหนิงไปเบลอเขา แต่เด็กกลับไม่ไปเบลอเขา
ธัญญ่า : อย่างนี้กับการที่หนิงได้โพสต์ภาพเขาไปในเฟซบุ๊กตัวเอง มันจะมีผลต่อรูปคดีของหนิงไหมได้ปรึกษาทนายไหม?
หนิง : ได้คุยค่ะ ทนายบอกว่าเขาอาจจะฟ้องหนิงได้
ธัญญ่า : ตรงนี้หนิงกังวลไหม?
หนิง : ไม่เลยพี่ เพราะมันคือสิ่งที่หนิงต้องปกป้องหลานหนิง อย่างที่หนิงบอก หนิงพยายามโทรจะปรึกษาคุณจินแล้วในเมื่อไม่ได้รับการปรึกษา หนิงได้คุยกับคุณพ่อ คุณแม่ของน้องว่าหนิงจะทำสิ่งนี้ ซึ่งคุณพ่อ คุณแม่ก็เป็นเพื่อนกับคุณจินด้วย
มันมีข่าวออกมาว่าบุคคลที่สามจะฟ้องสื่อต่างๆ ที่เอารูปเขาไปลง หนิงมีความคิดเห็นยังไง?
หนิง : หนิงต้องบอกแบบนี้ ตอนนี้เรื่องมันค่อนข้างแรง หนิงได้มีโอกาสอ่านทุกคอมเมนต์ที่เขียนเข้ามาซัพพอร์ตให้กำลังใจหนิง หนิงขอบคุณมากๆ หนิงไม่คิดว่าจะมีใครรักหนิงแบบนี้ด้วยซ้ำ แล้วการที่ทุกคนเขียนคอมเมนต์หรือเข้ามาซัพพอร์ตหนิงมันทำให้ทุกคนเดือดร้อน เอาเป็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของหนิงกับบุคคลที่สาม หนิงไหว้คุณล่ะ จริงๆผ่านสื่อเลย มันเป็นเรื่องของคุณกับหนิง ถ้าคุณจะทำอะไรก็แล้วแต่ คุณมาฟ้องที่หนิง จัดการที่หนิงคนเดียว อย่าไปจัดการบุคคลอื่นๆ ให้เรื่องราวมันต้องบานปลาย แล้วที่ทุกคนเมตตาและรักหนิง หนิงขอบอกตรงนี้เลยว่า ไม่ว่าหนิงจะรู้จักหรือไม่รู้จัก ถ้าใครถูกฟ้อง หนิงจะออกโรงปกป้องเขาเอง ถ้าจะจัดการ มาจัดการที่หนิงคนเดียว เพราะมันเป็นเรื่องระหว่างคุณกับหนิง อย่าลากบุคคลอื่นมาเกี่ยวข้อง ที่เขามีความรู้สึกแล้วอยากซัพพอร์ต แล้วเขาให้กำลังใจหนิง อย่าดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย มาเคลียร์กับหนิงเองดีกว่า เพราะว่าจริงๆ แล้วศาลนัด 2 รอบแล้ว
ธัญญ่า : ความรู้สึกที่เขาไม่มา?
หนิง : คือถ้าเขาไม่โทรไปบอกพี่ญ่าว่าเขาอยากจะขอโทษหนิง หนิงจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่เมื่อเขาโทรไปบอกพี่ญ่าว่าเขาอยากขอโทษหนิง แต่เขาไม่มา แล้ววันนั้นหนิงได้แจ้งความจำนงต่อผู้ไกล่เกลี่ยแล้วว่าหนิงว่างทั้งวัน หนิงจะรอทั้งวันก็ไม่มา มันก็รู้สึกแบบไม่เป็นไร
ธัญญ่า : สุดท้ายเรื่องนี้อยากให้จบยังไง กับเรื่องที่เราฟ้องเขาด้วย?
หนิง : ณ วันนี้ก็เหมือนเดิม
ธัญญ่า : หลายคนมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องเซ็นใบหย่า เซ็นหรือยัง!
หนิง : อย่างที่หนิงบอกไปเมื่อ 2 วันก่อน ตอนนี้มันออกไปเยอะมาก หนิงเซ็นหรือยัง หนิงยังไม่ได้เซ็น หนิงเซ็นแล้ว หนิงได้ไปเป็นร้อยล้าน กับบางข่าวบอกว่าหนิงไม่ได้อะไรเลย เอาเป็นว่าทั้งหมดทั้งมวลขอให้ทุกคนรอฟังจากปากหนิงคนเดียว แล้วหนิงจะตอบในวันที่หนิงพร้อม ณ วันนี้อย่าเพิ่งไปตามข่าว รอฟังจากหนิง แล้วสิ่งเหล่านี้เมื่อมันยังเป็นอะไรที่ค้างคาใจทุกคน แล้วมันถูกขุดๆ กันไม่เลิก หนิงจะตอบให้ รอฟังจากหนิงคนเดียวดีกว่า
ธัญญ่า : ณิรินเป็นยังไงบ้าง?
หนิง : โอเค หนิงโชคดีมาก หนิงได้ลูกสุดประเสริฐ เขาพยายามทำความเข้าใจในทุกๆ เรื่อง แต่อย่างที่หนิงบอก เด็กคนหนึ่งที่เขาพยายามจะแข็งแรง พยายามจะเข้าใจ และรับกับสถานการณ์ ความเปลี่ยนแปลงที่เขาเองไม่ได้เป็นคนเลือก ฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุด เขาควรได้ความมั่นคงทุกๆ เรื่องที่เขาเคยได้รับทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่ว่าเป็นความมั่นคงทางด้านการศึกษา ที่อยู่อาศัย ค่าใช้จ่าย การเงิน อย่างน้อยๆ เขาต้องได้รับสิ่งนี้จนเขาจบมหาวิทยาลัย แล้วเขาช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งหนิงพยายามทำสิ่งนี้ให้กับลูกหนิง อนาคตจะเป็นยังไงไม่รู้ หนิงขอบคุณเขามาก วันนี้เขาเพิ่งปิดเทอม ใบเกรดการเรียนก็เพิ่งออกมา ทุกคนห่วงเขาหมด เขาไปโรงเรียนแล้วเขาจะเรียนเป็นยังไง เขาจะมีสมาธิ จะโฟกัสการเรียนได้ดีไหม แต่วันนี้ผลการเรียนออกมา เมื่อเช้าหนิงน้ำตาไหล จากที่มันดีอยู่แล้ว มันดีขึ้นไปอีก หนิงภูมิใจมาก วันนี้ความเปลี่ยนแปลงของหนิง ไม่ควรมีผลกระทบกับเขา ฉะนั้นที่เขาได้รับ เขาต้องได้รับเหมือนเดิม แม่หนิงนี่แหละจะทำหน้าที่พ่อและแม่ให้กับณิริน
ธัญญ่า : เขาให้กำลังใจอะไรหนิงบ้าง?
หนิง : กอดตลอด เวลาดื้อก็พยายามจะขอโทษ หนูจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น เวลาดีก็ดีๆ แล้วเขาบอกว่าสิ่งที่แม่อยากให้เขาเป็นมากที่สุด อยากให้เขาเป็นคนดี อยากให้เขามีความสุข หนูจะพยายามทำให้ได้
ธัญญ่า : ความคืบหน้าของคดีตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว?
หนิง : เหมือนจะนัดอีกทีตุลาคม ต้นๆ เดือน เหมือนเขาส่งเข้ากระบวนการสืบพยายาน หนิงจะเป็นนัดเช้า คู่กรณีหนิงจะนัดบ่าย ยังไง 4 ตุลาคมก็ต้องไปที่ศาล
ธัญญ่า : ถ้าสมมติเขาไม่ไปอีกมันจะเป็นยังไง?
หนิง : อันนี้ทนายบอก แต่หนิงไม่แน่ใจว่าใช่ไหมในแง่ของกฎหมาย ก็คงดูจากหลักฐานที่เรายื่น แล้วพิจารณา และมีคำสั่ง แล้วต้องรอฟังคำสั่ง คำตัดสินว่าจะเป็นยังไง
ธัญญ่า : สุดท้ายแล้วถ้าเลือกได้ อยากให้จบยังไง?
หนิง : จริงๆ ถ้าสามารถประณีประนอมได้ หนิงก็อยากประณีประนอม แต่อย่างที่หนิงบอกว่าในการที่เราจะประณีประนอมให้หนิงถอนฟ้องให้ มันต้องมาจากความรู้สึกสำนึกผิดอย่างจริงใจ โดยที่ไม่หาข้ออ้าง เพราะวันที่เขาคิดว่าหนิงกับคุณจินเลิกกันแล้ว ทุกคนพี่เป๊ก พี่ญ่า จะเพื่อนของเขาที่เป็นดารานักแสดง คนรอบข้างทุกคน ต่างยืนยันแล้วว่าเขาไม่ได้เลิกกัน ฉะนั้นไม่ต้องเอาอะไรมาเป็นข้ออ้าง สำนึกผิด แก้ไข อย่างจริงใจเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะตราบใดที่ไม่สำนึกผิดแล้วแก้ไขอย่างจริงใจเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ อย่าลืมว่าหนิงรู้จักคนเยอะเวลาที่ไปพูดอะไรถึงหนิง มันก็จะกลับมาถึงหนิง แต่กลับมาหนิงก็จะหารครึ่งนึง เราจะไม่ฟังทั้งหมดหรอก แต่หารครึ่งหนึ่งหนิงก็ยังรับไม่ได้สักเท่าไหร่ มันก็จะจบลงด้วยดี ซึ่งหนิงใจดีถึงขนาดบอกกับคุณจินว่า ถ้ารักกัน แล้วอยากอยู่ด้วยกัน ช่วงนี้คือช่วงฮันนีมูนพรีเรียเของคุณ เธอช่วยเขาหน่อยสิ
ธัญญ่า : ช่วยอะไร
หนิง : ช่วยในเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ช่วยเขาหน่อย สมมติหนิงฟ้องร้องค่าเสียหายไปเท่าไหร่ ครึ่งนึงก็ได้ ช่วยเขาหน่อยเดี๋ยว
หนิงจบให้ หนิงใจดีขนาดนั้น ช่วยเขาหน่อย เรื่องจะได้จบเร็วๆ
ธัญญ่า : ทางจินว่ายังไง?
หนิง : อันนี้หนิงไม่ทราบ เขาต้องเป็นคนตอบเอง