- 06 ส.ค. 2566
มาริโอ้ เข้าให้ข้อมูลรอบแรกแล้ว ปมเอี่ยวโยงแก๊งสวมทะเบียนรถ ยอมรับมีชื่อในเล่มรถจริง เหตุซื้อรถต่อมาจากรุ่นพี่อีกทอด
กรณี ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกรมขนส่งทางบก ทางบก และตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดปฏิบัติการ "พลิกถนนล่า รหัสโจรกรรม" จับ 2 ผู้ต้องหาแก๊งสวมทะเบียนรถ โดยแอบใช้รหัสยูสเซอร์เนอม-พาสเวิร์ดของเจ้าหน้าที่ขนส่ง เข้าไปเจาะข้อมูลเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลรถยนต์ จากนั้นไปแจ้งหายเพื่อทำเล่มทะเบียนใหม่ ก่อนนำไปจำนำหรือขาย โดยปูพรมยึดรถได้65 คัน มูลค่ากว่า 77 ล้านบาท สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่มีทั้งดารานักแสดงดัง ชื่อย่อ ดารา ม. คือ มาริโอ้ เมาเร่อ
โดยจำนวนนี้มีพระเอกชื่อดังอักษรย่อ "ม." กลุ่มไฮโซและคนเล่นรถโบราณ เบื้องต้นตำรวจได้ออกหมายเรียกตาราคนดังกล่าวมาสอบปากคำ ก่อนที่ต่อมาทางมาริโอ้ เมาเร่อ นักแสดงชื่อดังได้ออกมายอมรับว่าเป็นดารา "ม" ที่มีชื่อเอี่ยวโยงแก๊งดังกล่าว หลังซื้อรถมาจากรุ่นพี่ที่รู้จักพร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจเตรียมให้ปากคำกับทางตำรวจ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 6 ส.ค.66 พล.ต.ต. อำนาจ ไตรพจน์ รองผบช.สอท เปิดเผยว่า ทางชุดทำงานได้มีการออกหมายเรียก มาริโอ้ เมาเร่อ นักแสดงหนุ่มเข้าให้ปากคำแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา และยังไม่ได้มีการให้การเป็นลายลักษณ์อักษร
โดยระหว่างนั้นได้มีการพูดคุยให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในเบื้องต้นว่า
ซื้อรถต่อมาอีกทอดหนึ่ง ไม่ใช่การซื้อซากรถแล้วนำมาประกอบ ซึ่งเป็นการซื้อรถมาพร้อมกับเอกสารทะเบียนเล่ม จึงไม่รู้ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม ซึ่งในส่วนนี้เพื่อความชัดเจนจะต้องเรียกนักแสดงหนุ่มให้ปากคำ พร้อมนำเอกสารหลักฐานมาแสดง
ส่วนจะเป็นวันเวลาใดนั้นอยู่ระหว่างการประสาน นอกจากนี้ต้องสอบพยานแวดล้อม รวมทั้งบุคคลที่สามที่ดาราหนุ่มอ้างว่ามีการติดต่อซื้อขายกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อนำมาดูด้วยว่ามีเจตนาว่าซื้อโดยไม่รู้ว่ารถคันนี้เป็นรถไม่ถูกต้อง หรือรู้อยู่แล้วแต่ตั้งใจ จงใจซื้อ โดยยังไม่เชื่อในคำให้การทั้งหมดของนักแสดงหนุ่ม
ในส่วนของการขยายผล ขณะนี้พบว่ามีกลุ่มที่มีรถโบราณที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นรถเถื่อนและแอบสวมทะเบียนทำผิดกฏหมาย จำนวนกว่า 50 คัน ชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนกำลังขยายผลจับกุม โดยจะจับกุมเครือข่ายรายใหญ่ให้ได้ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้มักจะนำซากมาจากที่อื่นแล้วนำมาประกอบก่อนจะจดทะเบียนปลอมและขายให้กับผู้ที่ชื่นชอบ ทั้งที่ผิดกฎหมาย
โดยในวันที่ 7 ส.ค.66 จะเรียกชุดทำงานและพนักงานสอบสวน หารือวางแนวทางในการขยายผลเพื่อที่จะสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามคดีนี้ทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ขยายผลการจับกุม พร้อมเน้นย้ำให้ชุดทำงานดำเนินการรัดกุม ทำงานตรงไปตรงมา หากพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปที่กลุ่มบุคคลใดที่ส่อไปในการกระทำผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป